8 UX Research Method — 5 Minutes UX/UI Podcast EP.8
อยากเริ่มทำ UX Research ต้องใช้ 8 Method นี้ 5 Minutes UX/UI Podcast
ในหลายๆครั้งเราจะต้องทำการ Research เพื่อที่จะทำความเข้าใจทั้ง Bussiness ทั้ง User รวมไปถึงเทคโนโลยีหลายๆแขนง เพื่อที่จะพัฒนาตัว Product / Service ไม่ว่าจะทั้งด้าน Physical / Digital ต่างๆให้ดีขึ้น
คำถามคือวิธีการที่ใช้ทำ UX Research มีวิธีไหนบ้าง วันนี้จะชวนทุกคนมาดูกันว่า 8 วิธีการที่เราใช้ในการทำ UX Research มีอะไรกันบ้าง
1.User Interview
การทำ User Interview ถือเป็นไม้ตายอันนึงในการทำ User Research เพราะสามารถทำได้เร็วและได้คำตอบที่ลึก คือสามารถเจาะได้ถึงที่มาของปัญหาไม่ใช่แค่สิ่งที่ผู้ใช้ทำหรืออยากทำ ดังนั้นการทำ User Interview จึงควรตั้งเป้าที่จะขุดไปให้ถึงรากของปัญหาให้ได้
2.Questionnaire
Questionnaire เป็นการเก็บข้อมูลแบบสอบถาม โดยสร้างแบบสอบถามขึ้นมา เราต้องรู้ถึงปัญหาของผู้ใช้ ปัญหานี้เกิดในผู้ใช้กลุ่มไหน แล้วนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นสมมติฐาน แต่ข้อเสียของ questionnaire คือ คำตอบอาจจะมีการเอนเอียงได้ (Bias) ไม่สามารถอธิบายแทนสิ่งที่ผู้ใช้เจอมาได้ทั้งหมด คำตอบที่ได้ไม่หลากหลาย และมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลจากผู้ใช้ ถ้ามีการออกแบบแบบสอบถามไม่ดี
3.Card sorting
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราได้ออกแบบ วางแผนการจัดการโครงสร้างของเว็บไซต์ (Information Architecture) โดยการจัดกิจกรรมเรียงการ์ดกับผู้ใช้งานของเรา ว่าผู้ใช้งานของเราสามารถเรียงข้อมูลเป็นอย่างไร เป็นเหมือนอย่างที่เราคิดไว้หรือไม่ เพื่อให้เรานำข้อมูลที่ได้จากการทำกิจกรรมนี้ไปใช้ในการวางแผนระบบที่เรากำลังจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดย Card sorting จะช่วยให้เราเข้าใจความคาดหวังของผู้ใช้งานระบบของเรา
4.A/B testing
A/B testing หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า Split test นั้น คือการทดสอบรูปแบบขององค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์เพื่อหารูปแบบที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยที่วิธีการทำจะเป็นการแบ่งกลุ่มเป้าหมายที่จะทำการทดสอบออกเป็นสองกลุ่มเท่าๆ กัน กลุ่มแรกให้เห็นแบบ A กลุ่มที่สองให้เห็นแบบ B แล้ววัดผลว่าแบบใดให้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ดีที่สุด เช่น การคลิก การซื้อสินค้า หรือการลงทะเบียน เป็นต้น ยกตัวอย่างที่เห็นภาพง่ายที่สุดคือการเปลี่ยนสีของปุ่ม Add to cart เพื่อดูว่าสีแดงหรือสีเขียวทำให้คนคลิกในเปอร์เซ็นที่มากกว่ากัน หากพบว่าสีเขียวให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในทางสถิติแล้ว ก็จะนำมาปรับใช้กับเว็บจริงต่อไป ซึ่งก็เชื่อได้ว่าจากผลลัพธ์ที่ยืนยันได้ทางสถิติจะส่งผลให้การปรับเปลี่ยนนั้นเกิดการคลิก Add to cart ที่มากขั้นนั่นเอง
5.Competitive Analysis
Competitive Analysis คือ กระบวนการวิเคราะห์คู่แข่ง ทั้งคู่แข่งทางตรงและทางอ้อม โดยวิเคราะห์ในมิติที่เราสนใจและมีประโยชน์กับเรา การทำ Competitor Analysis จะช่วยให้เราเข้าใจภาพรวม รู้จุดอ่อนจุดแข็ง สามารถมองหาโอกาส และวางยุทธ์เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน
6.Accessibility Evaluation
หรือการประเมินการช่วยในการเข้าถึง คือ การทดสอบคุณภาพของการช่วยในการเข้าถึง ทั้งการจัดการเนื้อหา องค์ประกอบต่างๆ การออกแบบ รวมทั้งโค้ดระบบต่างๆ ซึ่งจะประเมินจากส่วนที่มีปัญหาบ่อยที่สุด แน่นอนว่าไม่มี UI ใด ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เลย ดังนั้นการประเมินคุณภาพนี้จึงเน้นไปที่การช่วยลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเอง
7.Eye Tracking
Eye Tracking หรือ การติดตามสายตา เป็นเทคนิคหนึ่งในกระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้หรือลูกค้า โดยจะวิเคราะห์จากการมองเห็นหรือการดึงดูดสายตาของผู้ใช้ ว่าผู้ใช้มองเห็นอะไร ใช้ระยะเวลาในการมองเห็นไปเท่าไหร่
ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ Eye Tracking ของผู้ใช้จะบอกกับเราว่าส่วนใดในผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้หรือส่วนใดที่ไม่จำเป็นสำหรับการใช้งาน โดยอาจจะอยู่ในรูปแบบของข้อมูลเชิงปริมาณที่เป็นจำนวนสถิติต่าง ๆ ที่ได้จากการใช้งานผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถออกแบบการใช้งานผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
8.Usability Testing
Usability Testing การทดสอบคุณภาพ และความยากง่ายของการใช้งาน Product โดยกำหนดเป้าหมายหรือกิจกรรมเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ โดยสังเกตการใช้งาน พฤติกรรม และอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ของผู้ใช้ในขณะที่กำลังใช้งานอยู่ เป็นวิธีการหนึ่งในที่เราจะได้รู้ Feedback ของเว็บหรือแอป เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการทำ UX Design ที่ทำให้เราเข้าใจผู้ใช้มากขึ้น โดยการนำแอปของเราไปให้ผู้ใช้ลองใช้งาน ในสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริงที่สุดซึ่งวิธีนี้ทำให้เราได้เห็นว่าผู้ใช้มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อแอป สิ่งที่เราทำมานั้นได้ผลหรือเปล่า แก้ปัญหาให้เขาได้จริง ๆ
ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่
