Design Thinking คืออะไร? — 5 Minutes UX/UI Podcast EP.6
Design Thinking คืออะไร? สำคัญกับสาย UX/UI ยังไง ไปฟังกันนะครับ
5 Minutes UX/UI Podcast
Design Thinking นับว่าเป็น Design Process ที่เรามักจะใช้ในงาน UX เป็นประจำ วันนี้เราอยากจะพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับ Process คร่าว ๆ ของ Design Thinking กัน
เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าในสายงาน UX/UI มักจะมีกระบวนการออกแบบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ Research การออกแบบ User Interface หรือกระบวนการคิดค้นไอเดียต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมาย
แต่โดยหลักๆแล้วพื้นฐานของกระบวนการออกแบบที่เรามักจะใช้กันในการออกแบบ UX/UI ก็คือ Design Thinking นั่นเอง ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจผู้ใช้งาน และการทำ Prototype เพื่อทดสอบว่าสิ่งที่ดีไซน์เนอร์คิด หรือออกแบบมานั้น ตอบโจทย์ปัญหาของผู้ใช้งานได้จริงๆ หรือไม่ โดย Design Thinking Process มีอยู่ด้วยกัน 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.Empathize
ขั้นตอนแรกของ Design Thinking ก็คือการทำความเข้าใจผู้ใช้งาน หรือก็คือ ‘Empathy (การเข้าอกเข้าใจ)’ คือกระบวนการที่ หยิบปัญหา, ความสนใจ หรือพฤติกรรมของ User (ผู้ใช้งาน) มาเป็นจุดโฟกัสในการทำความเข้าใจผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย หรือเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการแก้ไขนี้เพื่อหาหนทางที่เหมาะสมและดีที่สุดให้ได้
2.Define
หลักจากที่ลงลึกไปพูดคุย และใช้หลักการ Empathy กับผู้ใช้ไปแล้ว การ Define ก็คือการสรุปข้อมูลนั้นเอง และเรานำข้อมูลที่รวบรวมมา แจกแจงหัวข้อของปัญหาของผู้ใช้ โดยสิ่งที่ต้องทำต่อก็คือ เมื่อเรารู้ถึงปัญหาแล้ว เราควรจะหาทาง ‘แก้ไขปัญหา’ แต่ในเมื่อวิธีการมีได้ 108 วิธี แล้วเราจะใช้ออกแบบวิธีไหนดี ให้ตอบโจทย์กับ User มากที่สุด
3.Ideate
หลังจากที่เราได้ทำความเข้าใจประสบการณ์และความต้องการของผู้ใช้งานผ่านขั้นตอน Empathise และได้วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลในขั้นตอน Define จนได้พบปัญหาที่แท้จริงของผู้ใช้งานแล้ว ก็ถึงช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้เริ่มคิดนอกกรอบ เพื่อหา Solution ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ปัญหาของผู้ใช้งานได้ โดยเราอาจจะใช้เทคนิคการคิดไอเดีย เช่น Brainstorm, Brainwriting หรือ Worst Possible Idea
ซึ่งในช่วงแรกของการคิดไอเดียเราต้องคิด Solutions ที่เป็นไปได้ออกมาให้ได้มากที่สุดก่อน แล้วจึงค่อยเลือกไอเดียที่ดูเข้าท่ามาต่อยอด และเอาไปลองทำให้เป็นรูปเป็นร่างในขั้นตอนต่อไป
4. Prototype
หลังจากได้ไอเดีย ไม่รอช้า ที่จะร่างภาพให้เป็นรูปเป็นร่าง ขั้นตอนนี้ก็คือ Prototype (ปกติจะเรียกทับศัพท์กันเลย) ซึ่งเป็นการลองดีไซน์ Product โดนนำไอเดียที่ได้จากขั้นตอน Ideate มาลองจำลองดูว่า ที่เราลงความเห็นไปเมื่อกี้ ถ้าลองนำมาออกแบบให้เห็นภาพมากขึ้น คราวนี้จะได้รู้ว่ามันดีกับผู้ใช้งานจริง ๆ ใช่ไหม ซึ่งจุดนี้จะไปต่อยอดกับขั้นตอนที่ 5 คือ Test หรือการลองวัดผลว่า Prototype เราตอบโจทย์กับ User จริงไหม
เป้าหมายที่สำคัญในขั้นตอนนี้คือการหา Solution ในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแปลว่า Prototype ที่จะนำไปทดสอบควรมีมากกว่าหนึ่งแบบ เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบได้ดียิ่งขึ้น เมื่อจบขึ้นตอนนี้ทีมดีไซน์เนอร์จะเห็นภาพชัดมากขึ้นว่าผู้ใช้งานเขาคิด รู้สึก และพฤติกรรมจริงที่ตอบสนองกับผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบไปอย่างไร
5.Test
ซึ่งในขั้นตอนนี้นั้นจะเป็นการลองวัดผลกับ Prototype ของเราว่าตอบโจทย์กับผู้ใช้จริงไหม เพราะบางทีเราเองที่เป็นคนออกแบบ อาจจะไม่ได้เข้าใจถึง Product ของ Target ผู้ใช้ แบบ 100% ซึ่งอาจจะเกิดข้อเข้าใจผิดว่า ‘ผู้ใช้อาจจะต้องการแบบนี้แน่ ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่’
ข้อสำคัญของข้อนี้คือทดสอบกับ Target ผู้ใช้ และรวมรวบ Feedback จากผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด และเป็นกลางเสมอ คำว่าทดสอบอาจจะฟังดูเหมือนขั้นตอนสั้นๆ แต่ใน ความเป็นจริง เราต้องมีการ ‘ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง แก้ไข’ ซ้ำหลายรอบเพื่อให้ได้คำตอบที่ดีที่สุด คำตอบที่คุณควร ได้ก็คือ ‘อะไรที่ผู้ใช้ชอบ’ และ ‘อะไรที่เราต้องปรับปรุง’ หากในขั้นตอนนี่เราคิดว่า ‘ไอเดียไม่สามารถไปต่อได้’ เราก็ต้องกลับไปดูไอเดียในขั้นตอนสาม (Ideate) ใหม่อีกรอบกัน
สุดท้ายแล้วกระบวนการ Design Thinking หลายๆคนคิดว่ามักจะถูกนำมาใช้ในเรื่องของ UX/UI เพื่อให้สิ่งที่ออกแบบมาตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน แต่หัวใจสำคัญคือการคิดออกแบบเพื่อสร้างกระบวนการที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย นำมาซึ่งความพึงพอใจและความประทับใจของผู้ใช้งาน
ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่
