ความแตกต่างระหว่าง Bug และ Defect

Voranuch (Fai)
WeLoveBug dot Com
Published in
2 min readAug 16, 2023

ในวงการ Software Development ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Bug กับ Defect ใช่ไหมคะ แต่ถ้ามองจากมุมคนนอก อาจจะเคยได้ยินคำว่า Bug มาบ้าง แต่กับ Defect อาจจะไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่

ใช่ค่ะวันนี้เรื่องที่เราจะมาพูดถึงคือ Bug กับ Defect สองตัวนี้เป็นอะไรที่คนในวงการ Software Development ไม่ค่อยอยากเจอสักเท่าไหร่ แต่ก็หลีกเลี่ยงมันไม่พ้นจริงๆ ค่ะ ยิ่งหนียิ่งเจอ หลายๆ คนอาจจะมีความสงสัยว่า Bug กับ Defect เนี่ยมันคือตัวเดียวกันไหม จริงๆ ทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันอยู่ค่ะ ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไร เดี่ยวเราจะมาอธิบายให้ฟังค่ะ

Bug คืออะไร

คำนิยามของ Bug : Bug คือข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์หรือโค้ดที่ทำให้การทำงานผิดปกติ

ในแง่ของคนธรรมดา Bug คือข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ที่ทำให้มันไม่ทำงานอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่ง Bug สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น Bug ที่เกิดขึ้นขณะเขียนโค้ด, สมมติฐานที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีที่ผู้คนจะใช้ซอฟต์แวร์ หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่ซอฟต์แวร์ทำงาน เป็นต้น นักพัฒนาสามารถค้นพบ Bug ขณะทดสอบซอฟต์แวร์หรือพบโดยลูกค้าหลังจากเปิดตัวการใช้งานไปแล้ว

Bug มีหลายประเภท เช่น Bug เกี่ยวกับ Algorithmic, Logic, และ Resource เป็นต้น

  • Algorithmic bugs เกิดขึ้นเนื่องจากความผิดพลาดทางคณิตศาสตร์หรือตรรกะที่ใช้ในการทำให้ซอฟต์แวร์ทำงานได้
  • Logic bugs เกิดขึ้นเมื่อซอฟต์แวร์ทำงานไม่ถูกต้องเนื่องจากรหัสผิดพลาด
  • Resource bugs เกิดขึ้นเมื่อซอฟต์แวร์ใช้หน่วยความจำหรือทรัพยากรอื่นมากเกินไป ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงหรือเกิดปัญหา

แล้ว Defect คืออะไร

คำนิยามของ Defect : Defect คือข้อผิดพลาดในผลิตภัณฑ์ที่ลดคุณค่าหรือความสามารถในการใช้งาน

ในแง่ของคนธรรมดา Defect คือปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ค้นพบช่วงระหว่างการทดสอบ หากฟีเจอร์ไม่ทำงานตามที่ควรจะเป็น ถือว่ามี Defect ซึ่งมันอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของซอฟต์แวร์และความง่ายในการใช้งาน

Defect สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ข้อผิดพลาดในการออกแบบ, สมมติฐานที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการใช้ซอฟต์แวร์, การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมที่ใช้ซอฟต์แวร์ เป็นต้น

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Defect ที่แตกต่างจาก Bug นั้นสามารถระบุและแก้ไขได้ยาก Defect มีหลายประเภท เช่น Integration, Performance, Design และ Logical

  • Integration defects เกิดขึ้นเมื่อส่วนต่างๆ ของซอฟต์แวร์ไม่ทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม
  • Performance defects เกิดขึ้นเมื่อซอฟต์แวร์ไม่ทำงานตามที่คาดไว้ในเงื่อนไขบางประการ
  • Logical defects คือข้อผิดพลาดของรหัสที่เกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิ่งที่ซอฟต์แวร์ควรทำ
  • Design defects เกิดขึ้นเมื่อรูปลักษณ์หรือการทำงานของซอฟต์แวร์ไม่ถูกต้อง

วิธีป้องกัน Bug และ Defect

การปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกัน Defect และ Bug ต่อไปนี้คือวิธีป้องกันที่นำมาบางส่วนค่ะ

  • Code Reviews: ดำเนินการตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดเพื่อตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ ผู้ตรวจสอบสามารถระบุ Bug, แนะนำการปรับปรุง และทำให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานการเข้ารหัส
  • Automated Testing: ใช้เฟรมเวิร์กในการทดสอบอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของฟังก์ชัน, ประสิทธิภาพ และความเชื่อถือได้ ตัวอย่างการทดสอบอัตโนมัติก็มี เช่น Unit test และ Integretion test ช่วยตรวจหา Bug ในระดับแอปพลิเคชันต่างๆ
  • วิธีการแบบ Agile และ DevOps: นำวิธีการแบบ Agile หรือ DevOps มาใช้เพื่อการพัฒนาซ้ำและการบูรณาการอย่างต่อเนื่อง แนวทางปฏิบัติเหล่านี้ช่วยให้สามารถตรวจหา Bug และแก้ปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพของซอฟต์แวร์ที่สูงขึ้น
  • การสื่อสารและการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ: ส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดระหว่างสมาชิกในทีมเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกำหนด, การตัดสินใจในการออกแบบ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การประชุมทีมเป็นประจำและการให้ feedback จะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมสำหรับการระบุ Bug และการแก้ไขที่รวดเร็ว
  • เอกสารและการแบ่งปันความรู้: เก็บรักษาเอกสารที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ Requirements, ข้อกำหนดการออกแบบ และมาตรฐานการเข้ารหัส เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดทั่วไป

สรุปถึงความแตกต่างระหว่าง Bug กับ Defect

  • ข้อผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมทำให้เกิด Bug ในขณะที่ Defect เกิดจากข้อบกพร่องด้านการออกแบบหรือความต้องการ (Requirement)
  • Defect ส่วนใหญ่มักพบระหว่างการทดสอบ ในขณะที่ Bug สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนของการทดสอบหรือการพัฒนา
  • Bug ต้องการการ Debugging (คือการแก้ไขข้อผิดพลาด) ในขณะที่ Defect ต้องการการออกแบบหรือข้อกำหนดใหม่ ทำให้เป็นกระบวนการแก้ไข
  • Bug มักเป็นความรับผิดชอบของนักพัฒนา ในขณะที่ Defect จะแบ่งปันกันระหว่างทีมพัฒนาและทีมทดสอบ
  • Defect สามารถจำแนกตามผลกระทบและความเร่งด่วน ในขณะที่ Bug สามารถจำแนกตามได้ว่าเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยหรือใหญ่
  • Bug คือความผิดพลาดในซอฟต์แวร์/โค้ดที่ทำให้ระบบทำงานผิดปกติ ในทางตรงกันข้าม Defect คือข้อผิดพลาดในผลิตภัณฑ์ที่ลดคุณค่าหรือความสามารถในการใช้งาน

เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะเห็นความแตกต่างระหว่าง Bug กับ Defect ได้มากขึ้นไหมคะ วันนี้ได้สรุปคร่าวๆ ของเจ้าสองตัวนี้ไปว่ามันมีความแตกต่างเบื้องต้นยังไงบ้าง ครั้งต่อๆ ไป ถ้าผู้เขียนไม่ลืมซะก่อน แฮ่ >< อาจจะมาลงรายละเอียดเกี่ยวกับ Bug ให้นะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกท่าน ขอให้โชคดีไม่เจอ Bug ค่าาา

ที่มา https://www.browserstack.com/guide/bug-vs-defect
https://www.shiksha.com/online-courses/articles/difference-between-bug-and-defect/

--

--