สหกิจซีรี่ย์ — Presentation Technique

Thanachan GNR
WeLoveBug dot Com
Published in
1 min readAug 16, 2023

สวัสดีครับนักอ่านทุกท่านกลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับ คราวนี้ผมจะมาเปิดเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคของการ Presentation ที่ได้รับมาจากพี่โอมกันนะครับ Let’s go!!

ก่อนอื่นเลยไปรู้จักกับคำว่า Presentation กันก่อนเลยดีกว่าครับ

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านการ Present มากันบ้างแล้วตั้งแต่ช่วงวัยเรียน ที่ต้องออกไปนำเสนองานที่ตัวเองทำ หรือในช่วงมหาลัยที่เราจะต้องออกไปนำเสนอ Project ในวัยทำงานก็เช่นกันที่จะต้องมีการนำเสนองานให้กับหัวหน้าและทีมของเรา หรือลูกค้าของเรา แล้วมันมีความสำคัญยังไงละ? ทำไมถึงต้องมีการ Present ด้วย ?

ที่มาของภาพ: https://techsauce.co

ความสำคัญของ Presentation

การ Presentation หรือ การนำเสนอ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสื่อสารและแนวคิดให้กับคนอื่นหรือผู้ฟังนั้นเอง โดยเฉพาะกับผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาฟังอย่างเช่น การนำเสนองานในที่ประชุม หรือ การอธิบายงานให้กับทีมของเราฟัง เป็นต้น และการทำ Presentation ที่มีความชัดเจนของเนื้อหาและทำให้ดูน่าสนใจจะช่วยให้ผู้ฟังนั้นเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังนำเสนอและยังสามารถรับข้อมูลได้ง่าย และยังมีความคิดเห็นเชิงบวกต่อเนื้อหาของเราที่กำลังนำเสนอได้

ความสัมพันธ์ของการนำเสนอ

ผู้นำเสนอ (Who) — สำหรับผู้นำเสนอถ้าอยากให้การนำเสนอนั้นออกมาดีอย่างแรกต้องจัดการกับตัวเองก่อนเลยครับ ในเรื่องของความมั่นใจและต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวของเราเองอีกด้วย ซึ่งก็มาจาก

บุคลิกภาพ ความมั่นใจ สองอย่างนี้ต้องมาคู่กันเลยครับ และถ้ามีความมั่นใจบวกกับมีบุคลิกภาพที่ดีด้วยจะทำให้ผู้ฟังมองผู้นำเสนอจากลักษณะภายนอกไปในทางเชิงบวกอีกด้วย อย่างเช่น การยืน การนั่ง หรือการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความมั่นใจ

การแต่งกายให้ดูดีเหมาะกับกาลเทศะรวมถึงการดูแลความสะอาดของร่างกายก็สำคัญต่อบุคลิกภาพของผู้นำเสนอเช่นกัน

ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ความชำนาญ ถ้าผู้นำเสนอมีความรู้และเข้าใจในเนื้อหาอย่างถ่องแท้จะช่วยให้ผู้นำเสนอมีความมั่นใจในการนำเสนองานนั้นฃ

การใช้สายตา น้ำเสียง และลีลาท่าทางอย่างเหมาะสม

สายตา — ควรมีการสร้างสายตากับผู้ฟังอย่างเสมอแต่ตั้งต้นจนจบ การมีสายตากับผู้ฟังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสามารถสื่อสิ่งที่สำคัญในเนื้อหาที่นำเสนอ

น้ำเสียง — น้ำเสียงต้องชัดถ้อยชัดคำ และชัดเจน ไม่โมโนโทน เพราะถ้าน้ำเสียงของเรามีประสิทธิภาพจะทำให้ผู้ฟังสนใจในสิ่งที่เรานำเสนอ และไม่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อ และไม่ควรที่จะพูดเร็วจนเกินไป

การใช้ลีลาท่าทาง — ควรให้ความสำคัญกับท่าทางที่ช่วยเสริมความหมายให้กับเนื้อหาเพื่อเพิ่มความเข้าใจเนื้อหาให้กับผู้ฟัง

ทำอะไร (What) — การพูด ผู้นำเสนอจะต้องพูดเพื่อสื่อสารให้กับผู้ฟังเข้าใจในสารที่สื่อออกไป รวมถึงเพื่อให้ผู้รับสารนั้นยอมรับ เกิดการปฎิบัติตาม และมีปฎิกิริยาตอบกลับ

Teaching — คือกระบวนการให้ความรู้ ข้อมูล หรือ ทักษะ โดยจะใช้ในรูปแบบของการสอน จะเป็นกระบวนการที่ผู้สอนนำเสนอเนื้อหาหรือข้อมูลให้กับผู้เรียน

Coaching — คือกระบวนการให้คำแนะนำและส่งเสริมให้กับบุคคลหนึ่ง และจะให้บุคคลนั้นตัดสินใจและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองจากคำแนะนำ

Facilitating — คือกระบวนการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในการเป็นกลางในกิจกรรมหรือกระบวนการต่างๆ เพื่อให้กลุ่มหรือบุคคลที้เข้าร่วมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบลื่นและมีประสิทธิภาพ

Presenting — คือกระบวนการนำเสนอข้อมูล ความคิด หรือเนื้อหาต่างๆ ให้กับผู้ฟัง การนำเสนอนั้น เน้นไปที่การสื่อสารและการสร้างความเข้าใจกับผู้ฟัง ควรมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ชัดเจน เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจและรับรู้ข้อมูลได้ง่าย

Discussing — คือกระบวนการสนทนาหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องหรือประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและแก้ไขปัญหาได้ ในตอนสุดท้ายจะต้องหา Solution ได้

ทำทำไม (Why) — วัตถุประสงค์ของการนำเสนอ

หลักๆของการนำเสนอนั้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ, เพื่อรายงานการปฏิบัติงาน, เพื่อเสนอแผนการดำเนินงาน, เพื่อติดสินใจและแก้ไขปัญหา

ทำอย่างไร (How) — ก่อนนำเสนอเราต้องเตรียมความพร้อมตัวเอง มีความมั่นใจ กระฉับกระเฉง การใช้เสียงให้น่าฟังเพื่อดึงดูดผู้ฟัง เตรียมเนื้อหาที่นำเสนอรวมถึงอุปกรณ์ที่จะใช้ในการนำเสนอ การเปิดโอกาศให้ผู้ฟังซักถาม และเมื่อจบการนำเสนอควรมีการพูดสรุปของเนื้อหานั้น

ทำเมื่อไหร่ (When) — ระยะเวลาในการนำเสนอก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรลำดับสิ่งที่จะพูดว่าเราจะพูดในแต่ละส่วนของเนื้อโดยใช้เวลาประมาณกี่นาที เพื่อให้ระยะเวลาในการนำเสนอไม่ยาวเกินไป

ทำที่ไหน (Where) — เราจำเป็นที่จะต้องรู้สถานที่ว่าอยู่ที่ไหน เพื่อการเดินทางและรักษาเวลา และมีอุปกรณ์อะไรบ้างที่เราสามารถใช้ได้ในสถานที่นั้น ผู้นำเสนออยู่ตรงไหน ผู้ฟังอยู่ตรงไหน เพื่อความพร้อมของเราตอนเวลานำเสนอ

ผู้ฟังเป็นใคร (Who) — การวิเคราะห์ผู้ฟังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าเรารู้ว่าผู้ฟังเป็นใครเราเขาต้องการที่จะฟังอะไร ก็จะสามารถนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ผู้ฟังสนใจในเนื้อหาของเราได้

ถึงคนที่ค่อยๆอ่านทีละบทความกลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับ ส่วนคนที่อ่านรวดเดียวยินดีที่ได้รู้จักครับ สำหรับบทความในครั้งนี้จะเขียนถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากพี่โอม ในเรื่องของ Presentation Technique นะครับ ได้ความรู้ใหม่ๆเพียบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอที่หลายรูปแบบ หรือ เรื่องของความสัมพันธ์ของการนำเสนอ สิ่งสำคัญอยู่ที่ผู้นำเสนอว่าจะสามารถถ่ายทอดสารนั้นให้กับผู้ฟังได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับที่ความพร้อมและการเตรียมตัวมาอย่างดี รวมถึงเรื่องของความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีของผู้นำเสนอด้วยเช่นกันครับ!!

ถ้าเช่นนั้น ก็ขอหยุดพิมพ์หน้ากระดาษลงตรงนี้

พร้อมกับหวังว่าจะได้เปิดเนื้อหาในครั้งต่อไป

ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านมากนะครับ!

--

--