Leadership Boot Camp Day 2: Lead Team เป็นผู้นำ หรือ ทำได้แค่นำ!(ชี้นิ้วonly)

[Remind ก่อนอื่นเลยผมอยากจะบอกว่า ดองบทความนี้ทิ้งไว้ อยู่ใน draft แล้วไม่ได้ทำต่อมานานมาก ๆ 55555 และเนื่องจากในโอกาสไหนก็ไม่รู้ก็เลยจะสรุปและตีความเพิ่มเติมไปใหม่อีกทีครับ แต่ก็ต้องขอโทษผู้อ่านด้วยที่เนื้อหาบางส่วนอาจจะขาดไป เพราะลืม moment ช่วงนั้น ๆ ไปแล้ว ยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่านบทความน้ีนะครับ และสุดท้าย บทความนี้เป็นเพียงสรุปสิ่งที่อ่านและเห็นมาจากมุมมองส่วนตัวเท่านั้น ตัวผู้เขียนไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผู้นำ enjoy ครับ ;)

สวัสดี! อีกครั้งครับ ผู้อ่านทุกท่านสบายดีกันรึเปล่าครับ อาจจะเว้นช่วงลงบทความไปซะนานเลย(แหะ ๆ เว้นไปนานเกิ้น) วันนี้จะมาแชร์เรื่องของวิธี หรือ เรื่องของการนำคนในทีม ว่าสามารถเป็นผู้นำแบบไหนได้บ้าง และต้องทำยังไงแล้วในแต่ละวิธีต้องทำอย่างไรบ้าง ลักษณะผู้นำหรือผู้คนในแต่ละ Generation เป็นแบบไหน ถ้าเรารับรู้วิธีการหรือลักษณะของผู้คนแล้วสามารถนำมาปรับใช้ ในการที่จะเป็นผู้นำในแบบของเราได้ยังไงบ้าง

การเป็นผู้นำเนี่ย เราจะเป็นแบบไหนกันครับ? แล้วบนโลกนี้มีผู้นำแบบใดกันบ้าง จากมุมมองผู้เขียนคิดว่า แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ครับ คือ ผู้นำ(มีทั้งการกระทำและคำพูด) กับ ผู้นำ(มีแต่คำพูด) ที่หมายความว่า ประเภทแรก จะเป็นกลุ่มที่สามารถทำให้เป็นตัวอย่างและบอกกล่าวได้ และอีกประเภทจะเป็น ประเภทที่บอกกล่าวอย่างเดียว ไม่ได้ทำเป็นตัวอย่าง หรือก็คือ “Boss” และ “Leader” นั่นเอง

อ้างอิง https://www.pinterest.com/pin/47076758580758686/

ผู้นำ(Boss) ที่พูดว่า ฉัน(แค่ตัวเขาคนเดียว) กับ ผู้นำ(Leader) ที่พูดว่า พวกเรา(ทั้งหมดทุกคน) ถ้าเราเป็นลูกน้อง จะเลือกผู้นำแบบไหนกันครับ???

อ้างอิง https://www.boredpanda.com/office-cartoons-differences-boss-vs-leader-healthy-society/

จากรูปแสดงให้เห็นว่า สไตล์ผู้นำ นั้นมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป ทั้งเหมือนจะดี หรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำบุคคลนั้น ๆ เราไม่สามารถระบุ รูปแบบผู้นำที่ดีที่สุดได้ แต่สามารถนำไปปรับใช้ ตามสถานการณ์ของแต่ละคนได้นั่นเอง

Leadership Skills Should have หรือ ทักษะที่ผู้นำ(คิดว่า)ควรมี

• Inspiration (การให้แรงบันดาลใจ)
• Empower (การมอบความไว้วางใจและอำนาจการตัดสินใจให้พนักงาน)
• Management (การบริหารจัดการ)
• Flexiblity (ความคล่องตัว)
• Communication (การสื่อสาร)
• Teamwork (การทำงานเป็นทีม)
• Decision Making (การตัดสินใจ)
• Convince (โน้มน้าว)
• Empathy (การเข้าใจ เห็นอก เห็นใจ)
• Big Picture Thinking (นักคิดภาพใหญ่)
• และ Skills อื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้นำที่มีความสามารถ นำพาหรือชักจูง องค์กรและผู้คนไปในแนวทางที่ต้องการได้ แต่กับว่าผู้นำคนนั้นมีแค่มุมมองมุมเดียว(มั่นใจในตนเองสูงมากและไม่เปิดรับมุมมอง) ทั้งผู้คนและองค์กรที่ได้ อิทธิพลจากเขาไปนั้น ก็จะมีมุมมองมุมเดียวเหมือนกัน ทำให้เวลาเจอปัญหา ที่ต้องใช้ความหลากหลายมุมมองในการแก้ไข จึงทำให้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จากสถานการณ์นี้แปลว่า ความสามารถในฐานะผู้นำนั้น ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป ต้องใช้ให้ถูกที่ และถูกต้อง

Group Decision making

การตัดสินใจในแบบบุคคล แบบทีม และ แบบผู้เชี่ยวชาญ นั้นมีมุมมองหรือประสบการณ์และเหตุผลที่แตกต่างกัน ในสิ่งที่ตัดสินใจออกมา ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลที่มีความแตกต่างระหว่างกัน มาวิเคราะห์เป็นสัดเป็นส่วนแล้ว สามารถเห็นข้อมูลเพื่อทราบเชิงลึกของการตัดสินใจได้ อย่างเช่น

• ได้เห็นมุมมองระหว่างของเรากับทีม ว่าตรงกันไหม อาจจะไม่ตรงกันเป๊ะ มีความคล้ายคลึงหรือใกล้กัน จึงทำให้สามารถยอมรับมุมมอง ความคิดเห็นได้
• ส่วนของเรา นั้นคิดได้ใกล้เคียงกับความถูกต้อง
• การวิเคราะห์สัดส่วนของ กลุ่ม กับ ของบุคคล
• มุมมอง การรับฟัง ความคิดเห็น
• Consensus (ความเห็นพ้องหรือ การยินยอมร่วมกัน) > Voting
• การวางแผนร่วมกัน
• ความสามารถในการปรับตัว (Adaptive)
• การสื่อสารที่ชัดเจน

Performance Management คืออะไร?

การบริหารผลการปฏิบัติงาน หรือ Performance Management คือ เครื่องมือสำหรับการวางแผนร่วมกันภายในทีมเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติงานของพวกเขา รวมถึงเป็นการกำหนดเป้าหมาย, การวัดผล และความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรฐานในการปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทีมหรือองค์กร
แยกเป็น 5 ส่วน ได้แก่

1. Planning

วางแผน กำหนดเป้าหมายและสื่อสารว่า เป้าหมายนั้นคืออะไร

• สำรวจว่าองค์กรของเรา มีเป้าหมายยังไง องค์กร มีกลยุทธ์อย่างไรบ้าง แล้วนำมาปรับใช้ ในการเป็น Leadership
• Leadership สามารถ Facilitate ให้คนในองค์กรสามารถตั้งเป้าหมายได้เอง

อ้างอิง https://cheezburger.com/3216448768/planning

SMART GOALS

• (S & G)Specific: ต้องมีความเจาะจง และขอบเขตที่ชัดเจน
• (M & O)Measurable: สามารถวัดผลได้ ผ่านการพิสูจน์ หรือสามารถอ้างอิงได้
• (A & A)Attainable: ต้องเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง และอยู่ภายใต้ระยะเวลาที่พอเหมาะ
• (R & L)Relevant: ต้องมีความสมเหตุสมผล สามารถเชื่อมโยงไปถึงอนาคต หรือผลลัพธ์ในระยะยาว
• (T & S)Time Based: ต้องอยู่ภายใต้กรอบเวลาที่ชัดเจนและเหมาะสม

อ้างอิง https://rhythmsofplay.com/year-ahead-making-resolutions-setting-goals/

2. Monitoring

ติดตามผลการปฏิบัติงานตามเป้าหมาย

• ใช้ Chat ในการติดตามสื่อสาร เน้นการสื่อสารที่ ไว และง่าย มีการเก็บถาวร
• ใช้การ พบปะ พูดคุย Talking เน้นนัดเวลาคุยงาน ให้ชัดเจน มีกรอบเวลาในการพูดคุย
• ใช้การ Stand up(โต้แย้ง) จัดประชุมร่วมกัน เน้นได้คุยกัน Update งาน ตาม Task board ต่าง ๆ

MBWA หรือ Management by Wandering Around #ชัชชาติสไตล์

การให้ผู้จัดการพูดคุยกับพนักงานที่ปฏิบัติงาน รับฟังปัญหาและไอเดียที่หน้างาน
เป็นการปฏิบัติงานที่คล้ายกับการทำงานของ ผู้ว่า กทม. ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ นั่นเอง

อ้างอิง https://www.brighttv.co.th/news/chatchat-borrow

• Informal Talk: ไม่พูดทางการ เป็นกันเอง
• Involve stakeholders in the workspace: มีส่วนร่วมในกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในที่การทำงาน
• Effective Listening หรืออีกชื่อ Active Listening: การมีสติตลอดเวลาที่ฟัง ไม่เพียงรู้ว่าข้อความที่ได้ยินคืออะไร แต่ยังรวมไปถึงการเข้าใจประเด็นของสิ่งที่ได้ยินอีกด้วย

3. Developing

การใช้ข้อมูลที่ได้รับมาระหว่างการตรวจสอบ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

Coaching Conversation (“เปลี่ยนการโค้ชให้เป็นการคุย”)

ซึ่งจะประกอบไปด้วย แต่ละหัวข้อดังนี้

1. Rapport
2. Goals
3. Realities
4. Options
5. Way Forward

1.1 Building Rapport

• การเข้าใจตัวตน บุคลิกภาพ และธรรมชาติ (Preferences) ของผู้อื่น
• เข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึก ในขณะนั้นของผู้อื่น
• Matching(ทำท่าทางคล้ายหรือเหมือนกัน) & Mirroring(ภาพสะท้อนอะไรบางอย่างเหมือนกระจก) ช่วยให้เรารู้สึกเป็นพวกเดียวกันเหมือนกัน ช่วยให้รู้สึกสนิท และเสวนาคุยกันได้ง่ายขึ้น

อ้างอิง https://www.salesreadinessgroup.com/blog/techniques-for-building-sales-relationships

1.2 The Secret Technuiqe

การชื่นชม สนใจรายละเอียด เล็ก ๆ น้อย ๆ

1. The “Psychiatrist Miror” การลอกเลียนแบบพฤติกรรม
2. ผู้คนส่วนใหญ่มักชอบที่จะได้ยินคำชื่นชม
3. พูดทวน “คำสำคัญ” ท้ายประโยคของบทสนทนา
4. Active Listening

2. Goals

เป้าหมายมีความสำคัญต่อชีวิตของคุณยังไง อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ หลังจากเป้าหมายสำเร็จ

3. Realities(Conversation)

ความเป็นจริงรอบตัว พูดคุยปัญหาเชิงลึก

4. Option

ถาม กระตุ้น สร้างทางเลือก ให้เขามี Option ของตัวเองและ ให้เป็น Option ใหม่ ๆ

5. Way Forward

อะไรคือ Plan ที่จะทำชัดเจนจริง ๆ แล้วมาหา แนวทางข้อตกลงร่วมกัน ให้มีความชัดเจนมากขึ้น

4. Rating

การปฏิบัติของแต่ละคนนั้นต้องได้รับการประเมินเป็นระยะ ๆ ทั้งในช่วงเวลาของ การทำงาน และ หลังเสร็จสิ้นงาน

Evaluation techniques(Personal)

• Graphic rating scale ให้คะแนนมาตราส่วน หรือขีดขนาด
• Checklist(Weight lise) ประเมินแบบตรวจสอบรายการ แบบถ่วงน้ำหนัก
• Checklist(Force Choice) ประเมินแบบตรวจสอบรายการ แบบบังคับให้เลือก
• Grading วิธีแบ่งขั้น
• Point Rating ประเมินตามค่าคะแนน

5. Reward & Recognition

การทำให้รู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน สร้างความผูกพันต่อ องค์กรหรือทีม ทำให้ระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันมีความคุ้นเคยมากขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับทุกฝ่าย

Reward

การมอบรางวัลที่เป็นสิ่งของสามารถใช้ได้จริง

• จับต้องได้
• สิ่งที่ทุกคนคาดหวัง
• สิ่งของที่ใช้ได้บริโภคได้
• มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ

Recognition

การให้ความชื่นชม แสดงความยินดีปรีดา

• จับต้องไม่ได้
• ให้คุณค่าทางความรู้สึก
• ให้จากประสบการณ์เป็นส่วนใหญ่

เสริมจาก มุมมองตัวผู้เขียนเอง การที่เราได้รับคำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือ ได้ทำอะไรที่ดีต่อใจเรา(คุณค่าทางความรู้สึก) ในวันนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยให้ใจเรา ยังสามารถเผชิญโลกแห่งความจริงได้เสมอ(เศร้าเฉย)

อ้างอิง https://logicmelon.com/wp-content/uploads/2022/05/Employee-Rewards-Recognition-1024x768.png

ทำความรู้จัก กับ ลักษณะผู้นำในแต่ละ Generation

Baby Boomers

• สู้งาน
• เคารพกฎเกณฑ์
• อนุรักษ์นิยม

Gen X

• มั่นคงแน่นอน
• อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน
• Worklife Balance

Gen Y

• Life Balance งานกับชีวิตส่วนตัวเป็นเรื่องเดียวกัน
• สบาย ๆ ง่าย ๆ ไม่เป็นทางการ
• เดอะแบก ของ องค์กร (ชอบงานท้าทาย และชอบลุยเดี่ยว)

Gen Z

• Freelance or GIG(งานที่รับจ้างเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และจบเป็นครั้ง ๆ ไป ไม่ยึดติดกับที่ใดที่หนึ่ง) รายละเอียด GIG เพิ่มเติม
• ชอบความรวดเร็ว ไม่ชอบรอคอย และมัก นั่งไม่ติดเก้าอี้
• เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

อ้างอิง https://mccrindle.com.au/article/topic/demographics/the-generations-defined/

Active Listening

• Body language แสดงท่าที
• Understanding มีความสนใจ
• Interrupting แต่ถามได้ ดูจังหวะในการถาม
• Look them in the Eye เทคนิคการมองระหว่างคิ้ว ถ้าไม่สามารถมองตาได้
  Look Lock Talk มองไปทั่ว ๆ สลับไปมา ล็อกสายตาคน แล้วก็พูด
• Don't Judge ไม่ตัดสิน เพราะมุมมองไม่เหมือนกัน
• เพิ่มเติม องค์ประกอบของคำว่า “ฟัง” ในภาษาจีน

อ้างอิง https://www.colinwbates.com/chinese-character-for-listening/

Feedback

Sandwich Feedback

• Positive Feedback
• Constructive Feedback ในสิ่งที่เป็นจริง และ ต้องพัฒนาอย่างแท้จริง
• More Positive Feedback ให้เป็น Way Forward ทิศทางที่ต้องปรับปรุง

STAR Feedback

• (S)ituation: บอกเล่าเหตุการณ์หรือสถานการณ์
• (T)ask: ทบทวนหน้าที่
• (A)ction: สิ่งที่เกิดขึ้น
• (R)esult: ผลลัพธ์

STAR/AR Feedback

• (A)ction (R)esult: ผลลัพธ์จากการกระทำ
• (A)lternative (R)esult: ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นในแง่ลบ

4A Feedback

• Aim to Assist (ต้องการช่วยเหลืออย่างแท้จริง)
• Actionable (สิ่งที่ควรจะต้องทำ)
• Appreciate (น้อมรับคำติชม)
• Accept or Discard (ยอมรับ หรือ ปฏิเสธ)

Sandwich Feedback

อ้างอิง https://gmatclub.com/blog/the-feedback-sandwich-is-stale-af/

1. (ชั้นประกบบน) Positive Feedback: กล่าวชม และบอกข้อดีหรือสิ่งที่ชอบ
2. (ส่วนกลาง) Negative Feedback: บอกข้อผิดพลาดหรือสิ่งที่ควรปรับปรุง เพื่อควรนำไปพัฒนาต่อ
3. (ชั้นประกบล่าง) More Positive Feedback: สรุปใจความสำคัญทั้งหมด และ กล่าวชมเพิ่มเติม ให้กำลังใจ

Covincing

The 6 Channels of Persuasion

1. (E) Interest-Based ความสนใจ โน้มน้าวโดย เน้นถึงสิ่งที่ผู้ฟังต้องการ
2. (A) Authority อำนาจ โน้มน้าวโดย ใช้สัญญา หรือ ข้อตกลง กฎข้อบังคับ
3. (F) Politics การเมือง โน้มน้าวโดย Connection หรือ สร้างกลุ่มผู้สนับสนุน #พลังมวลชน
4. (B) Rationality เหตุผล โน้มน้าวโดย หลักฐาน และ ข้อมูล ที่ยอมรับได้
5. (C) Vision วิสัยทัศน์ (แรงบันดาลใจและอารมณ์)โน้มน้าวโดย ความเชื่อ หรือ ความรู้สึก
6. (D) Relationships โน้มน้าวโดย บุญคุณ ความปรองดอง #ไทยสไตล์

สรุปคร่าว ๆ

ผู้นำที่ดีนั้นควรมีทักษะที่หลากหลาย และต้องมีเทคนิคและกลยุทธ์ที่หลากหลายด้วยเช่นกัน และสิ่งสำคัญในมุมของสมาชิกคือการต้องเข้าใจลักษณะของผู้นำในแต่ละรูปแบบ แต่ละ Generation และนำเทคนิคไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับ สภาวะที่พบเจอ(และถ้าให้ดีผู้นำก็อาจจะต้องเข้าใจสมาชิกในทีมด้วยเช่นกัน) และสุดท้าย
ผู้นำที่ดี ไม่ได้เกิดมาเก่งตั้งแต่แรก แต่สามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ สิ่งสำคัญคือ “ฟังเป็น” เข้าใจผู้อื่น และพยายามปรับใช้ทักษะให้เหมาะสม เพื่อสามารถนำพาทีมสู่เป้าหมายได้นั่นเอง

อ้างอิงเนื้อหา

1. https://www.minddojo.co.th/
2. https://learninghubthailand.com/active-listening/
3. https://www.sakid.app/blog/what-is-performance-management/
4. https://th.jobsdb.com/th/career-advice/article/what-is-smart-goa

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความนี้ครับผม