Logistic & Milk run
การขนส่งสินค้า (Logistic) คือการให้บริการนำสินค้า ข้อมูล หรือทรัพยากร จากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง เช่น ส่งจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ, ส่งจากผู้ผลิตไปยังผู้ขาย, ส่งจากผู้จัดหาวัตถุดิบไปยังผู้ผลิต เป็นต้น
การขนส่งสินค้า แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
- Direct shipment เป็นการส่งจากต้นทางไปยังปลายทางโดยตรง โดยจะไม่แวะเพิ่มหรือลดสินค้าระหว่างทาง เช่น ส่งจากผู้ขาย ไปยัง ลูกค้าโดยตรง วิธีการแบบนี้ จะรวดเร็ว แต่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่า ต้องเตรียมพนักงานขนส่งไว้มาก และระยะทางขนส่งจะต้องไม่ไกลมากเกินไป
- Milk runs เป็นการส่งจากต้นทางโดยรวมสินค้าจากผู้ให้บริการหลายราย ไปส่งไปยังผู้รับบริการปลายทางหลายราย โดยที่ปลายทางจะอาจจะเตรียมบรรจุภัณฑ์ไว้สำหรับสินค้า ที่ผู้ส่งจะนำกลับไปใช้ใหม่ ซึ่งมีข้อดี คือ สามารถ สลับสินค้ากันได้เลย เช่นการส่งนม การส่งน้ำ ฯลฯ ที่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุ
- Transportation with cross docking เป็นการส่งจากต้นทางไปยังจุดกระจายสินค้าหรือคลังสินค้า จากนั้น ก็กระจายจากคลังสินค้าไปยัง ผู้รับสินค้าที่อยู่ใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถส่งสินค้าไปยังบริเวณใกล้เคียงถึงลูกค้าได้เร็วขึ้น แต่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบคลังสินค้าอยู่เสมอ
ทำไมต้อง Milk runs?
Milk runs เกิดจากแนวคิด ที่คนส่งนม ต้องนำขวดนมที่บรรจุเรียบร้อยไปส่งยังลูกค้าทุก ๆ เช้า เมื่อไปส่งเสร็จก็ต้องนำขวดเก่ากลับมาบรรจุใส่นมใหม่ เพื่อเตรียมไปส่งอีกรอบ จึงเป็นที่มาของวิธีการขนส่งแบบ Milk runs
Milk runs และ ระบบส่งน้ำ
ระบบส่งน้ำมีความใกล้เคียงกับ Milk runs เนื่องจากมีการกระจายสินค้าไปยังลูกค้าหลาย ๆ จุด ในลักษณะของการแลกเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ มีวัตถุประสงค์คือ มุ่งให้เกิดการขนส่งชิ้นงานในปริมาณน้อยแต่หลายเที่ยวได้อย่างคุ้มค่า มีข้อดีคือ ช่วยลดต้นทุนการจัดการ ความยุ่งยากของการขนส่ง โดยเลือกเส้นทางที่ใกล้ หรือมีประสิทธิภาพในการส่งสูงสุด ดังนั้น จึงสามารถกำหนดช่วงเวลารับของ ทำให้ช่วยลดปัญหาจราจร อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และลดปริมาณ CO2 ได้อีกด้วย
ตารางแสดงแผนการส่งน้ำในลักษณะของ Milk runs ประยุกต์จาก[1] เริ่มจากการประมาณปริมาณน้ำที่ต้องใช้ส่งสินค้า วางแผนเส้นทางการไปส่งน้ำ กำหนด ทีมพนักงานแต่ละคนที่ต้องไปส่งน้ำ ทบทวนการ ไปส่งน้ำในเส้นทางต่าง ๆ อีกครั้งให้ถูกต้องครบถ้วน และกำหนดเวลา ตารางเดินรถที่ต้องไปส่งที่แน่นอน
เพื่อปรับปรุงให้เวลาในการส่งมีประสิทธิภาพ มีความเที่ยงตรง ถูกต้อง รองรับการผลิตแบบ JIT (Just-In-Time) เพื่อให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด ตามกระบวนการดังนี้ [2]
Milk runs ถูกนำไปใช้กับการขนส่งโดยเฉพาะรถยนต์อย่างแพร่หลาย บริษัทโตโยต้า ก็นำ Milk runs ไปใช้ เช่นการรับอะไหล่สินค้าจาก Supplier (ผู้จัดหาวัตถุดิบ) ส่งไปยังผู้ผลิต [3] โดยมีการวางแผนการใช้รถขนส่งสินค้าในเส้นทางที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งไปยังโรงงานผลิตรถยนต์ หรือ อาจจะประยุกต์ใช้ในการบวนการขนส่งของคลังสินค้า (warehouses) [4] เป็นต้น
มีงานวิจัยที่นำ Milk run ไปใช้เพื่อลดปริมาณ CO2 โดยบริการใช้ชื่อว่า Valeo service [5] ใช้การบันทึกข้อมูลลำดับการส่งสินค้าโดยตรงจากผู้ส่งไปยังคลังสินค้า ของพื้นที่ต่าง ๆ หลายแห่ง และนำข้อมูลที่บันทึกนี้ มาใช้ในการคำนวนเพื่อหาเส้นทางที่ลดปริมาณการปล่อย CO2 จากรถที่ขนส่งสินค้า
อ้างอิง:
- M. Theeratham, M. Lohatepanont, “Vehical routing in milk run operations: A column generation based approach”, 2010
- G. S. Brar and G. Saini, “Milk run logisitcs: Literature review and directions”, Proceeding of the World Congress on Engineering 2011, Vol I, WCE 2011, July 2011, London, U.K.
- H. Akiyamaa and Y. Yaho, “Current conditions pertaining to truck deliveries to large retail stores in Japan and efforts to reduce them”, City logistics, 2008, pp.11–12
- M. Baudin, “Lean Logistics: The nuts and bolts of delivering materials and goods”, productivity press, 2005
- Valeo Activity report 2009