ปัญหาที่ทำให้เรา RANK ไม่ขึ้น ตั้งแต่ Gold ไป Master (เฉพาะใน SEA Overwatch)

Prarin Lekuthai
Published in
4 min readOct 15, 2018

--

ช่วงหลังๆ มานี้ เรามักจะเห็น คำถาม ใน Community ของ Pro Player ในบ้านเราเยอะแยะมากมาย เกี่ยวกับ “หลุมดำ” หรือความหมายก็คือ การที่ไม่สามารถพาตัวเองออกจาก Rank เดิมๆ ได้ และ Rank ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเสียจริงๆ

ผมจึงออกเดินทางวิเคราะห์ จากทั้งประสบการณ์ส่วนตัว ดู Streamer ผู้เล่นในหลายๆ ระดับ และลงไปลองเล่น Rank ตั้งแต่ Gold ไต่ขึ้นมา โดยผมขอแบ่งการวิเคราะห์ จากสิ่งที่เห็นเฉพาะใน SEA Server เท่านั้น แบ่งออกเป็น กลุ่มๆ ดังต่อไปนี้

  • หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้เป็นบทวิเคราะห์ในมุมมองส่วนตัวของผู้เขียน ณ ตอนนี้ แต่เพียงผู้เดียว ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและรับชม

กลุ่ม Gold — Platinum

สำหรับกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่ม ค่าเฉลี่ยของผู้เล่นในไทย (โดยความเห็นของผู้เขียน) เพราะหาห้องง่ายกว่ามาก ถ้าเทียบกับเวลาของการหาห้องในระดับ Master ขึ้นไป

ข้อเท็จจริงที่พบ

  • Skill Play ความสามารถในการเล่น ไม่แตกต่างกันมากนัก
  • ผู้เล่นมาเป็น ตี้ขนาดใหญ่ ซะส่วนใหญ่ (3–5 คน ต่อกลุ่ม)

ปัญหาที่พบ

  1. พบว่า “การสื่อสารภายในทีมนั้น น้อยมากๆ” (Lack of communication)

เล่นมาร้อยชั่วโมง พบว่า มีการชวนเข้ามาคุยกันใน Voice Chat น้อยมากๆ ชวนแล้วก็ไม่มา หรือถ้าอยู่อยู่แล้วก็ไม่มีปฏิสัมพันธ์ด้วยเลย แชทคุยด้วยก็ตอบกันน้อยมาก (แต่ถ้ามีการด่านี่ จะตอบมาอย่างเร็ว)

2. ความรู้ด้านการหยิบ Hero มาแก้ทาง ยังมีน้อย (Lack of Hero Knowledge)

“Pick Pharah to kill widow & mccree please” นี่คือตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง เมื่อเพื่อนในทีมสั่งให้ผู้เล่นอีกคนหยิบ Hero มาแก้ทาง… จริงอยู่ที่ใน Rank นี้อาจจะพอเล่นได้ แต่ถ้าอยู่ใน Rank ที่สูงขึ้นกว่านี้ จะทำให้การ Pick Hero มาแก้ทางการนั้น เป็นอีกหนึ่ง Skill ที่สำคัญต่อการเล่น Rank สูงๆ อย่างมาก

3. Team Comp ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน (Lack of Team Direction)

Team Comp ที่ดี ควรมีส่วนผสมของ DPS, TANK, SUPPORT ที่ไปในทิศทางเดียวกัน หรือ สอดคล้องช่วยผลักดันซึ่งกันและกันได้ดี และการเลือกใช้ Hero ที่เหมาะกับด่านก็สำคัญ ไม่น่าเชื่อว่า จะยังได้เห็น 5 DPS 1 Support ใน Rank ระดับนี้ได้จริงๆ หรือ 4 DPS 2 Support เป็นต้น (และตามคาด พังยับเยิน)

4. Hero Pool ของตัวเองมีน้อย ความยืดหยุ่นต่ำ (Lack of Flexibility)

ผมเป็นคนนึงที่ชื่นชอบความ Flexibility ของผู้เล่น ยิ่งผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในเกมได้มากเท่าไหร่ ความหลากหลายในการพลิกเกมส์ยิ่งมีสูงมากขึ้นตาม และใน Rank ระดับนี้ เราจะพบเห็นได้ว่า ผู้เล่นแต่ละคน จะค่อนข้างเล่นได้ไม่กี่ตัวเท่านั้น และเมื่อ ตำแหน่งทับซ้อนกัน ทำให้ไม่สามารถย้ายไปเล่น ตำแหน่งอื่นที่ขาดได้

5. ไม่เล่น Best Hero ของ Pool ตัวเอง (Low performance)

ไอเดียนี้จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าผู้เล่นบางคนจะทดลองเล่น Hero ตัวใหม่ๆ หรือตัวที่ตัวเองยังเล่นได้ไม่ดี มาลองเล่นใน Rank … แต่เพราะเหตุนั้น ทำให้ ประสิทธิภาพในการเล่นของผู้เล่นคนนั้น ๆ อาจจะไม่สูงต่อเกมมากนัก จึงไม่แปลกที่หลายคนจะโดนด่าว่า กากบ้าง, Noob บ้าง หรือ ช่วยเหลือทีมไม่ได้เลย ทางที่ดีควรสื่อสารกับทีมว่าตัวไหนที่เราเล่นบ่อย ถนัดที่สุด แล้วขอปรับเปลี่ยนตำแหน่งกันให้ได้ลงตัวมากที่สุดตั้งแต่ต้นเกม (อย่าไปเริ่มคุยตอนเกมจะเริ่ม)

6. ยอมแพ้ง่าย (Too easy to give up)

ถ้าเป็นฟุตบอลก็จะชอบมีวลีที่ว่า “ลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้” หมายความว่า บอลเป็นเกมที่สามารถพลิกเกมได้ตลอดเวลา แม้กระทั่ง Overtime … ในทุกการแข่งขันก็เช่นเดียวกัน จริงอยู่ที่เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องของบุคคลมากกว่าทีม แต่หัวข้อนี้ต้องยกให้เพราะเราจะเจอบ่อยมากที่ เสียเปรียบเพียงนิดเดียว แต่กลับโยนเกมทิ้งซะงั้น ทั้งๆ ที่เกมเพิ่งเริ่ม หรือ จริงๆแล้ว ต่อให้โดนนำจนมากแค่ไหน ถ้าสุดท้ายเราตั้งใจจะแก้ไขมันจริงๆ เราจะสามารถพลิกกลับมาได้เปรียบ และเอาชนะได้เสมอ… มันมีจริงๆ นะ เชื่อผมสิ

7. แชท Toxic มาก (Toxic chat)

สัสเอ้ย จะด่าอะไรกันนักหนา วะ !

8. กับดักผู้เล่น ID ไก่ (Smurf Trap)

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมให้น้ำหนักพอสมควร (มาซักระยะแล้ว) ผมตั้งชื่อปัญหานี้ว่า “Smurf Trap” หมายถึง ผู้เล่นที่อยู่ในระดับสูงกว่าตั้งแต่ Diamond ขึ้นไป เอาไอดีเด็ก ไอดีไก่ ไอดีใหม่ มาเล่น (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจอะไรแบบไหน) แต่ผมแยกออกเป็น 3 ความตั้งใจ คือ

1. ตั้งใจเอามาลองตัวใหม่ๆที่ไม่เคยลองเล่น

2. เอามาโยนโดยเฉพาะ ไม่ตั้งใจเล่นมาก เน้นฮา

3. ตั้งใจเล่นด้วยฝีมือตัวเอง เอามาตบเด็กๆโดยเฉพาะ (แต่ไม่ทุกตา)

ซึ่ง ระบบส่วนใหญ่มักจะกองกับดักนี้ไว้ แถวๆ ปลายๆ Platinum ทำให้ผู้เล่นในกลุ่มนี้เจอหลุมดำใหญ่เป็นพิเศษ

9. ใช้ Ultimate ฟุ่มเฟือยมาก

1 ไฟท์ จ่าย 6 อัลติ … แถมไม่ชนะอีก !! (หรือถ้าชนะ ไฟต์นี้ ไฟท์หน้าก็คงจะต้านทานไม่อยู่) คือจ่ายอัลติเมทมากเกินความจำเป็น ซึ่งในระดับ Rank สูงๆ จะคอยสอดส่อดและวิเคราะห์นับ อัลติ อยู่ตลอดเวลา รวมถึง เวลาไหนควรใช้ หรือเวลาไหนไม่ควรใช้ เราควรเผื่ออัลติไว้ใช้แก้รอบหน้าด้วย และควรจะคอยบอกเพื่อนตลอดเวลาว่าใครจะใช้ หรือ ฝั่งตรงข้ามใช้อะไรไปบ้างแล้ว เพื่อช่วยกันวางแผนออมอัลติเมทอย่างเป็นระบบ

กลุ่ม Diamond — Master

สำหรับผู้เล่นที่อยู่ใน กลุ่มนี้ ถือว่า อยู่เหนือค่า Average มาแล้วในระดับนึง (ตามความคิดเห็นของผู้เขียน) จะมีความชำนาญในการเล่น และมีตำแหน่งการเล่นของแต่ละคนที่ชัดเจน และการเล่นเป็นทีมที่ชัดเจนมากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายจุดที่เห็นว่าเป็นปัญหาของคนกลุ่มนี้หลงเหลือมาตั้งแต่ Platinum rank

ข้อเท็จจริงที่พบ

  • จะมี Hero Pool ที่ยังคงแคบอยู่ แต่ Hero ใน Pool นั้นถือว่าเล่นได้จัดในระดับนึง
  • Skill Play ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ (Diamon ปลาย vs Master ต้นๆกลางๆ)
  • Solo Rank กันเยอะ และ ถ้ามาเป็นตี้ จะไม่ค่อยตี้เกิน 3 คน ซะส่วนใหญ่ (Duo,Trio)

ปัญหาที่พบ

  1. Ego สูง ไม่ยอมปรับเปลี่ยน Hero ตามสถานการณ์ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเสียเปรียบ

เข้าใจว่าพอใครมาอยู่ใน Rank ระดับนี้ ย่อมมีความภูมิใจในตัวเอง และ มั่นใจในฝีมือตัวเองในระดับนึง และนั่นอาจตามมาด้วย Ego ขนาดใหญ่ติดตัวมาด้วย ชนิดที่ว่า “กูเก่งแล้วนะ มึงต่างหากที่กาก” คิดว่าตัวเองทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว ควรจะเพ่งเล็งไปที่คนอื่นมากกว่า ไม่ยอมเปลี่ยนตัว ไม่ยอมปรับตัว แล้วจะยกเอา เหรียญมาปาใส่กันเพื่อบ่งบอกว่า มึงสิควรเปลี่ยน ไม่ใช่กูว้อย!!

2. ไม่ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง และ ของผู้ร่วมทีม

ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดเราเท่าหำมด… อันนี้ผมยกให้เป็นอันดับต้นๆ ของปัญหาใน Rank มากๆ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่จะเกิดต่อจากนี้ … ในระดับ Pro Scene การแข่งขัน หรือ ผู้เล่นระดับ Top ๆ ของวงการ เราก็จะเห็น ข้อผิดพลาดที่พวกเขาทำ บ้างก็เห็นชัด บ้างก็ไม่ทันได้เห็น แล้วถ้าได้ไปดูใน Stream ของ Pro Player หลายๆ คน เขาจะพูดออกมาเลยว่า จังหวะนี้เขาไม่น่าทำแบบนี้เลย จังหวะนี้เขาเล่นแย่มากเลย เขาน่าจะทำแบบนี้มากกว่านะ โอ๊ะ ไม่นะ กูพลาดไปแล้ว ทำไมเราถึงทำแบบนี้นะ … แต่พอเราเล่นใน Rank เรากลับโทษคนอื่น ทุกข้อผิดพลาด

3. ด่ากันเอง (หยาบคาย, Toxic Chat)

รู้มั้ยครับ ตามสถิติแล้ว เมื่อไหร่ที่มีคนเริ่มด่ากัน เกมนั้นจะเละเป็นพิเศษ (โอกาสเละ 90%) รู้ไว้เลยครับ ด่ากันเมื่อไหร่ ทำใจไว้รอเลย 555

4. บ้า Meta จนเกินไป

เข้าใจว่า Meta เนี่ย มันมีเกือบทุกเกมนั่นแหละครับ แล้วมันก็เก่งจริงๆ นะ แต่เพียงว่า มันจะเก่งถ้า Team มันเป็น Team Work จริงๆ และทุกคนในทีมรู้หน้าที่ รู้ตำแหน่งของตัวเองใน Meta นั้นๆ ได้เป็นอย่างดีเท่านั้น … แล้วใน Rank ระดับเหนือค่าเฉลี่ยนี้ ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่สนใจการแข่ง และดู Meta ที่เก่งอยู่แทบตลอดเวลา …มีใครบ้างไม่อยากชนะใช่มั้ยล่ะครับ ? แต่จะมาบังคับให้เล่น Goat ทั้งๆ ที่หลายคนยังไม่เข้าใจเลยว่า Goat มันต้องเล่นยังไง ต้องสื่อสารยังไง ต้องโฟกัสยังไง มีแต่ฟลุ๊คเขาพลาด กับ ฟลุ๊คเราได้เท่านั้นแหละครับ

ปัญหาเดิมๆ ที่ยังคงพอเห็นอยู่บ้างใน Rank ระดับนี้

5. การสื่อสารภายในทีม ถือว่าส่วนใหญ่ โอเคกว่า Rank ระดับล่างลงไป แต่ก็ยังจัดว่าน้อยอยู่ (Less in Communication)

6. ไม่เล่น Best Hero ของ Pool ตัวเอง (Low performance)

7. กับดักผู้เล่น ID ไก่ (Smurf Trap)

8. Hero Pool ของตัวเองมีน้อย ความยืดหยุ่นต่ำ (Lack of Flexibility)

9. Team Comp ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน (Lack of Team Direction)

สรุป

ปัญหาพวกนี้ หลายปัญหาก็เป็นปัญหาโลกแตกนะครับ คือมันก็เกิดขึ้นอย่างกะเป็นสัจธรรม หลายเรื่องแก้ไขอะไรไม่ได้ อยู่เกินความควบคุมของเราอยู่ดี เราก็อย่าเอาใจไปผูกกับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ครับ ฝนมันจะตก ยังไงก็ต้องตก … แต่สิ่งที่ผมอยากให้เราโฟกัสก็คือ “สิ่งที่เราแก้ไข และควบคุมได้” หลายปัญหาที่ผู้เขียนเขียนออกไปเกิดจาก “ตัวเราเอง” ทั้งนั้น ถ้าเราไม่ชอบให้ใครทำแบบไหน เราก็ไม่ควรทำแบบนั้นฮะ แล้วสังคมของเราจะมีแต่ความสุข

ขอให้เล่นเกมอย่างสนุก และฝึกฝนจิตใจและการเล่นของตัวเองอย่างสม่ำเสมอและต่อๆไปนะครับ

ถ้าชอบ ถ้ารักกัน ฝากแชร์ต่อด้วยนะ :D

--

--