[Overwatch] 5 วิธี ที่สามารถเอาชนะ Fight ได้อย่างสม่ำเสมอ
กฏเหล็ก 5 ข้อ ที่ทุกทีมควรจะต้องยึดมั่นตอนจะเข้าบวก
Fight คืออะไร ?
Fight หรือ Team Fight คือจังหวะบวก จังหวะปะทะระหว่างทีมเรา และ ทีมฝ่ายตรงข้าม ถ้าเราสามารถเก็บฝั่งตรงข้ามได้หมด หรือ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามถอยร่นกลับไปได้ หรือ การทำให้เราสามารถยึดภารกิจได้สำเร็จ หมายความว่า ทีมเราเป็นฝ่ายชนะ Fight นั้น ๆ
วันนี้เรามี 5 วิธีฟังดูง่ายๆ แต่ถ้าไม่ฝึกก็ทำไม่ได้ มาฝากกัน ..ซึ่งถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอก็มีโอกาสชนะ Fight ได้สูง
1. การยืนตำแหน่งที่ได้เปรียบ (Benefit Position)
ตำแหน่งที่ได้เปรียบจะส่งผลให้ทีมของเราจะเพิ่มโอกาสเอาชนะ Fight ได้สูง อย่างเช่น
- การยึดชิงพื้นที่สูง (High Ground Control) จะช่วยทำให้ทีมได้เปรียบในการต่อสู้อย่างมาก ข้อดีของการอยู่พื้นที่สูงคือ การทำให้เราเห็นมุมที่กว้างขึ้น เห็นความเคลื่อนไหวของศัตรู ซ่อนมุมยิงได้เยอะ ศัตรูกำจัดเราได้ยาก เข้าง่าย ถอยง่าย สร้างความหลากหลายในการเข้าปะทะได้ ทำให้ศัตรูที่อยู่บนภาคพื้นดินรับมือได้ค่อนข้างยาก
- การยึดชิงภาคพื้นดิน (Ground Control) ในขณะที่การยึดชิงพื้นที่สูงนั้นสร้างความได้เปรียบอย่างมาก ทำให้ทีมที่อยู่บนภาคพื้นดินเล่นยากอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่าการยึดภาคพื้นดินก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในด่านที่มี Control Point ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศ และสิ่งแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะจากพื้นที่สูง แล้วบังคับให้ ทีมที่อยู่บน High Ground ต้องลงจากที่สูงเพื่อมาป้องกัน Objective
- การใช้ประโยชน์จาก Chokepoint (Chokepoint Control) Chokepoints คือพื้นที่ที่ถูกจำกัดในการเล่นโดยบังคับให้ทีมจะต้องผ่านมาทางนี้ หรือ หยุดอยู่ตรงนี้ ซึ่งการเข้าปะทะ ณ จุดนี้จะทำให้เราสามารถกดดันฝั่งตรงข้ามได้มากขึ้น และ จำกัด , กด ปิด-ลดโอกาสในการสร้างจังหวะการเข้าปะทะของฝั่งตรงข้ามให้น้อยลง
- การวางตำแหน่ง และใช้ประโยชน์จาก Health Pack (Health Pack Positioning) ยิ่งเรารู้ตำแหน่งมากเท่าไหร่ หรือ สร้างจุดปะทะที่อำนวยให้สมาชิกในทีมเก็บ Health pack ได้มากที่สุด จะสร้างความได้เปรียบให้กับทีมอย่างมาก … ยิ่งใกล้ Health Pack ใหญ่ยิ่งดี …ถ้าสู้กัน 1–1 อยู่แล้วใครเข้ามาเก็บ Health Pack ใหญ่ได้ เกมแทบจะพลิกได้ทันที
- การล้วงจากแนวหลัง (Flanking) คือการเข้าไปปะทะหรือเก็บแนวหลังจากทิศทางที่ทีมฝั่งตรงข้ามคาดไม่ถึง เป็นการตัดการช่วยเหลือระหว่างแผงหลังสู่แผงหน้า เมื่อไหร่ที่เราพังแผงหลังได้ มักจะทำให้แผงหน้ารวนได้เสมอ แต่การ Flanking นั้นมีความเสี่ยง ควรเลือกตัวที่จะไม่ทำให้ทีมเราเสียเปรียบเรื่องจำนวนสมาชิก (เราตายง่ายเกินไป เก็บแผงหลังไม่ได้ .. เพื่อนในทีมจะต้องสู้ด้วยจำนวน 5 ต่อ 6 )
หลักสำคัญคือ ..
ควร ทำตัวให้ตายยากๆเข้าไว้ อย่างน้อยๆ ควรจะต้องตัดจำนวนตัวเลขฝั่งตรงข้ามให้ได้อย่างน้อย 1–2 ตัว แล้วหาจังหวะกลับมา Regroup ให้ได้ด้วย ไม่ใช่ไปตายแจก kill ให้ฝั่งตรงข้ามท่าเดียว
2. เข้า — ออก พร้อมกัน (Go IN or OUT together)
Group up เป็นปัญหาของการเล่นทีมอย่างไม่น่าเชื่อนะครับ หมายถึง การที่เราปล่อยให้ตัวเราเอง หรือ เพื่อนในทีม วิ่งไปตายทีละคนๆ ด้วยความหวังที่ริบหรี่ในการเอาชนะ Fight
บางครั้งการเสียเวลาแค่ 10–15 วินาที ก็ยังดีกว่าการแพ้ Fight 4–5 ตา ติดต่อกัน นอกจากเสียเวลามากขึ้นเป็นหลักนาทีแล้ว ยังต้องมาเผชิญหน้า เตรียมรับมือกับคอมโบอัลติจากฝั่งตรงข้ามอีก
มีวิธีตกลงกันง่ายๆ คือ ถ้ามีทีมตายกันเยอะๆ ใครเกิดก่อนให้รอที่จุดเกิดเลย ห้ามไปไหน พอเกิดครบ ค่อยเดินไปพร้อมกัน แล้วเข้าปะทะพร้อมๆกัน
นอกจาก Group up ตอนเข้าให้เป็นแล้ว .. สิ่งถัดไปที่ควรทำได้คือ Group up ตอนถอย .. ถ้ารู้ว่าเราเสียเปรียบ ให้ถอย หรือ รีเซ็ทให้ได้พร้อมๆกัน จะช่วยให้ทีมสามารถ Regroup แบบ Full team ได้เร็วขึ้น
“Don’t Trickling.”… Trickle คืออะไร?
คือจังหวะที่มีสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งค่อยๆตายจากการปะทะ แล้วพอเกิดก็รีบกลับเข้ามาปะทะอีก โดยไม่สนว่ากูจะ Group กับเพื่อน หรือไม่ ซึ่งต้องแบกรับความเสี่ยงการเสียเปรียบในการโดนรุมตีน
Engaging = การเข้าปะทะ
Disengaging = หลีกเลี่ยงการปะทะ (ถอย,หนีออกมา)
3. ติดตามการ มี-ใช้ อัลติเมทของฝั่งเราและฝั่งตรงข้าม (Ultimate Tracking)
Banking คืออะไร ?
แบงก์กิ้ง คือ การสะสมอัลติเมทของเพื่อนในทีม ยิ่งเรามีสะสมไว้มากเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสชนะ Fight ได้มากเท่านั้น
Combo คืออะไร ?
คอมโบ หมายถึง การใช้ อัลติเมท 2 อัลติเมทร่วมกันแล้วทำให้เกิดประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรู หรือ เอาชนะ Fight ได้อย่างรวดเร็ว
โดยปกติแล้ว การคอมโบอัลติเมทจะสร้างความได้เปรียบมากกว่าการปล่อยอัลติแยกเดี่ยวๆอยู่บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นสื่อสารใช้อัลติเมทกับเพื่อนให้ดี
อย่าปล่อยให้เสียของล่ะ!!
Ultimate tracking and prediction คือ?
การติดตามสถานะของอัลติเมทของเพื่อน และ ฝั่งตรงข้าม พร้อม เดาทางความพร้อม-การเตรียมใช้ อัลติของศัตรูอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ทีมรู้ว่าจะต้องเล่นอย่างไร ระวังตัวอย่างไร ควรเก็บตัวไหนก่อน ควรกันใครออกจากพื้นที่
ที่สำคัญเลยคือ ควร ถาม-บอก เพื่อนว่า ใครใช้อัลติไปแล้วบ้าง ..จะช่วยทำให้ทีมมีข้อมูลชุดเดียวกันในการเล่นซึ่งช่วยให้ทีมเล่นได้ระมัดระวังและสบายขึ้น
4. จัดลำดับความสำคัญ และ โฟกัสการเก็บฝั่งศัตรู (Prioritize and Focus Kill)
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้าปะทะ ทีมจะต้องใส่ใจรายละเอียดในการจัดลำดับในการเก็บ และ การโฟกัสในการเก็บศัตรูให้ได้
ส่วนหนึ่งที่หลายทีมแพ้ Fight มาจากการไม่ Focus Kill เพื่อปิด Damage ให้เร็วที่สุด แต่เป็นการแยกกันไปเก็บ นั่นจึงส่งผลให้สถานการณ์พลิกผันได้อยู่ตลอดเวลา หรือเก็บศัตรูได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น.. สุดท้ายเราโดนเก็บแทนซะงั้น!!
สิ่งที่ควรจะต้องทำอย่างแรกคือ ลำดับความสำคัญ ลำดับภัยคุกคาม ว่าตัวไหนคือตัวที่ทำให้เราตกที่นั่งลำบากได้ เช่น เรารู้ว่า Mercy มี Resurrect อยู่แน่ๆ ..ก็สื่อสารให้ทีมรับทราบว่า เข้าปะทะแล้ว ให้ เก็บ Mercy ก่อน เป็นต้น
จากนั้นการ Focus Kill คือการ สื่อสารกับทีมว่า “ช่วยกันเก็บตัวนี้” .. “ฆ่าตัวนี้พร้อมกัน” .. “เอา xxx (ชื่อตัวละคร) ก่อนเลย ตอนนี้” แล้วค่อยๆ Target เป็นตัวๆ ไป
5. ปฏิบัติตามข้อตกลงของ Shot Caller ในจังหวะการปะทะ และการถอย (Well execution by shot caller and disengaging)
ทีมที่ดี ต้องมีส่วมผสมสำคัญอย่าง Shot Caller เสมอ ..
มีไม่พอแล้ว ทีมจะต้องเชื่อใจ และพร้อมจะทำตามที่ Shot Caller เรียกอย่างสม่ำเสมอด้วย..
เช่น Shot Caller บอกให้เข้า ก็ต้องเข้า...
บอกให้ถอยออก ก็ต้องออก…
บอกให้ใช้ Ultimate อะไร กับใคร อย่างไร Combo กับใคร ก็ต้องใช้…
วางแผนอะไรกันอย่างไร ก็ต้องทำตามแผน..
เมื่อทุกคนทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งแล้ว โอกาสที่จะแพ้ Fight นั้น จะน้อยลงมากๆ
และ ในข้อที่ 5 นี้ (จริงๆแล้ว แทบจะทุกข้อ)..จะส่งผลได้ดีก็ต่อเมื่อเรามีทีมที่ดี เล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ ฝึกซ้อม สื่อสารกันมาอยู่ตลอด .. อาจจะหาได้ยากถ้าหากเราต้องเข้าไป Solo Queue
ยิ่งถ้า Rank ต่ำๆ ยิ่งหายากมากๆ ครับ
* — — — — — *
สุดท้ายผมขอฝาก Clip Video ที่ 9Arm ได้ทำเอาไว้เกี่ยวกับ ความสำคัญของ Strategy ที่ผมคิดเห็นว่าสอดคล้องกับ เนื้อหานี้ และมีประโยชน์มากๆ คู่ควรกับการ ดู-ฟัง-เรียนรู้ ย้ำๆ ซ้ำๆ ตลอดการเล่นเกม Overwatch ครับ
