สรุปงาน Google I/O 2022
มีบริการอะไรใหม่บ้าง …
วันนี้จะมาสรุปเนื้อหาภายในงาน Google I/O 2022
งานในปีนี้ Google เค้ามีบริการอะไรใหม่ๆ มานำเสนอบ้าง
รวบรวมมาบางส่วน (ที่ตัวเองสนใจเป็นพิเศษ ตกหล่นอะไรแนะนำกันได้เลยนะคะ)
Google Map
- ใช้ Computer Vision ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายจากถนน ทำงานร่วมกัน
ช่วยเพิ่มจำนวนภาพอาคารบ้านเรือนบนแผนที่ โดยเฉพาะบ้านหลังเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล เช่น Africa ทำให้ค้นหาได้ง่ายมากขึ้นบน Google Map
- ใช้เทคโนโลยี 3D Mapping + AI พัฒนาเป็นฟีเจอร์ Immersive View
สร้างเป็นภาพสามมิติของสถานที่สำคัญทั่วโลกให้เราได้ไปสำรวจสถานที่นั้นๆ ได้แบบสมจริง และมีความแม่นยำมากขึ้น
- ภายในงานมีการยกตัวอย่างให้เห็นภาพของกรุงลอนดอนแลนด์มาร์กที่สำคัญ
อย่างหอนาฬิกา Big Ben พร้อมดูสภาพอากาศ และดูสภาพการจราจรได้แบบเรียลไทม์
- นอกจากนี้ เรายังสามารถค้นหาสถานที่ใกล้เคียงที่เราสนใจได้ด้วย เช่น ร้านค้า
ร้านอาหาร โดยเราสามารถเดินเข้าไปชมบรรยากาศภายในร้านนั้นๆ ได้เลย
พิเศษสุดๆ คือเราสามารถจองคิวโต๊ะร้านอาหารที่เราสนใจได้อีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์ Immersive View ในช่วงแรกนี้จะรองรับการใช้งานเฉพาะบนสมาร์ทโฟน โดยเปิดใช้งานเฉพาะบางเมือง เช่น Los Angeles, London, New York, San Francisco, Tokyo ส่วนเมืองอื่นๆ ก็จะตามมาในอนาคต
Google Workspace
- ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์นักประชุมงานทั้งหลาย จะมี AI คอยช่วยสรุปเนื้อหาเอกสารในไฟล์ Google Doc ที่มีเนื้อหายาวๆ หลายหน้า สรุปให้เหลือแค่ใจความสำคัญเพียงย่อหน้าเดียว ไม่ต้องเสียเวลามาตามอ่านเนื้อหาที่ยืดยาวย้อนหลังด้วยตัวเองอีกแล้ว
ฟีเจอร์นี้จะขยายไปยังการคุยงานผ่าน Google chat และ Google meet ในอนาคตด้วย
Google Meet
- ใช้ AI ปรับภาพวีดีโอให้สว่างขึ้น ปรับโทนสีให้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นให้คุณดูดีที่สุดไม่ว่าจะ Google Meet จากที่ไหน
Google Search
ปกติเวลาเราค้นหาผ่าน Google Search จะทำได้ 3 รูปแบบ คือ ค้นหาด้วยข้อความ ด้วยเสียง ด้วยรูปภาพ
- Multisearch ใส่รูปภาพพร้อมพิมพ์ข้อความค้นหาสิ่งที่เราต้องการได้ ทำให้การค้นหาของเราได้คำตอบที่ตรงกับความต้องการของเรามากยิ่งขึ้น
- Multisearch near me สมมติว่าเราไปเจอภาพอาหารที่เราอยากกินแต่ไม่รู้จักชื่อเมนูและไม่รู้ว่าร้านไหนมีเมนูแบบนี้ ก็ Multisearch near me ไปเลยสิค่ะ
ใส่รูปภาพอาหาร และพิมพ์ข้อความค้นหาว่า Near me ระบบจะแนะนำร้านอาหารที่มีเมนูเหล่านี้ที่เราอยากกินใกล้ๆ เรามาให้เลย อาจจะไม่เป๊ะแต่อย่างน้อยก็พอเป็นไอเดียว่าร้านไหนมีเมนูแบบนี้บ้าง
เบื้องหลังการทำงานคือ Google ใช้ AI มาช่วยในการสแกนอาหาร และรีวิวต่างๆ ที่มีในระบบ
โดย Multisearch จะเปิดให้ใช้งานในปีนี้ เริ่มจากภาษาอังกฤษก่อน
- Scene exploration การใช้ AI จับสิ่งที่อยู่ในภาพ ทำงานร่วมกับ Multisearch
โดยเราเปิดกล้องแล้วสแกนภาพบริเวณที่มีสิ่งของ-วัตถุที่เราต้องการจากนั้น ข้อมูล หรือประเภทของสิ่งของขวัตถุนั้นๆ จะแสดงผลขึ้นมาให้ในภาพทันที พร้อมรีวิวต่างๆ ที่อยู่ในระบบมาให้เราดูได้เลย
เบื้องหลังการทำงาน คือ Google ใช้ Computer Vision ประมวลผลเพื่อเชื่อมภาพหลายๆ ภาพ และระบุวัตถุที่อยู่ในภาพได้เลย ตามตัวอย่างที่แสดงในงาน คือ ช็อกโกแลต ที่ฟีเจอร์นี้สามารถระบุได้เลยว่า ชิ้นนี้แบบไม่มีถั่ว, ชิ้นนี้เป็นดาร์กช็อก, ชิ้นนี้คะแนนรีวิวดี เพราะเค้ามีคลังข้อมูลหลังบ้านของตัวเองที่มากมายมหาศาล Google เรียกสิ่งนี้ว่า Google Knowledge Graph
มันต๊าชมาก ต้องยอมเค้าแหละ
Google Assistant
เราไม่จำเป็นต้องพูด Hey Google ในการสั่งงานแล้ว โดยปีนี้จะสามารถสั่งงานได้ง่าย และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- Look and Talk ใช้กับอุปกรณ์ที่มีกล้อง มองตาก็รู้ใจเลย ภายในงานยกตัวอย่างการใช้งานกับ Google Nest Hub Max เพียงแค่คุณเปิดกล้องกับไมค์ไว้
(ปกติไมค์กับกล้องก็จะสแตนบายไว้อยู่แล้ว) แค่มองกล้อง และพูดคำสั่งที่ต้องการ โดยที่เราไม่ต้องพูด Hey Google อีกต่อไป
ฟีเจอร์นี้ Google ใช้ AI ในการวิเคราะห์หลายอย่างไม่ใช่แค่เสียง ประมวลผลมากกว่า 100 สัญญาณ เช่น ระยะห่าง ท่าทาง การขยับตัว ทิศการการจ้องมอง เพื่อประเมินผลความตั้งใจของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ และทุกอย่างจะประมวลผลในอุปกรณ์ไม่มีการส่งข้อมูลกลับไปหา Google
- Quick phrases ประโยคบังคับ หรือประโยคที่เราใช้งานเป็นประจำ
ถ้า Google assistant ได้ยินประโยคเหล่านี้ ก็จะเริ่มทำงานทันทีโดยที่เราไม่ต้องพูด Hey Google ได้เช่นกัน
Security and Privacy
ในเรื่องของความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว Google ทุ้มทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เตรียมอุปกรณ์ เตรียมเครื่องมือ ปรับระบบ เทรนบุคลากรให้มีความรู้ที่ทันสมัย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
- Google จะนำ AI มาใช้เพื่อช่วยรักษาความความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น ต่อไปถ้ามีใครแชร์ไฟล์ Google Doc และมีการแนบลิงก์ มัลแวร์* หรือ ฟิชชิง** ระบบจะแจ้งให้เราทราบได้ทันที
*มัลแวร์ (Malware) คือ ซอฟต์แวร์ที่เจตนาออกแบบมาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ผู้ใช้งาน หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์
**ฟิชชิง (Phishing) คือ การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต เพื่อขอข้อมูลที่สำคัญเช่น รหัสผ่าน หรือหมายเลขบัตรเครดิต
- สำหรับผู้ใช้งานในอุปกรณ์ใหม่ๆ ระบบจะมีการเปิดใช้งาน 2FA ให้เป็นค่าเริ่มต้นเพื่อป้องกันความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้งาน
- รูปโปรไฟล์จะเพิ่มไอคอนมุมเล็กๆ ด้านล่าง (มีสีแดง สีเหลือง สีเขียว) ให้เห็นได้ชัดๆ เลยว่าสถานะบัญชีของเราปลอดภัยอยู่ในขณะนี้หรือไม่ เพื่อให้เราได้เข้าไปปรับการตั้งค่าให้ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- ในอนาคต Google จะนำพาสคีย์เข้ามาใช้งานด้วยแทนการพิมพ์ ใช้การสแกนหน้า การสแกนนิ้วแทนการจำรหัสผ่านยาวๆ
Virtual Card
สำหรับนักช้อปออนไลน์ ฟีเจอร์บัตรใหม่บน Chrome และ Android จับมือกับ
Visa, Master card โดยระบบจะซ่อนหมายเลขบัตร และซ่อนข้อมูลบัตรไม่ให้ร้านได้รู้ข้อมูลเลย พร้อมกับ generate เลขบัตรใหม่ในการใช้งาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการโดนขโยมข้อมูล ทำให้การช้อปปิ้งของเราปลอดภัยมากขึ้น และจะเริ่มใช้งานจริงในสหรัฐอเมริกาก่อน
My Ad Center
- บริการใหม่ การตั้งค่าโฆษณาที่เราเห็นใน Google โฆษณา หรือเนื้อหาใดที่เราไม่สนใจ สามารถเลือกลดการมองเห็นโฆษณา หรือเนื้อหานั้นๆ ได้ และหากเราสนใจในโฆษณา หรือเนื้อหาแบบไหนเราก็สามารถกดถูกใจเพื่อให้แสดงเนื้อหาเหล่านั้นในครั้งต่อไปได้ด้วยเช่นกัน
- ใครที่ค้นหาข้อมูลใน Google Search แล้วเจอข้อมูลส่วนตัวของตนเอง เช่น
ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เราสามารถแจ้งขอให้ Google ลบข้อมูลเหล่านี้ออกจากหน้าผลการค้นหาได้ โดยการกดปุ่มสามจุดบนผลการค้นหาแล้วก็กดแจ้งขอให้ลบข้อมูลออก
แต่ๆๆ การแจ้งขอในส่วนนี้จะเป็นแค่การนำข้อมูลนั้นๆ ออกจากผลการค้นหาเท่านั้น ข้อมูลเดิมที่อยู่บนเว็บต้นทางก็จะยังคงมีอยู่เหมือนเดิม
Android 13
มีการพัฒนาฟีเจอร์หลายด้าน
แอพ Message อัพเกรดมาใช้มาตรฐาน RCS มาแทน SMS และ MMS ทำให้สามารถแชร์ภาพความละเอียดสูง ข้ามค่าย ข้ามแพลตฟอร์มได้เลย แชทแบบเดี่ยว แชทแบบกลุ่ม ส่งข้อความผ่าน Wi-Fi ทำให้การใช้งานสะดวกง่ายมากยิ่งขึ้น
มีการเข้ารหัสแบบ End-to-end encryption เริ่มจากการแชทแบบเดี่ยว และจะเริ่มขยายไปยังการใช้งานในแชทแบบกลุ่ม
Google Wallet
ช่วยเก็บบัตรเครดิต กุญแจรถ ตั๋วเครื่องบิน เอกสารการฉีดวัคซีน
บางรัฐในสหรัฐอเมริกาจะสามารถใช้ Google Wallet เก็บบัตรประชาชน และใบขับขี่ได้ด้วย
Emergency SOS to Wear
- การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน โดยใช้ Emergency Location Service ELS ช่วยระบุตำแหน่งขอความช่วยเหลือ เมื่อเรากดขอความช่วยเหลือผ่านสมาร์ทโฟน หรือสมาร์ทวอทช์
จะมีการเปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้เพิ่มเติมในหลายประเทศ เช่น บัลแกเรีย ปารากวัย สเปน ซาอุดิอาระเบีย
- การเตือนภัยแผ่นดินไหว Early Earthquake Warning ก่อนหน้านี้ Google เปิดให้ใช้งาน 25 ประเทศ แต่ปัจจุบันจะขยายการใช้งานให้มากยิ่งขึ้นสำหรับในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว
Wear OS
เมื่อปีที่แล้วได้มีการรวมแพลตฟอร์มกับ Samsung เกิดเป็น Wear OS
- เราจะได้เห็นนาฬิกา Smart Watch รุ่นใหม่ๆ เช่น MontBlanc, Fossil, MK และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ สำหรับสายแฟอีกมากมาย
- Google Assistant ก็จะสามารถใช้งานได้แล้วบนนาฬิกา Smart Watch ของ Samsung โดยเริ่มจาก Galaxy Watch4 เป็นรุ่นแรก รวมทั้งการทำงานของ Google Assistant บน Wear OS จะใช้งานได้เร็วขึ้น การทำงานของคำสั่งเสียงจะสั่งงานได้ดีมากขึ้น
- แอพยอดนิยมก็จะขยายการใช้งานไปอยู่บน Wear OS ด้วย แอพใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามา เช่น Spotify, Adidas running, Kakao talk, Soundcloud
- ฝั่งของ Tablet ก็จะมีการปรับ interface ใหม่ให้รองรับการแสดงผลหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ให้เห็นได้ชัดมากขึ้น พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้สามารถ multi tasks ได้ และใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น toolbar เพื่อให้เราเรียกใช้งานแอพได้เร็วขึ้น
- ปรับการทำงานของแอพมากกว่า 20 แอพ เพื่อให้ใช้งานใน Tablet ได้ปัง และดีขึ้น เช่น Youtube music, Google map, Message, TikTok, Zoom, Facebook
- Google Play จะปรับโฉมใหม่เหมือนกัน และค้นหาแอพที่ปรับแต่งให้เข้ากับ Tablet ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วยนะ
Chromecast built-in
- Android13 จะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ง่ายขึ้น ด้วยความเป็นระบบเปิด ความยืดหยุ่นในการทำงานระหว่าง สมาร์ทโฟน นาฬิกา แทปเลต ทีวี รถยนต์ ลำโพงอัจฉริยะ ก็จะทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย
- เราจะสามารถดูหนัง ฟังเพลง ได้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะบน มือถือ แทปเลต ดูในจอรถยนต์ หรือในทีวี ปีนี้ Google ได้เพิ่มพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายความสามารถในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ด้วย
Fast Pair
- เราสามารถเปลี่ยนการเชื่อมต่อหูฟังได้เร็วขึ้นด้วยฟีเจอร์ Fast Pair และย้ายการเชื่อมต่อได้ไหลลื่นมากขึ้น เช่น จากมือถือไปแทปเลต
- เราสามารถคัดลอก url หรือรูปภาพจากมือถือไปวางบนแทปเลตได้เลยสะดวก รวดเร็วสุดๆ
ทั้งหมดนี้เป็นแค่บางส่วนภายในงานเท่านั้น ใครที่อยากดูคลิปเต็มๆ ก็สามารถตามไปดูได้เลย แปะคลิปไว้ให้ด้านล่างนี้ 2.26 ชม. ไปเลยจุกๆ
ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงอาจจะแปลพลาดไปบ้าง แหะๆ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกันจนจบนะคะ
all pic: https://www.youtube.com/c/google