ญี่ปุ่นตั้ง 10 วัน EP.2 !มาริโอ้คาร์ทของฉัน

Pichaya Punyakhetpimook
7singha
Published in
3 min readSep 13, 2017

สำหรับวันที่สอง แผนการเราที่แพลนมาจะเป็นการเที่ยวในเมืองโตเกียวแบบสบายๆประมาณนี้

  • ออกไปเดินไหว้พระที่วัด Asakusa เช้าๆ
  • ไปเดินเล่นแถว Imperial Palace และ Tokyo Station
  • เย็นๆเข้าโอตาคุโหมดไปเดิน Akihabara

โดยที่การเดินทางวันนี้เราจะพยายามใช้ Subway ทั้งหมดเพื่อความประหยัด

มาเริ่มที่มื้อเช้าร้านตรงข้ามับวัดอาซากุสะเลย หยอดเหรียญกดเมนูสบายๆ

วันนี้อร่อย อิ่มมาก ราคาตกคนละประมาณ 200 บาท
เดินข้ามมาฝั่งวัด ก่อนจะถึงตัวอาราม ก็จัดของหวานกันไปอีกรอบ อร่อยดี

จากนั้นก็เข้าไปจุดธูป ไหว้พระ โยนเหรียญ และแวะซื้อเครื่องรางสวยๆที่ร้านข้างๆ

เดินออกจากวัด ระหว่างทางก็โดนไอติมไปอีก ร้านนี้คนต่อแถวเยอะ อร่อยจริงด้วย

สถานที่ต่อไปในแพลนเราก็คือ Imperial Palace หรือ พระราชวังอิมพิเรียล การเดินทางที่แพลนไว้ก็คือ นั่งใต้ดินไปโผล่สถานีโตเกียว จากนั้นก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ

หาทางออกจากสถานีให้ถูก และเดินต่ออีก 1.1 กม.

ความลำบากคือสถานีโตเกียวมันใหญ่และเชื่อมกับห้างนู่นนี่นั้นเยอะมาก สิ่งแรกที่ต้องหาคือ Station map หาทางออกที่เราต้องการก่อน ทุกอย่างจะง่ายขึ้นเยอะครับ

รอบๆพระราชวังจะเป็นสวนโล่งๆ มีที่จอดรถทัวร์ และเป็นเส้นทางซ้อมวิ่งที่น่าวิ่งมาก เส้นทางวิ่งระยะทางประมาณรอบละ 5 กม. มีที่อาบน้ำบริการ

เราเดินมุ่งหน้าตามนักท่องเที่ยวคนอื่นไปเรื่อยๆ เพื่อจะหา Landmark ของที่นี่ ยอมรับเลยว่าไม่ได้หาข้อมูลมาเลยว่าที่นี่มันมีอะไรให้เที่ยวบ้าง ก็อาศัยเดินตามๆเค้าไป

สะพานแว่นตา!!!!!

search หาในเน็ตเค้าบอกว่าเราจะเจอกับ “สะพานแว่นตา” เราก็ไหนวะๆ สักพักก็เห็นทัวร์จีนถ่ายรูปกับสะพานเก่าๆ ไกลๆ อ๋อ นั่นน่ะเอง กุไม่น่าเดินมาเลย

ทางเข้าพระราชวัง

มองกลับไปที่เมือง จะเจอกับกลุ่มตึกในเขตธุรกิจ ได้อารมณ์เหมือนเกาะแมนฮัตตั้น

แพลนต่อไปคือไปเดิน Akihabara แต่ในระหว่างที่จะข้ามถนนไปลงใต้ดินนั้นเอง ก็มีกลุ่ม Mario cart ขับผ่านหน้าไป กรี๊ดมาก รีบ Search goole หาข้อมูล ว่ามันต้องไปเช่าขับที่ไหน ได้ข้อมูลมาว่า มันคือร้าน MariCar และตัดสินใจออกนอกแพลนตามแผนที่ไปแบบเบลอๆ หลงบ้าง ขึ้นรถไฟผิดบ้าง

ไกลแต่ใจมันอยากขับมากก
ใต้ดินและเดินต่อไป

ในที่สุดก็มาถึงร้าน MariCar มีรถจอดอยู่หน้าร้าน มีนักท่องเที่ยวฝรั่งกำลังแต่งตัวเป็นตัวละครในมาริโอ้เพื่อจะออกรอบต่อไป เราเข้าไปถามราคา ได้ความว่า เส้นทางไปวนถึงชินจุกุราคาคนละประมาณ 8,000 JPY รวมเช่าชุดมาริโอ้และผองเพื่อน

รีบวิ่งเข้าไปติดต่อทันทีให้ทันรอบที่จะออกนี้ ว่างสองคันพอดี แต่!!!!!!

ผมไม่ได้ทำใบขับขี่สากลมา!

จบ

บาย

หลังจากฟื้นจากความเฟล เราก็เดินทางกลับไป Akihabara เพื่อต่อแพลนเดิม ระหว่างทางก็แวะกินแกงกะหรี่มื้อบ่ายกันก่อน

ร้านนี้อร่อยออกจากสถานีมาเจอเลย

อิ่มแล้วเรามุ่งหน้าไปลุยตึกเขียวหรือ ห้าง Yodobashi กัน! ในห้างจะมีขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น เกมส์

ชั้นของเล่นขอเล่นเยอะมาก กันดั้มถูกเยอะ แอบดูไว้เพื่อจะมาหยิบวันท้ายๆ เพราะเรายังต้องย้ายที่นอนกันอีกหลายคืน มีกล่องไปอาจจะลำบาก Nintendo switch ที่แอบเล็งไว้ก็ไม่มีของตามที่คาด เหมือนจะต้องมารอเช้าๆจริงๆ

เดินบนตึกจนพอใจแล้ว ก็ลงมาหาไรกินด้านล่าง(อีกแล้ว) มาทริปนี้รู้สึกจะคล่องกับตู้กดมากๆ เจอเป็นหยอดเป็นกด

ลงมาเดินร้านด้านล่าง ช่วงเย็นๆ คนเยอะ ได้บรรยากาศ Akihabara มากๆ ลองเดินขึ้นไปเล่นตึก SEGA แลกบัตรเติมเงินและแตะเล่นได้ทุกตู้ แถมยังใช้เซฟเกมส์ได้ด้วย ลองเล่นเกมส์ดริฟรถ สนุกมาก น้าคนข้างๆเซียนจริงจัง

นอกจากร้านเกมส์แล้ว ก็ยังมี ร้านฟิกเกอร์ ร้านไอด้อล ร้านเซ็กทอย ร้านกล้อง อีกมากมาย เรียกได้ว่าเดินกัน 5–6 ชม. ยังไม่ครบ

มุมมหาชน ใครๆก็ต้องถ่าย

เดินๆไปเจอเนื้อเสียบไม้ ราคา 1000JYP เลยขอลองซะหน่อย

พบว่าอร่อยดี ย่างแล้วมันนุ่มและอร่อยยย

เดินจนครบ 20,000 ก้าวแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับที่พัก

ทิป

  • รถโกคาร์ทมาริโอ้คาร์ทที่มีให้เช่าขี่ในโตเกียว จริงๆแล้วมันไม่ใช่ลิทสิทธ์แท้จาก Nintendo ซึ่งร้านเค้ามีการปรับชื่อเป็น MariCar แต่เรื่องเครื่องแต่งกายยังเป็นตัวละครจากมาริโอ้อยู่
  • iphone ทุกเครื่องนับก้าวได้ด้วย app health ซึ่งทริปนี้ดูแล้วพบว่าเดินวันละ 19,000–22,000 ทุกวัน ทำให้รู้ว่าเราพาผู้ใหญ่มาเที่ยวลำบากแน่ๆ
  • Nintendo Switch ที่โตเกียวราคาเครื่องละ 8,500 บาท ไทยหิ้วมาขาย 13,000++
  • ที่ Akihabara บางมุมถนนจะมีน้องๆมาเปิดเพลงร้องเต้นโชว์ คนดูก็ยืนล้อมดูกันอย่างนั้นแหล่ะ
  • ร้าน Sex Toy แบ่งชั้นตามเลเวล 1fl ชุด 2fl ของเล่น 3fl ห้ามหญิงขึ้น

ตอนทั้งหมด

--

--