ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการโค้ชด้วยการ์ด ขอเกริ่นนำด้วย
หนังอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์
อาร์ตได้ดูในช่วงก่อนที่จะได้ไปโค้ชและรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่สอดคล้องกันอยู่
จึงอยากชวนทุกคนลองอ่านรีวิวหนังกันก่อนครับ
หนังอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์
อนิเมชั่น ที่เล่าเรื่องราวผ่าน “จิฮิโระ” เด็กหญิงวัย 10 ปี จอมงอแงและดื้อรัน ที่่กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางย้ายมาบ้านใหม่กับพ่อแม่ แต่กลับหลงเข้าไปในอีกมิติหนึ่งโดยบังเอิญ ทำให้พ่อแม่ของเธอถูกสาปเป็นหมู และเธอจะต้องติดอยู่ในมิติที่เต็มไปด้วยภูตผีและเรื่องราวมหัศจรรย์ที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
Spirited Away ได้รับรางวัล Best Animated Feature จากเวทีรางวัลออสการ์
เพราะ..มันให้มากกว่าความสนุก สะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นของสังคมในหลากหลายประเด็น เช่น เด็กๆกับการเลี้ยงดู รูปแบบสังคม ธรรมชาติกับมนุษย์ การหายไปหรือการมีอยู่ของชื่อ(ตัวตน)
แง่คิดที่น่าสนใจ
ความคิดเห็นจากสมาชิก Pantip : junkfood
Spirited away “ คือความสมบูรณ์เเบบเท่าที่การ์ตูนเรื่องนึงจะสามารถสร้างได้เเล้ว
ให้เด็กน้อยดู ก็สนุก ตื่นตาตื่นใจ ผู้ใหญ่ดูก็ยังสนุก เเถมได้สาระ ได้เเง่คิดติดหัวออกมากองเท่าภูเขา เเละถ้าตั้งใจมองดีๆทุกฉากทุกตัวละครมันมีนัยยะในตัวของมันอยู่มันสะท้อน ถึงความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์
เเละค่านิยมในสังคมได้เเบบรุนเเรง เเละตรงสุดๆ ”
ความคิดเห็นจากสมาชิก Pantip : eagle1000
Spirited Away “ เป็นอนิเมชั่นที่แปลกครับ คือช่วงอายุและประสบการณ์ชีวิตของคนดูที่แตกต่างกันจะทำให้ดูแล้วได้อะไรไม่เหมือนกัน แล้วเอากลับมาเปิดดูใหม่เมื่ออายุและการมองโลกเปลี่ยนไป เราก็จะได้อะไรไม่เหมือนเดิมอีก สุดๆจริงๆ ”
หลายครั้งเราอาจหลงละเลิง หรือ ถูกครอบงำ ในการมีอยู่ของ “ชื่อ”
จนลืมไปว่า “ตัวตน” ของเรานั้นเป็นอย่างไร
อาร์ตได้รับแรงบัลดาลใจจาก Spirited Away ในการค้นหาตัวเอง
จากประเด็นเรื่อง ชื่อ = ตัวตน = อัตลักษณ์ ในอนิเมชั่น
แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จนได้พบเพจ โค้ชด้วยการ์ด
จากการแนะนำของเพื่อน จนได้รับการโค้ชจากพี่ก้อง
ชื่อ(ตัวตน) ที่ยังไม่ปรากฎ.. กับการโค้ชด้วยการ์ด
[Review] โค้ชด้วยการ์ด by พี่ก้อง
1. กระบวนการในการโค้ช
ขั้นแรก แนะนำตัว พูดคุยเหตุผลที่มารับการโค้ชมีเป้าหมายหรือความต้องการอะไร รวมถึงข้อตกลง การให้ข้อมูลความเป็นส่วนตัว ตามความสมัครใจของเรา จากนั้นโค้ชก็จะสังเกตว่าเรามีลักษณะยังไง พี่ก้องก็จะถามจากการสังเกต ว่าเราเป็นแบบนั้นๆไหม ถ้าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ตอบตามที่เราคิด อย่างของอาร์ตพี่ก้องสังเกตว่า เป็นคนคิดหรือจำโดยใช้รูปภาพเป็นองค์ประกอบหลัก จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่การค้นหาตัวเราอย่างเข้มข้น ผ่านเครื่องมือช่อง 7 สี
เมื่อพอรู้วิธีคิดของเรา ก็เข้าสู่ช่วงการค้นหา ชื่อ หรือ ตัวตนของเราว่าเป็นยังไงอย่างเข้มข้น ส่วนนี้โค้ชจะให้เขียนโมเดลในการค้นหาดังภาพ ซึ่งจะประกอบด้วย
1.สิ่งที่เราชอบทำ (ชอบแต่อาจจะทำได้ไม่ดีก็ถือว่า ชอบ)
2.สิ่งเราที่ทำได้ดี (อาจไม่ชอบ ทำได้ดีจากฝึก หรือทำบ่อยๆ)
3.สิ่งที่คนอื่นเห็นคุณค่าหรือชื่นชม (ให้พยายามนึกถึง สิ่งที่คนอื่นกล่าวถึงเราบ่อยๆ)
อาร์ตก็ลิสออกมาให้ตรงกับตัวเองมากที่สุด ตามแต่ละหัวข้อ เท่าที่จะนึกออกในตอนนั้น เมื่อจบแล้วก็จะเข้าสู่การจัดกลุ่มความคิด เพื่อดูตัวตนของเรา ในขั้นนี้คำถามจะลงลึกมาก ทำไมเราคิดแบบนั้น อย่างนี้ โดยทุกครั้งพี่ก้องจะถามว่าเป็นเราใช่ไหม ถ้าไม่ใช่ เราก็ต้องหากันต่อ จนได้Common(จุดเชื่อมโยงหรือสอดคล้อง)ของข้อนั้นๆ
ตัวอย่าง สิ่งที่ชอบทำ ชอบหาข้อมูลใหม่ๆ ชอบประดิษฐ์/ซ่อมสิ่งของภายในบ้าน ชอบถ่ายรูป ดูผลงานทางศิลปะ ชอบเล่นกีฬาที่Active/กิจกรรมแนว Extreme ตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบความเสี่ยงอันตราย เมื่อวิเคราะห์ร่วมกับพี่ก้อง จริงๆเป็นคนชอบกิจกรรมที่รู้สึกสนุกและรู้สึกเป็นอิสระเมื่อได้ทำมัน ได้ปล่อยพลังทั้งทางกายและจิต ดูเวอร์ๆแต่เปิดโลกใหม่เลยย ต้องเจอกับตัวเองฮะ :)
ทำกระบวนการแบบนี้จนครบ 3 ข้อ ก็จะเขาใจตัวเองว่าเราชอบอะไร ทำอะไรได้ดี อะไรที่คนเห็นคุณค่าในตัวเรา จะได้ใช้เป็นแต้มต่อให้กับตัวเองในการพัฒนา หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (การใช้งานจะอยู่ในข้อต่อไป)
นอกจากช่อง 7 สี อาร์ตมีโอกาสได้ใช้ Vulues Card เพราะ “ชื่อที่กำลังตามหา ยังไม่ปรากฏ”
มีไพ่ทั่งหมด 50 ใบ ให้เราเลือก 3 ใบ คล้ายๆกับการดูดวง พี่ก้องก็จะให้สังเกตจากข้อความ รูปภาพ ให้ตอบว่าเห็นอะไร และรู้สึกว่ามันต้องการจะสื่ออะไร ในส่วนนี้จะ
ดึงเอาส่วนลึก หรือจิตใต้สำนึกเราออกมา ว่าเราต้องการอะไร มีเป้าหมายลึกๆ คืออะไร หรืออะไรที่เป็นตัวเรา เสริมจากการวิเคราะห์ช่อง 7 สี เพราะเราอาจคิดจากความเคยชินหรือมุมมองของคนอื่นๆ
อย่างไพ่ใบสีส้ม = การช่วยเหลือผู้อื่นให้ดียิ่งขึ้น/พัฒนามากขึ้น จะเสริมอยู่ระหว่างสิ่งที่ทำได้ดี(เชื่อมโยงต่อยอดไอเดีย Differentiate มองโลกในแง่ดี เกิดจากฝึก*) กับสิ่งที่คนอื่นเห็นคุณค่า(กล้าแสดงออก)
ไพ่ที่เหลือของอาร์ตช่วยตามหาชื่อที่ยังไม่ปรากฎ และบอกเป้าหมายในการโค้ชในครั้งนี้ฮะ เมื่อเราวิเคราะห์ทั้งช่อง 7 สี / Values Card พี่ก้องก็จะบอกวิธีการนำไปใช้
2. การนำไปใช้ / คำแนะนำจากพี่ก้อง และการตกผลึกของอาร์ต
> เมื่อเราได้ช่อง 7 สี ที่สมบูรณ์ ก็ดูว่างานหรือกิจกรรมที่เราจะทำ มีความสอดคล้องกับตัวเราไหม ถ้าใช่ ลงมือทำ ถ้าไม่ใช่ คิดดูก่อน เป็นการสร้างข้อได้เปรียบในการนำไปใช้พัฒนาตนเอง หรือการทำงานจริง ให้เอางานประกอบตัวเอง ไม่ใช่เอาตัวเองไปประกอบงาน จะทำให้เราไม่มีความสุขได้ และอาจจะไม่ยั่งยืน (เลือกที่เหมาะสมกับตัวเอง)
> ถึงแม้จะเสริมในส่วนที่เรามีข้อได้เปรียบ ต่อยอดในสิ่งที่มี แต่ต้องเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดเช่นกัน
> การตั้งเป้าหมาย คนเราชอบมองการไปถึงเป้าหมายเป็นเส้นตรง แต่จริงๆแล้วอาจไปซ้าย ไปขวา ขึ้น ลง นับไม่ถ้วน สิ่งสำคัญคือรีบก้าวแรกให้เร็วแต่ก็ต้องระวังด้วยนะเดียวล้ม :)
> ล้มบ่อยๆมันก็เจ็บหนักได้ เริ่มอะไรที่ง่ายๆทำก่อน อย่าพึ่งทำอะไรที่ยากเกินไป เดียวจะไม่มีกำลังใจทำอะไรเลย :)
> เน้นจุดที่เล็ก(สำคัญ)เพื่อสร้างผลกระทบที่ใหญ่
> เมื่อหาเป้าหมาย (what) ทำไมต้องทำ (Why) ทำแล้วได้อะไร (Benefit) เมื่อถึงเป้าหมายรู้สึกอะไร (Feeling) แล้วจะทำยังไงให้ถึงเป้าหมาย(How)
> ทุกๆส่วนในช่อง 7 สี ล้วนเป็นสิ่งที่เราพูดทั้งนั้น โค้ชมาช่วยในการว่างแผนกลยุทธ์ ชี้นำแนวทาง แต่เราเป็นคนสร้างให้สำเร็จ
> แต่ละคนมีความต่างและ Value ไม่เหมือนกัน การให้เกีตรติจึงเป็นสิ่งสำคัญ
3. ถ้าอยากโค้ชด้วยการ์ดต้องทำยังไง?
ติดต่อได้ที่ inbox เพจโค้ชด้วยการ์ดได้เลย พี่ก้องใจดีมากๆ ทักไปโลดดด
> บุคคลทั่วไป(มีค่าใช้จ่าย)
> น้องๆมัธยม ถึงป.ตรี รับการโค้ชฟรี
หมายเหตุ : วิธีการโค้ชของแต่ละคน อาจจะใช้เครื่องมือ
หรือวิธีการโค้ชที่แตกต่างกัน ไปตาม เป้าหมาย ที่มาปรึกษา
4.คำแนะนำ
> เตรียมกระดาษ สมุด ปากกา ไปด้วย จะได้จดและบันทึกข้อมูลต่างๆได้ เพราะจะเป็นคู่มือของเราไปอย่างน้อย 5–10 ปี หรือตลอดชีวิต *Value อาจเปลี่ยน ขึ้นอยู่วิถีชีวิตเราในอนาคตด้วย
> ตั้งใจฟังโค้ชดีๆ ถ้ากลัวจะลืมก็ฟังไป จดไป
> ตอบด้วยความเป็นตัวเอง อย่าหลอกตัวเอง เรามาเพื่อหาว่าตัวตน ของเราเป็นยังไง
> เมื่อกลับมาบ้านควรสรุปในสิ่งที่ตนเองเข้าใจคร่าวๆ บางครัั้งต้องใช้เวลาในการตลกผลึกความคิดเหมือนกัน แต่ก็อย่าปล่อยให้พลังที่เต็มเปี่ยมในตัวนั้นดับไปก่อน
> เมื่อมีเวลา วิเคราะห์พิจารณาสิ่งที่เราได้เรียนรู้ ตั้งเป้าหมายว่าจะนำไปใช้ปร์ะโ่ยชน์อย่างไร
เข้าใจจุดแข็ง และธรรมชาติการทำงานของตนเอง (เพิ่มเติม)
เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของชีวิต
ผ่านหนังสือ Managing Oneself — ปัญญางานจัดการตน
เขียนโดย Peter F. Drucker ปรมาจารย์การจัดการของโลก
ผู้คิดหลักสูตร MBA สำหรับผู้บริหาร [อ่านสรุปหนังสือ คลิกลิงค์ ตรงนี้]
เข้าใจตัวเอง คุณค่า และความหมายของชีวิต (เพิ่มเติม)
ผ่านหนังสือ 10 เล่ม
ที่ควรอ่านก่อนตาย
โดยคุณเอ๋ นิ้วกลม Roundfinger
ที่แนะนำหนังสือในงาน
ตายก่อนตาย live Exhibition |
งานซ้อมตายนิ้วกลม
[อ่านบทความคลิกลิงค์ ตรงนี้]
อาร์ตเคยพลาดอะไรหลายๆอย่างในชีวิต จากการไม่รู้จักตัวเองดีพอ จึงไม่ได้ลงมือทำอะไรที่อยากทำ
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ อยากจะบอกว่า ผมเริ่มที่จะใช้ Value ของผมในการต่อยอดเพื่อสร้างความแตกต่างต่อตัวเอง ให้ปรากฎขึ้นแล้ว
ที่อ่านๆกันอยู่นี่แหละครับ อิอิ ^^
ขอให้ทุกคนได้พบเจอ Value ของตัวเองเร็วๆ จะได้ร้อง “ อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คิดไว้นี่หว่า ” ปีใหม่ ก็พบอะไรใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้นฮะ
เข้าใจตัวเอง คุณค่า และความสร้างสรรค์ของตัวคุณ(เพิ่มเติม)
ผ่านแบบทดสอบ My Creative Type — บุคลิกภาพความคิดสร้างสรรค์
[ทำแบบทดสอบ คลิกลิงค์ ตรงนี้]
