ฉีเหมิน #5 — การพยากรณ์
บทความนี้ ตัวอักษรเยอะมากซะหน่อยเพราะเป็นการอธิบาย จริง ๆ น่าจะเป็นการเปิดสอน แต่เนื่องจากเป็นการเผยแพร่ผ่านบทความก็เลย มีตัวอักษรเยอะไปนิด
ผมพยายามจะเขียนให้สั้นกว่านี้แล้ว แต่ก็ลำบากมาก เพราะถ้าไม่อธิบาย ไม่เน้นย้ำ จะเข้าใจผิด ใช้ผิด ต้องขออภัยทุกท่านด้วยที่ตัวอักษรเยอะมากครับ
ก่อนเริ่มบทความตอนที่ 5 เรื่องพยากรณ์ ต้องขอย้ำเตือนกันก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาด ว่า
- พยากรณ์ กับ เสี่ยงทาย ต่างกัน → ฉีเหมินเป็นวิชาพยากรณ์ไม่ใช่เสี่ยงทาย
- ฉีเหมิน เป็นวิชาไสยศาสตร์ → ต้องมีปัจจัยเรื่องมนุษย์ และ จิต เข้ามาเป็นองค์ประกอบ ต้องมีการกระทำของมนุษย์เข้าไปด้วยเสมอ
- ฉีเหมิน ไม่เป็นวิชาเชิงวิทยาศาสตร์ → ไม่สามารถใช้ได้โดยปราศจากปัจจัยเรื่องมนุษย์ เช่น ไม่สามารถทาสี ตั้งของ ตั้งน้ำพุ แล้วก็รวยได้เลยโดยไม่ต้องทำอะไร แบบที่เชื่อกันในสายวิทยาศาสตร์
- ผลลัพธ์ ของการพยากรณ์ เปลี่ยนแปลงได้เสมอ → เมื่อการกระทำเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากฉีเหมินเป็นวิชาไสยศาสตร์ จึงเชื่อว่า อนาคตถูกกำหนดโดยการกระทำ ณ ปัจจุบันของเราด้วย (และการกระทำในอดีต) ไม่ได้ขึ้นกับดวงชะตา หรือ ฮวงจุ้ย แต่เพียงอย่างเดียว
- ฉีเหมินเชื่อเรื่อง ฟ้าคนเป็นหนึ่งเดียว → แปลว่าจะใช้งานได้ดีขนาดไหน จะอ่านผลได้ถูกมากแค่ไหน อยู่ที่จิตของผู้นั้นสื่อสารกับฟ้าได้มากขนาดไหน หรือ รวมเป็นหนึ่งกับฟ้าได้มากขนาดไหน ดังนั้น คนที่ไม่ฝึกสมาธิมา จะใช้งานฉีเหมินได้ยากลำบากกว่าคนที่ฝึกสมาธิมาเป็นอย่างมาก
เหตุที่ต้อง ย้ำเตือนประเด็นเหล่านี้ก่อน เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา จากที่ได้มีโอกาสพูดกับหลายท่านที่สนใจ พบว่ามีความเข้าใจผิดเป็นอย่างมากว่า ฉีเหมินเป็นวิชาเสี่ยงทาย เป็นวิชาเอาไว้คาดเดา จนทำให้ส่วนมากมักใช้ฉีเหมินเพื่อทายผลบอล ทายผลมวย จนไปถึงทายหวย 😔
แล้วเมื่อนำไปทายผลบอลไม่ถูก ทายหวยไม่ตรง ก็เลยเกิดกระแสการต่อต้านวิชาฉีเหมินกันทั่วประเทศ จนทำให้มีความเชื่อว่าวิชานี้มั่ว ไม่มีจริง ใช้ไม่ได้ จนทำให้วิชานี้สูญหายไปจากเมืองไทย
แท้จริงแล้ว วิชาฉีเหมินไม่ใช่วิชาเสี่ยงทาย แต่เป็นวิชาพยากรณ์
ผมเขียนรายละเอียดเบื้องต้น ไว้ให้อ่านแล้วใน ฉีเหมิน #3 – การประยุกต์ ในหัวข้อ ความเข้าใจหลัก และ พยากรณ์; ผมขออนุญาตแนะนำให้กลับไปอ่านอีกซะรอบหนึ่งเริ่มอ่านบทความนี้ จะทำให้เข้าใจการใช้งานฉีเหมิน และ ใช้ฉีเหมินให้เกิดผลได้ดียิ่งขึ้นมากครับ
เหตุที่ผมเน้นย้ำเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ด้วยความเข้าใจผิดว่าฉีเหมินเป็นวิชาเสี่ยงทาย และไม่เข้าใจหลักการของวิชาไสยศาสตร์ จึงทำให้ในอดีตที่ผ่านมามีการนำหลักการเชิงวิทยาศาสตร์มาพยายามใช้กับวิชาฉีเหมิน
จนเป็นสาเหตุเหตุให้วิชาฉีเหมินถูกต่อต้านจากผู้ศึกษาในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เป็นเวลาหลายสิบปี ทำให้ในปัจจุบันในประเทศไทยแทบไม่มีใครใช้วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ยเลยในปัจจุบัน ทั้งที่เป็นวิชาที่มีประโยชน์และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
จึงน่าเสียดายเป็นอย่างมาก ที่ประเทศไทยได้เสียโอกาสในการศึกษาวิชานี้ไป หลายสิบปี อาศัยบทเรียนในอดีตที่ผ่านมา ผมจึงอยากให้ทุกท่านเข้าใจวิชานี้ จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิด ใช้งานผิด จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสต่อต้าน อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา
ประวัติการพยากรณ์ในฉีเหมิน
ในสมัยเริ่มแรก ฉีเหมินตุ้นเจี่ย นั้นเป็นการพยากรณ์โดยการอาศัยปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ดังที่เราจะเคยได้เห็นในหนังจีนว่า ทุกคืน ซินแส, นักปราชญ์ และ นักดาราศาสตร์ จะต้องมายืนดูดาวบนท้องฟ้า ว่า แต่ละวันดาวเป็นอย่างไร เช่น
- สีของดาว
- ความสว่างของดาว
- การกระพริบ
- ตำแหน่งของดาวเคราะห์ว่าไปอยู่ในกลุ่มดาวไหน
ฤกษ์และการเดินดาวในฉีเหมิน จะเกิดจากตำแหน่งดาวเหล่านี้ก่อนจะถูกเปลี่ยนมาเป็นสูตรคำนวณ โดยในตำราฉีเหมินโบราณ จะมีการเขียนบันทึกไว้เช่น
ถ้ากลุ่มดาว A สว่างสดใสหมายถึงการตัดสินที่สมดุล เหมาะที่จักรพรรดิ จะออกกฎหมายใหม่ หรือ ตัดสินคดีใหญ่ แต่ถ้าดาว B สว่างกว่าดาว A และมีดวงจันทร์ เคลื่อนผ่านกลุ่มดาว C จะมีลมแรงและฝนตก
ความจริงแล้ว
องค์ประกอบเกือบทั้งหมดในวิชาฉีเหมิน เป็นชื่อของดาวจริง ๆ บนท้องฟ้า
แม้แต่ 10 กิ่ง ที่เรารู้จักกันนั้น (甲, 乙, 丙, 丁, 戊, 己, 庚, 辛, 壬, 癸) แท้จริงแล้วก็คือ สัญลักษณ์แทนตำแหน่งดาวบนฟ้า
หรือ กระทั้ง 10 เทพที่ได้กล่าวไป ในความเป็นจริงก็คือชื่อของดาวจริง ๆ บนท้องฟ้า ทั้งนั้นครับ ยกเว้นก็แต่ประตูเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นดาวจริงบนท้องฟ้า — เนื่องจากประตูเป็นพลังงานบนโลกไม่ใช่พลังงานบนฟ้า (ซึ่งในหลักสูตรฉีเหมินพื้นฐาน จะมีการอธิบายในรายละเอียดต่อไป)
โดยหลังจากได้มีการเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลานาน ก็สามารถหาวิธีคำนวณต่าง ๆ ได้ดังที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
กล่าวได้ว่า ฉีเหมินตุ้นเจี่ย เป็นวิชาโหราศาสตร์แขนงหนึ่งก็ได้ครับ
แต่เนื่องจากไม่ได้มีการกล่าวไว้ในเอกสารทั่วไปนอกจากตำราฉีเหมินโบราณ ทำให้ผู้ศึกษาวิชาฉีเหมินส่วนมากเกิดความเข้าใจผิดว่า ฉีเหมินเป็นเพียงสูตรคำนวณตามจินตนาการไม่ได้เกี่ยวข้องกับดาวจริง จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดว่าฉีเหมินเป็นวิธีการเสี่ยงทาย
ขั้นของการพยากรณ์
การพยากรณ์ของฉีเหมิน จัดว่ามีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งผมได้แบ่งโดยสังเขปเป็น 10 ขั้น เพื่อให้เห็นภาพคือ
- พยากรณ์ผลลัพธ์ — ได้/ไม่ได้
- พยากรณ์ดี/ร้าย
- พยากรณ์ตาม 10 กิ่ง
- พยากรณ์ตามสุสาน (墓), โทษทัณฑ์ (擊刑), สูญเปล่า (空亡)
- พยากรณ์ตามโครงสร้างพิเศษ (格)
- พยากรณ์ตามกิ่ง + ประตู
- พยากรณ์ตามกิ่ง + ประตู + ดาว + เทพ
- พยากรณ์เจ้าบ้าน–แขก (主 — 客), รุก–รับ
- พยากรณ์ตามเรื่องต่าง ๆ (เงิน, สุขภาพ ฯลฯ)
- พยากรณ์ตามปัจจัย วิถี 7 ดารา, 28 กลุ่มดาว
โดยในบทความนี้จะเป็นการพยากรณ์ตามขั้นที่ 1; สำหรับขั้นที่ 2–5 จะอยู่ในหลักสูตรฉีเหมินพื้นฐาน และ ขั้นที่ 6–10 จะอยู่ในหลักสูตรฉีเหมินพยากรณ์ ต่อไป
การศึกษาวิชาฉีเหมินนั้น เมื่อเริ่มศึกษาจะไม่ยากมาก เนื่องจากองค์ประกอบที่ต้องศึกษามีจำนวนไม่มาก ก็จะทำให้ก้าวหน้าได้เร็วช่วงแรก แต่ยิ่งการพยากรณ์ขั้นสูงขึ้นไปนั้นต้องใช้ความรู้เป็นจำนวนมากขึ้นอย่างมาก (ต้องจำมากๆๆๆ) ทำให้การศึกษาวิชาฉีเหมินในสมัยก่อนเป็นไปด้วยความยากลำบากเป็นอย่างมาก
ซึ่งความก้าวหน้าของการศึกษาวิชาฉีเหมินสามารถแสดงได้ตามภาพ
การพยากรณ์ผลลัพธ์ — ได้/ไม่ได้
เรามาเริ่มเข้าสู่การพยากรณ์ตามวิชาฉีเหมินเลยครับ เริ่มจากวิธีพยากรณ์ที่ง่ายที่สุด ในขั้น 1 คือ การพยากรณ์ว่าเราจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือ ไม่ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ
การพยากรณ์นี้ตอบคำถาม ว่า สิ่งที่เราต้องการนั้นจะมีโอกาสได้ไหม เช่น
- มีคนโทรแจ้งให้สัมภาษณ์งาน จะได้งานนั้นไหม? → ใช้เวลาคนโทรแจ้งพยากรณ์
- มีคนมาแจ้งว่ามีทุน จะได้ทุนนั้นไหม? → ใช้เวลาที่คนโทรแจ้งพยากรณ์
- มีลูกค้ารับนัดให้ไปเสนอขาย จะขายได้สำเร็จไหม? → ใช้เวลาที่ลูกค้ารับนัดพยากรณ์
อย่างไรก็ดี ในขั้นนี้ ไม่ได้บอกว่า
- สิ่งที่เราต้องการนี้ดีไหม?
- จะสำเร็จยากหรือง่าย?
- จะเจอปัญหาอะไร?
- จะได้กำไร, ขาดทุน แค่ไหน?
- จะได้ช้า, เร็ว, เมื่อไหร่?
- จะต้องทำอะไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ให้ง่ายขึ้น
ซึ่งเหล่านี้จะเป็นการพยากรณ์ขั้นสูงต่อไป
สังเกตนะครับ ต้องมีว่า เราจะทำอะไร… ก่อนเสมอครับ เนื่องจากฉีเหมินเป็นวิชาที่ต้องมีปัจจัยมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ตามหลักไสยศาสตร์
โดยสรุป การพยากรณ์ ตามหลักไสยศาสตร์ คือ
มีเหตุการณ์เกิดขึ้น → เรามีความต้องการกระทำบางอย่างต่อเหตุการณ์นั้น → ผลลัพธ์ของการกระทำเป็นอย่างไร
อีกประการคือเหตุการณ์ในอนาคตเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เมื่อการกระทำของเราเปลี่ยนแปลงไป เช่น เมื่อเราพยากรณ์แล้วเรารู้ว่า ถ้าตามปกติมันจะได้ยากมาก แต่ถ้าเปลี่ยนไปทำแบบนี้แทน (ตามที่ผังบอก) โอกาสจะสำเร็จสูงกว่ามาก เมื่อเราเปลี่ยนแปลงการกระทำ ก็ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงได้ (ซึ่ง การกระทำ กำหนด ผลลัพธ์ นี่เองก็เป็นหลักการสำคัญในวิชาไสยศาสตร์)
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะร่วมงานกับ Partner แต่ดูแล้ว Partner ไม่สนใจเรา โอกาสที่จะเป็น Partner กันยากมาก แต่ในผังบอกว่าถ้าเปลี่ยนไปจ้างเป็น Outsource หรือ ให้มีคนกลางในการคุย โอกาสสำเร็จสูงกว่า เป็นต้น ซึ่งเมื่อเรารู้แล้วว่า ทำอะไรที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เราก็สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์จากที่ยากที่จะร่วมงานกันได้ มาร่วมงานกันได้
อีกประการคือ ถ้าพยากรณ์ว่าผลลัพธ์ดี แล้วจากที่เราพยายามทำอยู่กลายเป็นเลิกทำไปเลย หรือ ไม่พยายามเหมือนเดิม ก็ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไปได้ เพราะเรากำลังพยากรณ์ว่า ตามที่เรากำลังทำอยู่นั้น หรือ ตามที่เรามีความตั้งใจว่าจะทำ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ต้องอย่าลืมว่า วิชาฉีเหมิน เป็นวิชาไสยศาสตร์ ดังนั้น ปัจจัยบุคคล หรือ การกระทำ มีผลต่อผลลัพธ์เป็นอย่างมาก ถ้าไม่ทำ หรือ ทำต่างออกไปจากเดิมผลลัพธ์ก็เปลี่ยนไป (ผังบอกว่าจะสำเร็จ เลยดีใจแล้วนอนอยู่เฉย ๆ ก็สำเร็จได้ยาก)
ซึ่งจะแตกต่างกับทางความเชื่องทางสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่า ปัจจัยภายนอกมีผลมากกว่ามนุษย์ เช่น วางวัตถุ การวางน้ำ การทาสี การกระตุ้นโชค มีผลต่อความสำเร็จของเรามากกว่าการกระทำ และสามารถรับรองผลลัพธ์ได้ 100% (ถ้าทาสี วางน้ำ กระตุ้นโชคถูก อยู่เฉย ๆ ก็สำเร็จได้ รับรองผล 100%)
**หมายเหตุ** ผมไม่ได้กำลังบอกว่าทางไหนถูกหรือทางไหนผิดครับ เพียงแต่ชี้ให้เห็นมุมมองที่ต่างกัน แต่การจะศึกษาฉีเหมินให้เข้าใจ จำเป็นต้องมองในมุมไสยศาสตร์ ถึงจะเกิดความเข้าใจวิชา และ มีความก้าวหน้าในวิชานี้ได้ ถ้ามองฉีเหมินด้วยมุมมองทางวิทยาศาสตร์ จะงง สับสน แล้วใช้ฉีเหมินได้ผลยาก
ขั้นตอนการพยากรณ์
โดยสังเขปขั้นตอนพยากรณ์ผลลัพธ์ว่าได้หรือไม่ได้ มีหลัก ๆ 4 ขั้นตอน คือ
- ขึ้นผังเมื่อได้รับสัญญาณ
- หากิ่งฟ้าของวัน และ กิ่งฟ้าของยาม จากผัง
- ดูว่าสถานะ (ธาตุ) ของวังทั้ง 2 นั้นเป็นสถานะ (ธาตุ) อะไร
- พิจารณาปฏิกิริยาของวังทั้ง 2 ที่กระทำต่อกัน
ซึ่งจะอธิบายได้โดยละเอียดดังนี้ครับ
สัญญาณ
เนื่องจากฉีเหมินเป็นการพยากรณ์ ในการจะพยากรณ์ตามวิชาฉีเหมิน ได้นั้นจำเป็นต้องมีสัญญาณจากภายนอกมา เพื่อเป็นตัวให้สัญญาณว่าควรจะใช้ผังเวลานี้ในการอ่าน ถ้าไม่มีสัญญาณจากภายนอกมาแล้วขึ้นผังจะเป็นการเสี่ยงทายแทน
กล่าวอย่างง่าย สัญญาณ = เหตุการณ์ ที่เกิดกับเรา
และเนื่องจากฉีเหมิน เป็นวิชาไสยศาสตร์ ดังนั้น จึงต้องมีปัจจัยมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หมายความว่า ถ้ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา เรามักจะพยากรณ์ได้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการเอาวันเวลาอื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากสัญญาณหรือไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรามาพยากรณ์มักจะไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง
สัญญาณ คืออะไร?
ยกตัวอย่าง เช่น คุณกำลังอยากซื้อคอนโดซะที่ สัญญาณ ก็เช่น
- มี Sales โทรมาเสนอคอนโด → ใช้เวลาที่รับโทรศัพท์ขึ้นผัง
- มีเพื่อนมาแจ้งว่าที่… เปิดจองคอนโด → ใช้เวลาเพื่อนบอกขึ้นผัง
แต่ถ้าเป็นการเสี่ยงทาย (ซึ่งเป็นการใช้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีสัญญาณ) ก็จะเช่น
- นั่งกินกาแฟอยู่แล้วอยากรู้ว่าช่วงนี้ซื้อคอนโดดีไหมเลยขึ้นผังดู
- อยากรู้ว่าถ้าเปลี่ยนไปอยู่คอนโดจะได้โชคไหมเลยขึ้นผัง
ขอยกตัวอย่าง เพิ่มเติมอีก เช่น ในงานโครงการที่ผมเจอประจำ ถ้าสัญญาณของการพยากรณ์ ก็เช่น
- ผู้บริหารโทรมาขอเลื่อนวันนำเสนอ → ใช้เวลาที่รับโทรศัพท์ขึ้นผัง
- ทีมงานโทรมาแจ้งปัญหา → ให้เวลาที่โทรแจ้งขึ้นผัง
- มีคนโทรมาเสนอโครงการ → ใช้เวลาที่โทรมาเสนอขึ้นผัง
แต่ถ้าเป็นการเสี่ยงทาย (ซึ่งเป็นการใช้ที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีสัญญานมา) ก็จะเช่น
- ทำ ๆ โครงการนี้อยู่เกิดสงสัยว่า จะมีปัญหาอะไรไหมเลยขึ้นผัง
- กลับบ้านแล้วนอนปวดหัวกับทีมงานเลยสงสัยว่าทีมงานเป็นไงเลยขึ้นผัง
ดังนั้นการเอาเวลาแข่งขันบอล, เวลาออกสลากกินแบ่ง มาขึ้นผัง นั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก → ไม่มีสัญญาณ (ไม่เป็นไปตามหลักพยากรณ์) + ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา (ไม่เป็นไปตามหลักไสยศาสตร์)
หรือ กินกาแฟ, นอนอยู่ดีๆ แล้วเกิดอยากรู้อะไรขึ้นมาก็เลยขึ้นผัง ก็ไม่ถูกต้อง เพราะ → ไม่มีสัญญาณ, ไม่มีเหตุการณ์
1. การขึ้นผัง
การขึ้นผังเพื่อใช้ในการพยากรณ์ โดยทั่วไปจะสามารถแบ่ง ได้เป็น 4 ขั้น
- ขึ้นผังโดยใช้สัญญาณ
- ขึ้นผังโดยใช้ปรากฎการณ์รอบตัว
- ขั้นผังโดยใช้สัญญาณจากฟ้า
- ขึ้นผังโดยไม่ต้องขึ้นผัง
การใช้งานทั่วไป จะใช้ขั้นที่ 1 เท่านั้น ขั้น 2–4 สำหรับคนที่ใช้ฉีเหมินมาชำนาญ รวมถึงมีฝึกฉีเหมินเวทย์มนต์ และ นั่งสมาธิจนชำนาญ เท่านั้น ไม่ใช่การใช้งานโดยผู้ใช้งานฉีเหมินทั่วไป
การขึ้นผังในขั้นสูง ยกตัวอย่างเช่น มีคนโทรมาบอกว่าปวดท้อง ณ เวลาเกือบตี 1 ผู้ชำนาญฉีเหมินจะรู้เลยว่า ในผังจะต้องมีดาวเทียนรุ่ย (天蓬星) อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และมี 癸 ประกอบอีกทั้งน่าจะมี 庚 อยู่ในทิศนั้น ดังนั้น น่าจะมีสาเหตุหลักมาจากระบบเลือดและความดันเป็นสาเหตุที่แท้จริง โดยที่ไม่ต้องขึ้นผังฉีเหมินจริง ๆ หรือถ้าขึ้นมาก็จะได้ผังแบบนั้นจริง ๆ อยู่ดี
อย่างไรก็ดี สำหรับการใช้งานทั่วไป เพียงขั้นที่ 1 ก็มีประโยชน์มากแล้ว
1.1 การขึ้นผังโดยโปรแกรม
ผมและทีมงานรวม 5 คนได้พัฒนาโปรแกรมฉีเหมินขึ้นมาให้ได้ใช้กัน โดยสามารถเข้าไปใช้ได้ที่เว็บไซต์ Qi Men X
ตาม url
http://qimen10x.com
สำหรับวิธีการลงทะเบียน และ การใช้งานเบื่องต้นผมได้เขียนอธิบายไว้ในบทความ การสมัครใช้โปรแกรม Qi Men X
ตาม url
https://medium.com/@QiMenAlchemy/qimenx-registration-7c96cf97cf79
2. การหากิ่งฟ้าของวันและยาม
ในโปรแกรมจะมีการแสดงกิ่งฟ้าของวันและยาม ไว้ที่ช่องกลางของผัง เช่น จากในภาพตัวอย่าง วัน 己 ยาม 乙 เมื่อดูจากผังก็จะพบว่า วัน 己 อยู่ทางทิศ SW; ยาม 乙 อยู่ทางทิศ SE
ขอยกอีกตัวอย่าง วัน 乙 ยาม 丙 เมื่อหากิ่งฟ้าจากผังจะพบว่า กิ่งฟ้าของวัน 乙 อยู่ที่ทิศ SW; กิ่งฟ้าของยาม 丙 อยู่ที่ทิศ NE ตามภาพ
เพื่อความง่ายและรวดเร็วในการใช้งาน กิ่งฟ้าวันในผัง จะแสดงด้วยวงกลมสีม่วง; กิ่งฟ้ายามจะแสดงด้วยสีเหลี่ยมสีม่วง ทางด้านข้างของกิ่งฟ้านั้น ตามภาพ
3. การหาสถานะของวัง
5 สถานะ หรือ ที่คนไทยนิยมเรียกว่า 5 ธาตุ นั้น จะใช้ 5 สถานะเดียวกับที่ใช้ในลั่วซู (洛書 — luò shū, ลั่วซู̲) หรือที่คนไทยเรียกว่าหล่อซู่ คือ
- ทิศ N สถานะน้ำ (ธาตุน้ำ)
- ทิศ NE, SW สถานะดิน (ธาตุดิน)
- ทิศ E, SE สถานะไม้ (ธาตุไม้)
- ทิศ S สถานะไฟ (ธาตุไฟ)
- ทิศ W, NW สถานะทอง (ธาตุทอง)
ซึ่งในผังจะแสดงโดยอาศัยสีของขอบผัง ดังภาพ (จริง ๆ ชื่อที่ถูกคือ ชื่อของวัง ซึ่งเป็นไปตามข่วย แต่เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าใจง่าย จึงขอเรียกเป็นทิศแทน)
ดังนั้นจากตัวอย่างเดิม วัน 己 ยาม 乙
- วัน 己 อยู่ทางทิศ SW → สถานะ ดิน (ธาตุดิน)
- ยาม 乙 อยู่ทางทิศ SE → สถานะ ไม้ (ธาตุไม้)
หรือ อีกกรณีคือ วัน 乙 ยาม 丙
- วัน 乙 อยู่ทางทิศ SW → สถานะดิน (ธาตุดิน)
- ยาม 丙 อยู่ทางทิศ NE → สถานะดิน (ธาตุดิน)
จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า
สถานะ (ธาตุ) ของ กิ่งฟ้าทั้ง 10 นั้นไม่ได้เป็นไปตามวิชาปาจื่อ (八字, bāzì) แต่เป็นไปตามสถานะ (ธาตุ) ของวัง (ทิศ) ที่กิ่งฟ้านั้นเยื่อนไปอยู่
โดยในขั้นสูงนั้น กิ่งฟ้ายังมีสถานะเป็นไปตามสถานะทั้ง 7 (7 ธาตุ) ของ 28 กลุ่มดาว ด้วยครับ
4. ปฏิกิริยาของวัง
วิธีการวิเคราะห์ในการพยากรณ์ฉีเหมินนั้น จะมีหลักการดังนี้
- วัน = ตัวของเรา
- ยาม = ผลลัพธ์
- ยาม ก่อเกิด วัน = ผลลัพธ์ ก่อเกิด ตัวเรา → ดี, ได้โดยง่าย
- วัน สถานะ (ธาตุ) เดียวกับ ยาม = ตัวเรา แบบเดียว ผลลัพธ์ → ดี, ได้
- วัน ก่อเกิด ยาม = ตัวเรา ก่อเกิด ผลลัพธ์ → ไม่ค่อยดี, แปลว่าต้องเหนื่อย ถึงได้ผลลัพธ์, ต้องทุ่มเทถึงได้ผลลัพธ์
- วัน พิฆาต ยาม = ตัวเรา ควบคุม ผลลัพธ์ → ไม่ค่อยดี, แปลว่า ต้องควบคุม ถึงได้ผลลัพธ์ เราต้องเสียกำลังในการไปควบคุม
- ยาม พิฆาต วัน = ผลลัพธ์ พิฆาต ตัวเรา → แย่มาก, แปลว่า เราจะไม่ได้ ไม่สำเร็จ
ยกตัวอย่าง วัน 乙 ยาม 丙 → SE พิฆาต SW → ยาม พิฆาต วัน → ไม่ได้, ไม่สำเร็จ
อีกตัวอย่างคือ วัน 己 ยาม 乙 → SW สถานะเดียวกับ NE → วัน สถานะเดียวกับ ยาม → ได้, สำเร็จ
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงการพยากรณ์เบื้องต้นแบบง่ายที่สุดเท่านั้น ในการพยากรณ์ขั้นสูงยังมีรายละเอียดอีกมาก เช่น ของที่เราจะเอาเป็นของดีหรือของไม่ดี, มีอุปสรรค์, มีปัญหาอะไรบ้าง, ใครช่วยเหลือเราได้, มูลค่าเท่าไหร่, สิ่งที่ทำได้, สิ่งที่ทำไม่ได้ ฯลฯ
ข้อสงสัย
ผมได้สร้างกลุ่ม Facebook ขึ้นมา ชื่อ QMA Club เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยน และพูดคุยของผู้ที่สนใจวิชาฉีเหมินในประเทศไทยกัน โดยเป็นกลุ่มเปิดซึ่งสามารถเข้ากลุ่มได้ที่
ถ้าท่านใดใช้โปรแกรมแล้วพบปัญหาในการใช้งาน มีข้อสงสัยในการพยากรณ์ สามารถโพสต์ข้อสงสัยได้ในกลุ่ม
ในกลุ่มผมอาจจะไม่ได้เข้าไปตอบโดยตรง แต่เชื่อว่าจะมีผู้ที่ศึกษาฉีเหมินเข้ามาช่วยให้คำตอบครับ (อาจจะในอนาคต)
เนื่องจากวิชาฉีเหมิน เป็นวิชาใหม่มากในประเทศไทย ทั้งในสมัยก่อนยังถูกต่อต้าน เป็นอย่างมากจากในประเทศไทย จึงทำให้ไม่มีข้อมูล ไม่มีหนังสือ ไม่มีกรณีศึกษา ที่เป็นภาษาไทยให้มากนัก
ผมจึงขอเป็นผู้บุกเบิกสร้างกลุ่ม ฉีเหมิน เป็นคนแรก เพื่อรวบรวมผู้ที่สนใจไว้ด้วยกัน ใครสนใจเข้ามาช่วยเหลือ มาเข้ากลุ่มด้วยกันได้ครับ
สรุป
จะเห็นได้ว่า ในการพยากรณ์ในขั้นต้นด้วยการใช้โปรแกรมเข้าช่วย วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย ก็ไม่ได้ใช้ยากมากอะไร
เพียงแต่จุดที่สำคัญ คือ ความเข้าใจการใช้งานที่ถูกต้อง เช่น การพยากรณ์ต่างกับเสี่ยงทายอย่างไร, การพยากรณ์ตามหลักการของไสยศาสตร์ คืออะไร
ในบทความตอนต่อไป ผมจะนำเสนอการพยากรณ์ขั้นสูงขึ้นไปครับ
ถ้าสนใจติดตาม บทความอื่น ๆ สามารถไปกด Like ได้ที่ Facebook
https://www.facebook.com/QiMenAlchemy/
Credit ภาพประกอบ Cover : ตามตอนที่ 1
