All About 2022 with Juice (Co-Founder) of Globish Academia
ณ ตอนนี้พวกเราก็มาถึงโค้งสุดท้ายของปี 2022 แล้ว ถึงแม้จะเป็นปีที่เหนื่อย แต่ก็มีเรื่องดี ๆ และเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นกับพวกเรามากมายในช่วงเวลาที่ผ่านมา
Globish ได้เติบโตขึ้นไปอีกขั้น เหล่า Co-Founder และ ชาว Globies ถูกเชิญไปร่วมงานต่าง ๆ ได้ไปแข่งขัน Pitch กับบริษัทอื่น ๆ หรือได้เป็นตัวแทน Start-up ของไทยไปแข่งขันกับองค์กรในระดับโลก และได้รับรางวัลมากมาย 5 รางวัล ดังนี้
1. รางวัลชนะเลิศของทวีป Asia ในการแข่งขัน Pitching ที่งาน Bett Asia 2022
2. รางวัล Rising Unicorn ของ 88 sandbox ที่ร่วมจัดโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สำหรับองค์กรที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศในอนาคต
3. รางวัล Most Dedicated mentor จาก 88 sandbox ที่เราได้ไปช่วยสนับสนุนโครงการ Incubation หลาย ๆ โครงการ ช่วยบ่มเพาะ Start-up ใหม่ ๆ ที่ต้องการ Mentor
4. รางวัล Grand Winner, Spark Ignite 2022 by Huawei
5. 1 ใน 6 Finalist ในสาขา The Sauciest Startup of the year ในงาน Tech Global Summit 2022
Globish ขอขอบคุณทุกฝ่าย ที่ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการ EdTech เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับรางวัลทุกรางวัลที่กล่าวไป และพร้อมจะสร้างสิ่งที่ดียิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป
บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า นอกจากได้รับรางวัลต่าง ๆ แล้ว เรายังได้ขยายกิ่งก้านไปเติบใหญ่จนเกิดเป็น Globish สาขา Vietnam แล้วอีกด้วย!
ก่อนที่เราจะผ่านปี 2022 ไปด้วยกัน เราได้ทำการสัมภาษณ์ “พี่จุ๊ย” ชื่นชีวัน วงษ์เสรี Co-Founder แห่ง Globish เกี่ยวกับการเดินทางของ Globish ในปีนี้ ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าสู่ก้าวต่อไปในปี 2023
ในฐานะที่พี่จุ๊ยได้มีโอกาสไปขึ้นเวทีบ่อยที่สุด รู้สึกยังไงบ้างที่ Globish ได้ไปร่วมงานต่าง ๆ และได้รับรางวัลมากมายขนาดนี้?
“ดีใจและเป็นเกียรติมากจริง ๆ เรารู้สึกว่าตอนนี้ Globish ก็เป็นพี่ใหญ่แห่งวงการ EdTech ในประเทศไทยไปแล้ว ไม่ใช่เพราะรวย แต่เราเริ่มต้นมาก่อนคนอื่นสักพักแล้วเหมือนกัน การที่เราไปเวทีต่าง ๆ โอกาสที่เราจะได้รางวัลมันก็ค่อนข้างสูง แต่เราก็เตรียมตัวและตั้งใจทุกเวทีเหมือนเดิมนะ
ทีนี้การที่เรายังไปเข้าร่วมงานต่าง ๆ อยู่ เพราะมันเป็นเหมือนหน้าที่ของ 1 ในพี่ใหญ่ในวงการ Start-up ด้าน EdTech เพราะส่วนใหญ่เวลาคนพูดถึง Start-up ทุกคนจะนึกถึง Fintech หรือ Bitkub ที่เติบโตรวดเร็ว แบบว้าวซ่ามาก ๆ แต่คนกลับไม่ค่อยสนใจ Start-up ด้านการศึกษา ส่วนที่เป็นรากฐานสำคัญของประเทศ อาจจะเป็นเพราะมันดูไม่ Sexy เท่ากับด้านการลงทุน หรือด้านการเงิน”
“เราอยากเป็นตัวแทนของคนที่ทำด้านการศึกษา ให้ได้ไป Exposure และมีที่ยืนในวงการ Start-up บ้าง ทำให้คนหันมาสนใจ และอยากมาทำอะไรด้านการศึกษามากขึ้น เพื่อให้ปัญหาการศึกษาที่ยังไม่ถูกแก้ไข มันดีขึ้น”
ถ้าการทำธุรกิจด้าน EdTech มันไม่ Sexy ทำไมเราถึงพร้อมชนกับคนอื่น?
ถ้าเราทำสิ่งที่ดี เราต้องกล้าชน การศึกษาเป็นสิ่งที่สามารถสร้าง Social Impact ได้กว้าง มันเป็นรากฐานของประเทศที่จะทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ เราต้องกล้ายืนในจุดยืนที่ว่า ตอนนี้ระบบการศึกษายังดีไม่พอ แล้วก็สร้าง Impact ต่อระบบการศึกษาไทยให้ได้
สถาบันหรือผู้สอนส่วนใหญ่ ใช้วิธีการเรียนแบบให้นักเรียนดูวิดีโอ แต่เราเชื่อว่าการทำด้านการศึกษามันต้อง Practical และ Payoff คือ ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษได้ ต้องได้พูด จนพูดได้ ไม่ใช่นั่งดูวิดีโอ มันไม่ได้ฝึกมันก็พูดไม่ได้หรอก แต่การทำคลาสสดมันยาก โดยเฉพาะเราต้องดูแลคุณภาพโค้ชให้ดีพอด้วย แล้วทุกคลาสเรามีต้นทุนค่าครูที่สูงมากๆ แต่เราเชื่อว่ามันคือ Solution ที่จะทำให้คนไทยพูดภาษาอังกฤษได้จริงๆ
ส่วนเรื่อง Growth Rate ของบริษัทอาจจะไปเทียบกับสาย Financial ที่มีคนมาลงทุนเยอะ ๆ ไม่ได้ เพราะมันไม่ได้ทำปุบรวยปับแบบเขา แต่การเรียนภาษาอังกฤษแล้วเอาไปพัฒนา Skill ตัวเองมัน Sustain กว่า แล้วก็สำคัญกับคุณภาพชีวิตของทุกคนจริง ๆ”
จากการที่ Globish ได้ไปร่วมงานต่าง ๆ มา เราได้รับ Feedback จากคนอื่นยังไงบ้าง
“เรื่องแรกเป็นในเชิงธุรกิจ Globish เติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัว Revenue จำนวนนักเรียน หรือจำนวน Class เรียน ทุกคนรู้จัก Globish มากขึ้น ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงนี้มันไม่ง่ายเลย อย่างที่ทุกคนรู้ว่า Start-up จากปีแรก จะเหลือรอดแค่ 10% และพอปีที่ 2 จะเหลือแค่ 1% ซึ่งทุกคนก็ทึ่งแล้วก็ยอมรับ ว่า Globish ยังทำได้
ส่วนเรื่องที่สองก็คือ โมเดล Business-to-school เมื่อก่อนที่เราลองไปทำกับโรงเรียน และมหาลัย คนยังไม่เชื่อถือ Globish ยังไม่เข้าใจว่าระบบการเรียนออนไลน์คืออะไร
หลังจากที่เรามีประสบการณ์ในตลาดต่าง ๆ มากขึ้น รู้ว่าผู้เรียนต้องการอะไร บวกกับเรามีการทำ Summer class ที่ให้น้องจากโรงเรียนต่าง ๆ เข้ามาเรียนฟรี มีโครงการ International Friend of Peace Day และโครงการอื่น ๆ ทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับโรงเรียนต่าง ๆ จนตอนนี้เราเติบโตขึ้นมาในระดับที่สามารถสนับสนุนโรงเรียนได้ เรามีวิธีในการดูแลครู และนักเรียน วิธีการพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสม ที่จะเติมเต็มช่องว่างความไม่เท่าเทียมทางการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนให้กับนักเรียนได้จริง ๆ”
เป้าหมายต่อไปของ Globish คืออะไร
“ตอนนี้ Globish ก็เป็นองค์กรระดับ Regional แล้ว วันนึง Globish จะเป็นองค์กรระดับโลก และทำให้คนไทยภูมิใจที่เราไปถึงระดับนั้นได้
อย่างล่าสุด ‘น้ำ’ (Education Consultant) ก็เป็นตัวแทน Globish ไปงาน CyFy 2022 ที่อินเดีย แทนกับทรอยก็ได้ไปขึ้นพูดที่สิงคโปร์ แล้วเดี๋ยวเราก็จะมีตัวแทน Globish ไป Fukuoka ที่ญี่ปุ่นด้วย เพราะเค้าก็สนใจให้เราไป Launch ที่ประเทศของเขา นอกจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เรายังอยากไปเปิดใน Developing Country ด้วย เพราะเราจะได้ไปช่วยเขาพัฒนาจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่การไปขยายธุรกิจเพิ่มเติม”
“ในอนาคตเมื่อ Globish ไปเปิดที่ประเทศไหน เราอยากให้เขาดีใจที่เราไปเปิดที่นั่น เพราะเราจะไปพัฒนาคนในประเทศเขา และ Globies ทุกคนจะเป็น Changemaker เป็นส่วนนึงในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นระดับโลก”
อยากบอกอะไรกับทุกคนที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้
“อยากขอบคุณลูกค้าตั้งแต่คนกลุ่มแรกที่มาทดสอบระดับภาษา หรือมาทดลองเรียนกับ Globish เรายังเก็บชื่อ 20 คนแรกไว้อยู่เลย ขอบคุณคนที่เข้ามาตั้งแต่เรายังไม่ดีขนาดนี้ เราพัฒนามาได้เรื่อย ๆ เพราะ Feedback จากทุกคนจริง ๆ
ขอบคุณลูกค้าองค์กรที่เชื่อใจกัน ทั้ง ๆ ที่มีหลายตัวเลือกอีก 350 กว่าที่ แต่ก็เลือก Globish เราเชื่อว่าหลังจาก COVID-19 ทุกบริษัทก็ต้องเจอมรสุมมาไม่มากก็น้อย แต่ขอบคุณที่ยังเชื่อในการพัฒนาคนอยู่ และให้ Globish เป็นคนทำหน้าที่นั้น รวมถึงคนที่มาร่วม Co-develop หลักสูตรใหม่ ๆ กับเราด้วย โดยเฉพาะในประเทศไทย มันบอกว่า คนไทยยังเชื่อในการพัฒนา และเชื่อในศักยภาพของคนไทยว่าจะช่วยพัฒนาบริษัท และ ประเทศนี้ต่อไปได้
ขอขอบคุณพ่อแม่ทุกคนที่ส่งลูกมาเรียน Globish Kids ที่เชื่อใจให้เราไปพัฒนารากฐานทางภาษาของน้อง ๆ และยังเชื่อใจเราต่อมาเสมอ ๆ
ขอบคุณทุกคนที่มา Engage กับเรา เพราะเราเชื่อว่าประเทศจะพัฒนาได้ ถ้าคน Value เรื่องการพัฒนาตัวเอง แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นทีละคน 2 คนก็ตาม ทุกคนเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เรายังอยากทำงานอยู่ทุกวัน ทุกครั้งที่ท้อ เราจะนึกถึงนักเรียนคนนึงที่เคยไปสมัครเป็น Ground Officer ที่สนามบินแล้วผิดหวัง แต่พอมาเรียนแล้วกลับไปสมัครที่เดิมก็ได้งานตามที่ต้องการ เราคิดเสมอว่า Story แบบนี้มันเกิดขึ้นกับชีวิตผู้เรียนของเราในทุก ๆ วัน แม้จะมีอุปสรรคมากมายแต่มันก็ทำให้เรามีแรงผลักดันให้ทำสิ่งนี้ต่อไป”
สุดท้ายนี้อยากขอบคุณ Globies ทุกคนที่อดทนกันมาตลอด เพราะว่า Globish ก็เป็นสิ่งแรกของเรา อาจจะมีบางอย่าง ทำบางสิ่งได้ไม่ดี หรือผิดพลาดไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การ Manage การดูแล หรือ Compensation ที่ยังอยากให้ได้มากกว่านี้ ขอบคุณที่อดทนมาด้วยกันตลอด โดยเฉพาะคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น ๆ เราเชื่อว่าบริษัทจะดีขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ด้วย Feedback ของทุกคน หวังว่าจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ และมาช่วยกันทำให้ Globish เป็นบริษัทที่ดีสำหรับทุกคน อยากจะดูแลทุกคนให้ดีกว่านี้จริง ๆ”