กลับมาใช้ iPod (อีกครั้ง)

Zakariya W.
iPod Story
Published in
3 min readJan 5, 2014

--

นับเป็นของขวัญชิ้นพิเศษจากผู้ใหญ่ใจดี ที่ให้ iPod Video (Gen 5) สีดำ 30GB เป็นของขวัญปีใหม่ ถือเป็นของสะสมได้เลยครับ สำหรับรุ่นนี้ เพราะอายุมันก็หลายปีแล้ว แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็น iPod รุ่นที่เสียงดีรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ผมรู้จัก iPod จากหนังเรื่อง Cody Bank ภาค 1 หนังแนวสายลับเด็ก ที่มีอุปกรณ์พิเศษมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ iPod (น่าจะเป็นรุ่นแรก) ผมได้เห็น iPod ในหนังเรื่องนี้ แล้วจึงไปหาข้อมูลใน internet ว่าไอ้เจ้าเครื่องเล่น mp3 สีขาวๆ มีปุ่มกลมๆ ใหญ่ๆ ด้านหน้า เป็นยี่ห้ออะไร เพราะตอนนั้นยังไม่รู้จัก Apple ดีนัก รู้แค่ว่าเป็นผู้ผลิต Macintosh

หลังจากได้รู้แล้วว่ามันคือ iPod เครื่องเล่นเพลงจาก Apple ก็ทำให้ผมสนใจเจ้าเครื่องนี้มากขึ้น แต่… ปัญหา ณ ตอนนั้นคืองบประมาณ เพราะยังเรียนอยู่ งบน้อย เลยได้แต่นั่งเสพข่าว iPod จาก internet เท่านั้น

iPod ตัวแรกที่ได้ใช้

ตัวแรกที่ได้ใช้ (จากการสละมือถืออันแสนรักแสนหวง เพื่อเอาเงินมาซื้อ iPod แล้วใช้มือถือธรรมดาๆ) ก็คือ iPod nano Gen1

iPod nano รุ่นแรก

นอกจากจะเป็น iPod nano ตัวแรกที่ Apple เปิดตัวแล้ว ก็ยังเป็นเครื่องแรกที่ผมได้ใช้เป็นของตัวเอง หลังจากฝันมานาน

เจ้า nano ตัวนี้ ตัวเล็กมากครับ และรองรับแค่ฟังเพลง กับดูรูปเท่านั้น แต่ก็ให้ความรู้สึกที่เป็น “iPod” พอๆ กับรุ่นใหญ่เลย เพราะมี Clickwheel

ปัญหาของคนเริ่มใช้ iPod หลายๆ คนก็คือ “การซิงค์เพลงกับ iTunes” ที่หลายคนไม่เข้าใจ ทำให้รู้สึกว่ายาก แต่สำหรับผม ก่อนซื้อ ผมได้อ่านหนังสือหลายเล่ม ทำให้พอรู้แนวทาง และหลักการในการเอาเพลงลง iPod พอได้เครื่องจริงมา ก็เลยใช้ได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก

ตัวนี้ผมใช้นานมากครับ น่าจะประมาณ 3 ปีกว่าๆ ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ตัวใหม่ ไม่ใช่เพราะพังนะครับ แต่ทำหาย!! นึกไม่ออก หาไม่เจอจริงๆ ว่าไปลืมไว้ที่ไหน เสียดายมากครับ เลยตัดสินใจเอา iPod nano Gen3 มาใช้ (สาเหตุที่เลือก nano ตลอด ทั้งๆ ที่ชอบรุ่นใหญ่ เพราะ nano ไม่แพงมาก)

iPod nano Gen3

หลังจากใช้รุ่นนี้ไปไม่นาน มือถือที่ฟังเพลงได้ และให้เสียงดีๆ อย่าง Sony Ericsson Walkman Phone และผมก็เป็นเจ้าของอยู่ตัวนึง ทำให้การฟังเพลงบน iPod ของผมลดลงไป เพราะไม่อยากพกหลายเครื่อง จนมีคนมาขอซื้อ ผมเลยขายไป แล้วก็ไม่ได้ใช้ iPod ไปนานหลายปี เพราะการมาของ iPhone จนล่าสุด ได้ซื้อ iPod Shuffle Gen4 (ซื้อจาก @iBabe) มาใช้ฟังเวลาไปวิ่งออกกำลังกาย

iPod Shuffle Gen4

ข้อดีของ iPod Shuffle ก็คือพกง่าย แบตทน แต่ข้อเสียคือ เลือกเพลงไม่ได้ เพราะไม่มีจอ เราต้องซิงค์เฉพาะเพลงที่ชอบ ที่จะฟังจริงๆ เท่านั้น และที่สำคัญ เสียงของ iPod Shuffle Gen4 คือ “แห้ง” ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ แม้จะฟังจาก EarPods ก็ตาม

ได้ใช้ iPod รุ่นใหญ่กับเขาเสียที

iPod Video (Gen5)

ความแตกต่างของ iPod รุ่นใหญ่กับรุ่นเล็กก็คือ “ชนิดของหน่วยความจำ” ถ้าเป็นรุ่นเล็กอย่าง nano, shuffle จะใช้ flash memory ซึ่งมีน้ำหนักเบา และก็ความจุน้อย ส่วนรุ่นใหญ่จะใช้ harddisk น้ำหนักจะเยอะหน่อย แต่ความจุจะมาก รุ่นที่ผมได้มาคือ 30GB (เก็บเพลงอย่างเดียวได้เป็นพันๆ เพลง) และนับเป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อว่า “เสียงดี” ที่สุดรุ่นหนึ่งในบรรดา iPod ทั้งหลาย นับเป็นความโชคดีจริงๆ ครับที่ผมได้มีโอกาสใช้ iPod Video ตัวนี้ หลังจากที่ฝันมาเป็นสิบๆ ปี ว่าสักวันจะต้องมี iPod ตัวใหญ่ใช้ให้ได้

ทำไมต้อง iPod ?

ใช่ครับ? ทำไมต้อง iPod ? ในเมื่อมี mp3 player ในโลกนี้มากมายหลายแบรนด์ สำหรับตัวผม ผมจะสรุปว่า ทำไมผมถึงเลือก iPod ได้ดังนี้

1. เพราะดีไซน์

ความหลงไหลในดีไซน์ของแบรนด์นี้ ผมยอมรับเลยครับว่า ชอบจริงๆ เรียบง่าย ดูดี และใช้งานง่าย ชอบสินค้าของ Apple ทุกตัว (แต่จะซื้อได้หรือไม่นั้นอีกเรื่องนึงครับ)

iPod ตัวแรกของโลก

ครั้งแรกที่ได้เห็น mp3 player ที่มีสีขาว มีปุ่มกลมๆ สีขาว สามารถใช้นิ้ววนไปตามวงกลมเพื่อเลื่อนเมนูได้ มีหูฟังสีขาว ผมก็เกิดความ “หลง” ทันที มันดูเรียบหรู ดูง่ายๆ ดูไม่เยอะ ไม่เหมือน mp3 player ในท้องตลาดทั่วๆ ไป ที่จับแนวการดีไซน์ไม่ออก และมีปุ่มเต็มไปหมด

หูฟังสีขาว ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ iPod (ณ ตอนนั้น) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ iPod เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ มองแค่หูฟังก็รู้แล้วว่าเป็น iPod เป็นจุดเด่นของการดีไซน์ของ Apple จริงๆ ครับ ที่สามารถทำให้คนรู้จักสินค้าของตัวเอง จดจำ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ

2. เพราะ iTunes

หน้าตาของโปรแกรม iTunes รุ่นแรกๆ

ผมใช้ iTunes ในการฟังเพลงมาตั้งแต่ก่อนจะมี iPod ทำให้ติด เพราะความเรียบง่ายของ UI รวมถึงความสามารถในการซิงค์เพลงกับ iPod ทำให้ผมต้องเลือก iPod เป็นเครื่องฟังเพลง เพราะถ้าใช้แบรนด์อื่น (ซึ่งอาจจะสามารถซิงค์กับ iTunes ได้ แต่ก็คงไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือน iPod)

ผมจะใส่ใจกับเรื่อง info ของเพลงมาก เพราะเวลาฟังเพลง ถ้าหากต้องหาเพลงที่จะฟัง แล้วใช้เวลานาน ผมจะหมดอารมณ์ฟังเพลงทันที info เพลงสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็น นักร้อง, อัลบั้ม, ชื่อเพลง, ประเภทเพลง รวมถึง หน้าปก ซึ่ง iTunes เป็นโปรแกรมที่สามารถแก้ไขและปรับแต่ง info เพลงได้ง่ายที่สุดโปรแกรมหนึ่ง

โฆษณา iPod ตัวแรก ที่แสดงให้เห็นการซิงค์เพลงระหว่า iTunes กับ iPod

สำหรับคนที่จัดการ Library เพลงใน iTunes หรือในโปรแกรมฟังเพลงอื่นๆ ขงอตัวเองไว้อย่างดี คงจะอยากให้ mp3 player ของตัวเองมีข้อมูลที่ตรงกันกับโปรแกรมดังกล่าว เพราะเหมือนเราได้เอาคลังเพลงบนคอมเราไปฟังนอกบ้านได้ และโจทย์ข้อนี้ iTunes+iPod คือคำตอบสำหรับผมครับ

3. เพราะ iTunes Store

จากเดิมที่ต้องซื้อเป็นเทป, ซีดี มาฟัง หรือแม้กระทั่ง “โหลด” จาก internet ล้วนแต่สร้างความลำบาก เทปคงไม่ต้องพูดถึง ส่วนซีดีนั้น เป็นอะไรที่ลงตัวมาก เพราะได้เพลงที่คุณภาพเต็มเปี่ยม และได้สะสม แต่การเอาเพลงจากซีดีมาฟังบน iPod ก็ต้องทำการแปลงเพลงก่อน ก็เป็นการเพิ่มขั้นตอนไป ส่วนการโหลดเพลง นอกจากจะไม่ดีต่อธุรกิจเพลงแล้ว info ของเพลงที่ได้นั้น “มั่ว” มากครับ

ปัญหาต่างๆ เหล่านี้หมดไปเพราะ iTunes Store ร้านขายเพลงออนไลน์ของ Apple ที่ทำให้สามารถซื้อเพลงได้อย่างง่ายดาย ราคาก็พอๆ กับซื้อซีดี (เผลอๆ ถูกกว่า) ได้ info เพลงที่ครบ และคุณภาพเพลงที่เหมาะจะใช้ฟังกับ iPod สุดๆ

iTunes Store

ผมเริ่มซื้อเพลงบน iTunes Store ครั้งแรกตอนใช้ iPhone 4 เพราะอยากได้เพลงแท้ๆ มาฟังแบบจริงๆ จังๆ สะสมเพลงจริงๆ จังๆ จนตอนนี้ก็ได้มาหลายร้อยเพลง จน iPhone เริ่มจะไม่พอในการเอาเพลงทั้งหมดบน iTunes มาฟัง iPod เลยเป็นคำตอบ เพราะ 30GB น่าจะพอสำหรับเอาเพลงที่ผมซื้อมาทั้งหมดมาฟังได้บนเครื่องเดียว

สำหรับคนที่กำลังมองหา music player ผมว่า iPod น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ในลิสต์ตัดสินใจได้นะครับ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง

ปิดท้ายด้วยวิดีโอของ iPod รุ่นแรกที่ Apple ทำออกมาเพื่อโปรโมท iPod

First iPod Commercial 2001

--

--

Zakariya W.
iPod Story

RTP, Medium Writer, Blogger, iOS User, iPhoneographer, Movie&Music, Satit/MGT PSU