Deep Space by KBTG: Exploring the Innovation Culture
เมื่อก้าวเข้ามาสู่พื้นที่จัดงานบนชั้น 11 ของตึก KBTG สิ่งแรกที่รอต้อนรับคุณ (นอกเหนือจากคิวรับชานมไข่มุก Fire Tiger สุดพิเศษสำหรับผู้เข้างาน 100 คนแรก) คืออุโมงค์สีดำขนาดยักษ์ ภายในประดับด้วยลูกบอลเรืองแสงและไฟสีฟ้าม่วงตระกานตา อุโมงค์เข้างานนี้มีชื่อเรียกว่า DEEP SPACE Illumination Tunnel ที่นอกจากจะใช้เป็นจุดที่ถ่ายรูปลงเฟสไอจีกันสวยๆแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์เล่าถึงการเดินทางของทั้งสิบทีม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไอเดียที่ไม่เคยคาดคิด ผ่านการฟูมฟักพัฒนาด้วยทักษะเฉพาะด้านและรวมกันเป็นหนึ่ง จนกลายมาเป็น Innovation Idea สุดเจ๋งพร้อมนำเสนอส่งท้ายปี 2019 นี้
งาน Deep Space by KBTG เป็นงาน Internal Hackathon ที่ KBTG (KASIKORN Bank-Technology Group) จัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่อมอบโอกาสให้พนักงานมากกว่า 400 ชีวิตร่วมแข่งขันกันเป็นทีมภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eat your own dog food, eat your own APIs”
Dogfooding (n.) : การที่คนในองค์กรทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่องค์กรพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Big Data ของ KBTG เอง
เวทีนี้เปิดกว้างให้ทุกคนเรียนรู้และคิดค้นวิธีพลิกแพลงใช้ APIs ของ KBTG กว่า 50 services เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจธนาคารได้จริง ส่วนบทบาทของ KBTG ไม่ได้หยุดเพียงแค่ผู้จัดงานและผู้ตัดสินเท่านั้น หากยังมีการจัด Workshop ต่างๆเสริมคลังอาวุธให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งทางด้าน Business, Technology รวมไปถึงการ Coaching Session โดยฝ่ายผู้บริหารและ Pitching Workshop โดยพี่กระทิง คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานบริษัท KBTG ของเรา และมูลค่าเงินรางวัลกว่า 240,000 บาทกันเลยทีเดียว!
หลังจากฟาดฟันกันจนเหลือสิบทีมสุดท้าย ทุกทีมจะได้รับเวลา 6 สัปดาห์ในการพัฒนาไอเดียของตนเป็น Working Prototype เพื่อมานำเสนอในวันตัดสินหรือที่เรียกว่า Demo Day ที่จัดขึ้นอย่าอลังการ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2019 ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการตัดสินทั้งหมด 4 ท่าน คือ พี่กระทิง คุณเรืองโรจน์ พูลผล, พี่เปิ้ล คุณจรัสศรี พหลโยธิน, พี่มิค คุณจรุง เกียรติสุภาพงศ์ MD ของ KBTG, และพี่ปรี คุณสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย
ในวัน Demo Day แต่ละทีมจะมีเวลาในการนำเสนอ Product ของทีมทั้งหมด 6 นาที และมีเวลาให้คณะกรรมการถามคำถามเพิ่มเติมอีก 4 นาที ซึ่งแต่ละทีมก็ได้แสดงฝีมือกันอย่างสุดความสามารถ แม้ไอเดียจะหลากหลายแต่ทุกทีมก็ล้วนมีจุดเด่นต่างกันตรงที่สามารถนำ Deep Technology ของ KBTG มาสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ไข Pain Points ที่มีอยู่จริงได้ตรงจุด โดยไม่ลืมที่จะคำนึงถึง Business Model จึงสร้างความหนักใจให้แก่คณะกรรมการเป็นอย่างมากในการคัดเลือกผู้ชนะ ท้ายที่สุดจึงตัดสินให้มีรางวัลรองชนะเลิศทั้งอันดับสองและรองชนะเลิศอันดับหนึ่งอย่างละ 2 รางวัล รวมถึงมีรางวัล Popular Vote จากกองเชียร์ชาว KBTG ทั้งหมดอีก 1 รางวัล
— รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง —
ทีม ARSA
หนึ่งในสาเหตุที่พนักงานลาออกคือการที่องค์กรมอบหมายงานที่ไม่ตรงความถนัดและความต้องการของตน
Arsa ได้สร้าง Competency Radar ขึ้นมาช่วยองค์กรให้สามารถรักษาบุคลากรมากฝีมือไว้ได้ โดยร่วมงานกับฝ่าย HR ของ KBank ในการแปลงทักษะประสบการณ์ และรวบรวมจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละทีม/โปรเจ็ค จากนั้นนำข้อมูลทั้งหมดไปใช้ในการวางแผน Training และประกอบการตัดสินใจย้ายตำแหน่งพนักงานให้ตรงตามความถนัด
ทีม Possible K+ Shop
ร้านโชห่วยส่วนมากยังอาศัยความจำและการจดลงกระดาษเพื่อบันทึกรายละเอียดสินค้าของตนเอง จึงก่อให้เกิดปัญหาในการจัดระเบียบสต็อกสินค้าและราคา
Possible K+ Shop เป็นแอปพลิเคชั่นที่พัฒนาต่อยอดจาก K+ Shop เพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่ร้านโชห่วยในการการขายและจัดการคลังสินค้า ซึ่งแอปนี้มีคุณสมบัติหลากหลาย เช่น การปริ้นต์บาร์โค้ดสำหรับสินค้าที่ไม่ได้มีอยู่แล้ว การแสกนสินค้าเพื่อตรวจสอบปริมาณสินค้าในคลัง การชำระเงินผ่าน QR Code และการสรุปยอดขายรายวัน เป็นต้น
— รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง —
ทีม K-Argus
เมื่อเงินบริจาคหลั่งไหลเข้าบัญชีธนาคารเป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อการทำงานของ Core Banking ธนาคารจำเป็นต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ
K-Argus ได้สร้างระบบตรวจสอบเทรนด์บัญชีรับเงินในโลกออนไลน์เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อธนาคาร โดยระบบจะตรวจหาเทรนด์ตามช่องทางโซเชียลมีเดียยอดนิยมในไทยอย่าง Youtube และ Twitter เพื่อกลั่นข้อมูลออกมาใช้ในการเตรียมการแก้ไขระบบหลังบ้านและลดผลกระทบต่อลูกค้า
ทีม K-Happy Lotto
เปลี่ยนวิธีการขึ้นเงินสลากกินแบ่งรัฐบาลของคนไทยให้เป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องก้าวออกจากบ้าน
K-Happy Lotto เป็นบริการช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้นเงินสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ถูกรางวัลจะสามารถใช้ไลน์ถ่ายรูปสลากฯ ของตน เมื่อได้รับคำยืนยันแล้ว จะมีพนักงานมารับเพื่อนำไปขึ้นเงินให้ เงินรางวัลก็จะโอนเข้าบัญชีของผู้ชนะโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีเสียค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 0.5% ของเงินรางวัลเท่านั้น
และแล้วก็มาถึงรางวัลชนะเลิศที่คณะกรรมการลงความเห็นว่านวัตกรรมที่ตอบโจทย์การแข่งขันนี้ได้ดีที่สุด ซึ่งรางวัลนั้นก็ตกเป็นของทีม Heru นั่นเอง
ทีม Heru
รับผิดชอบเงินของคนอื่นเป็นเรื่องที่แสนจะวุ่นวาย กำจัดปัญหาการเกี่ยงกันเป็นเหรัญญิกห้องด้วย Line Bot
ตำแหน่งเหรัญญิกห้องเป็นตำแหน่งที่สร้างความปวดหัวให้กับชีวิตนักเรียนที่ได้รับตำแหน่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะสมัครใจเป็นเองหรือถูกบังคับให้เป็น (ซึ่งส่วนมากจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า) ลำพังเงินตัวเองยังจะมีปัญหา นี่ต้องมาจัดการเงินของเพื่อนทั้งห้องอีก พอถึงเวลาไปทำธุรกรรมก็ต้องยกโขยงไปกัน 3–4 คน หากเงินหายขึ้นมา คนโชคร้ายก็หนีไม่พ้นตัวเหรัญญิกเอง ทีม Heru ได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงพยายามหาทางออกให้นักเรียน ถ้าไม่มีใครอยากเป็นเหรัญญิก ก็ให้น้อง Heru ทำแทนเลยสิ
Heru คือ Line Bot ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยจัดการบัญชีแทนเหรัญญิกประจำห้อง โดยคุณสมบัติเด่นมีอยู่สามอย่างด้วยกันคือ เก็บเงินง่าย ปลอดภัย และโปร่งใส่สามารถดูย้อนหลังได้ หากสมาชิกห้องต้องการเบิกเงินไปใช้ซื้อของ ก็สามารถเขียนบอก Heru ในกรุ๊ปไลน์ได้เลย Heru ก็จะส่งข้อความบอกคนที่มีหน้าที่อนุมัติยืนยัน เมื่ออนุมัติแล้ว Heru ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีของนักเรียนคนที่ขอโดยอัตโนมัติ
สิ่งที่สร้างความประทับให้แก่คณะกรรมการมีอยู่สองสิ่งด้วยกัน คือการที่ทีม Heru คิดวิธีเจาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษาไทยที่เข้าถึงยากและเลือกแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ทุกคนคุ้นเคยกันอย่างดี จึงทำให้ทีม Heru ชนะเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท และตัว Heru ก็จะได้นำไปพัฒนาต่อเป็น Product จริงหรือ The Next Apollo ของ KBTG
“มันเป็น Pain point ที่ไม่ถูก solve สักที มันเหมือนเส้นผมบังภูเขาไง แล้ว Solution [ของทีม Heru] มันง่ายและตอบโจทย์ได้ เราเชื่อว่าเราสามารถเอาไปใช้ได้ทันที” — พี่กระทิง
จากที่ได้รับชมการนำเสนอ Prototype ขั้นเทพของทุกทีมแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยแค่เวลาอันจำกัดเพียงน้อยนิดก็สามารถสร้างนวัตกรรมกันได้ถึงเพียงนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีเลยว่าทุกคนในบริษัทต่างก็มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถ Innovate หากได้รับโอกาส พี่กระทิงถึงกับออกปากชมความทุ่มเทของทุกคนที่มีต่อโปรเจค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามัคคีในการทำงานที่สมาชิกต่างทีมมาเข้าร่วมกันเพื่อรวมเป็น OneKBTG เป็นการส่งเสริมแนวคิด Teamwork อันเป็นหนึ่งใน Core Values สำคัญของบริษัทที่เราเรียกว่า TAVIA (Teamwork, A-class, Value Creation, Innovation, Agility) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดเชิงลึกของแต่ละทีมที่ได้รับรางวัลในงาน Deep Space by KBTG ปีนี้ ติดตาม Exclusive Interview ในพาร์ทสองกันได้เลยว่าที่มาที่ไป ของไอเดียสุดเจ๋งของแต่ละทีม มาจากไหน…