Hiking Jungfrau: แนะนำบริเวณรอบ Jungfrau
เมื่อได้ไปสัมผัส หลายคนเรียกเทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์ว่าเป็น Heaven on Earth - สรวงสวรรค์ที่สัมผัสได้
ยอดภูเขายิ่งใหญ่สูงเสียดฟ้า ขาวโพลน ทรงพลัง ซ้อนสลับเรียงรายสุดปลายตา แต่พลันเมื่อฤดูร้อนมาถึง ความเขียวขจีของเนินทุ่งหญ้าน้อยใหญ่ พร้อมหลากสีสันของดอกไม้คละสีละลานตาเบื้องล่างก็ปรากฏ เติมตัดสลับกับสีฟ้าเข้มอมเขียวของทะเลสาบอันกว้างใหญ่และสายน้ำคดเคี้ยวตามหุบเขา เป็นธรรมชาติที่งดงามยิ่งราวกับอยู่ในเทพนิยาย
Jungfrau Area หรือบริเวณรอบยอดเขายุ้งเฟรา เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ที่อยู่บริเวณตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ในเขตของรัฐแบร์น (Bern/Berne) ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศคือเมืองแบร์นด้วย หากจะมองหาบริเวณนี้จากภาพใหญ่ที่เห็นทั้งประเทศ ให้มองหารัฐแบร์นบริเวณกลาง ๆ ของประเทศก่อน จากนั้นมองหาหาเมือง Interlaken ซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่ 2 แห่ง (Thun และ Brienz) ที่ติดกันบริเวณกลาง ๆ ทางใต้ของรัฐแบร์น (วงกลมสีน้ำเงินในภาพด้านล่าง) จากนั้นมองลงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณทิศ 16.00–17.00 นาฬิกา มองหาเมือง Grindelwald แล้วรอบ ๆ นั้นก็จะเห็นชื่อต่าง ๆ เช่น Wengen, Faulhorn, Eiger, Monch, Jungfrau ตามมา นั่นคือสถานที่ต่าง ๆ บริเวณรอบ ๆ Jungfrau ที่จะมาแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกันในบทความนี้
ภูมิประเทศและสถานที่สำคัญ
ภาพด้านล่างเป็นแผนที่แสดงถึงภูมิประเทศและตำแหน่งของสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งเส้นทางรถไฟและกระเช้าที่สำคัญในบริเวณยุ้งเฟราครับ
ผมขอแบ่งแผนที่ข้างบนออกเป็น 4 โซน ซึ่งโซนเหล่านี้ผมแบ่งเองเพื่อความเข้าใจในบทความนี้เท่านั้น ไม่ใช่มาตรฐานอะไรแต่อย่างใด โดยใส่หมายเลขให้เป็นโซนที่ 1 2 3 และ 4 โดยแต่ละโซนมีบริเวณดังนี้ครับ โซนที่ 1)ด้านซ้ายของภาพ โดยจะมีเมือง Grindelwald และยอด First เป็นหลัก 2) ตรงกลาง เป็นบริเวณที่ราบสูง Kleine Scheidegg 3) ด้านขวา ที่มีคำว่า Winteregg และ เมือง Murren เป็นหลัก และ 4) ด้านล่าง ที่เป็นเมือง Interlaken และ ทะเลสาบ Brienze และ Thun
อนึ่ง ภาพแผนที่(และทุกภาพในบทความนี้)เป็นภาพความละเอียดสูงครับ ถ้าใช้มือถืออ่านบทความนี้แล้วซูมภาพ ทีแรกจะดูไม่ชัด แต่ให้รออึดใจนึง เมื่อภาพโหลดเสร็จ (แล้วแต่ความเร็วเน็ต) ภาพจะชัดเป๊ะครับ
โซนที่ 1: รอบ ๆ Grindelwald
โซนที่ 1 เป็นบริเวณที่มีเมือง Grindelwald เป็นจุดศูนย์กลาง มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้มีจุดสำคัญที่เราสามารถเดิน hiking ได้หลายจุด โดยจะมีจุดท่องเที่ยวสำคัญคือ First, Bachalpsee, Faulhorn, Grosse Scheidegg, และ Pfingstegg ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Grindelwald ผมอ่านว่า กรินเดอวาว เป็นเมืองในหุบเขา ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,034 เมตร เป็นเมืองขนาดกลางที่มีภูเขาล้อมทุกด้าน เป็นเมืองที่สวยมาก ถ่ายรูปได้สวยทุกมุม มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ ครบครัน มีแหล่งท่องเที่ยวรอบ ๆ เมืองที่หลากหลาย จะเห็นว่าโซนนี้มีที่ท่องเที่ยวถึง 6 จุด มากกว่าโซนอื่น ๆ ผู้อ่านสามารถชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรายละเอียดเจาะลึกเมือง Grindelwald ได้ตามลิงค์นี้เลยครับ
First ออกเสียงว่า เฟียส เป็นไหล่เขาที่ความสูง 2,168 เมตร เป็นจุดสูงที่สุดที่กระเช้าจะไปส่งเราได้ในบริเวณนี้ แปลว่า ถ้าจะไปเดิน hiking บริเวณนี้ เราจะนั่งกระเช้าสาย Grindelwald-First ขึ้นไปครับ (หรือใครจะเดินขึ้นจาก Grindelwald ไปเลยก็ได้นะครับ ทางเดินเค้ามีให้) จาก First เราก็จะเดินต่อไปที่อื่น ๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม แค่ขึ้นมาตรงนี้ก็ถือว่าวิวอลังการ ดาวล้านดวงแล้ว เราจะสามารถเห็นหุบเขาของเมือง Grindelwald และยอด Wetterhorn, Schreckhorn, และ Eiger ได้อย่างเต็มตา
Bachalpsee คือทะเลสาบบนยอดเขา เป็นวิวที่สวยมาก ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,265 เมตร ซึ่งสูงจาก First นิดเดียว ทำให้เดินไปจาก First ง่าย ๆ เรียบ ๆ แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม คนธรรมดารวมทั้งผู้สูงวัยที่เดินได้ปกติ ก็สามารถเดินไปเที่ยวได้สบาย คำนี้ผมอ่านว่า บาคับซี/บาขับซี (จำง่าย ๆ ว่า บราคัพซี ครับ จำได้ง่าย ไม่มีลืมกันอีกต่อไป 😋😋😋)
Faulhorn — ฟอลฮอน เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดที่จะเดิน hiking ขึ้นไปได้ในบริเวณนี้ ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,681 เมตร ใช้เวลาเดินจาก First ไปประมาณ 3 ชั่วโมง เดินไปเรื่อย ๆ แต่หลัง ๆ ตอนขึ้นยอดจะชันพอสมควร ขึ้นไปยอดนี้ได้รู้สึกเหมือนตัวเองได้พิชิตยอดเอฟเวอร์เรสต์สำเร็จ 😅😅(ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้ใกล้เคียงเลย 😂😂) บนยอดนี้จะมองเห็นยอดเขาเกือบทุกยอดของบริเวณนี้ ระหว่างทางเป็นวิวหุบเหวลึกต่อกับยอดภูเขาสูงเสียดฟ้า ดั่งดินแดนในเทพนิยายอย่างแท้จริง บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยแต่ฟินตลอดเส้นทาง
Grosse Scheidegg — กรอส-ชายเด็ก เป็นช่องเขาของยอด Schwarzhorn กับ Wetterhorn อยู่ที่ความสูง 1,961 เมตร เป็นจุดที่เราสามารถเดินได้หลายเส้นทาง ทั้งทางเรียบและทางชัน ตลอดเส้นทางจะเห็นหน้าผาของ Wetterhorn ที่ใกล้มาก และเห็นช่องหุบเขา Grindelwald ที่สวยงามอย่างเต็มตาเต็มใจ
Pfingstegg — พฟิง-สเต็ก (โดยจะออกเสียง พ สั้น ๆ เหมือนคำว่า พนัก หรือ แพนง) จะพาเราไต่ระดับขึ้นไปอีกด้านของ Grindelwald ที่ความสูง 1,391 เมตร ทำให้เราได้เห็นวิวของด้าน First และ Faulhorn พร้อม ๆ กัน สวยงามมากอีกเช่นกัน เส้นทางเดินจะมีทั้งการเดินเข้าป่า เลียบขอบหน้าผา และผ่านน้ำตกที่ตกจากหน้าผาสูงด้วย เพลิดเพลินมากมายกับความหลากหลายของเส้นทางนี้
โซนที่ 2 : ที่ราบสูง Kleiner Schiedegg
โซนที่ 2 เป็นที่ราบสูง (plateau) Kleiner Schiedegg เป็นที่ราบสูงที่ยกตัวขึ้นมาที่ระดับ 2,061 เมตร โดยมียอดเขา Eiger ด้าน north face ตั้งเบียดอยู่ข้าง ๆ. จุดนี้เป็นประตูทางขึ้นไปสูงยอดยุ้งเฟรา จุดท่องเที่ยวสำคัญในโซนนี้ได้แก่ Kleiner Schiedegg, Mannlichen, Wengen, และยอด Jungfrau
Kleiner Schiedegg — ไคลเน่อ-ชายเด็ก เป็นเหมือน Base Camp ของยอดยุ้งเฟรา คือเป็นจุดสุดท้ายที่มีทุ่งหญ้าสีเขียว สถานีรถไฟ โรงแรม ร้านอาหาร ที่เดินเล่น ที่ความสูง 2,061 เมตร แต่หลัก ๆ คือเป็นจุดเปลี่ยนรถไฟเพื่อที่จะมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเขา Jungfrau ที่ระดับ 4,000 เมตรต่อไป
Mannlichen — มานลิเค่น เป็นยอดหนึ่งของเทือกเขาตรงกลางบริเวณนี้ เป็นจุดที่มีกระเช้าไปถึงที่ความสูง 2,230 เมตร เป็นจุดที่ได้วิวสวยงามมากมาย เป็นวิวที่อลังการ 360 องศา มีวิวที่สวยกว่า Kleiner Schiedegg เพราะเขยิบออกมากจากหน้าผาของเทือกเขายุ้งเฟรา ทางด้านหนึ่งจะเห็นหน้าผาสูงชันมหึมาของยอด Eiger Monch Jungfrau อย่างชัดเจน อีกด้านหนึ่งก็เห็นเมือง Grindelwald และเทือกเขาของทางฝั่ง First / Faulhorn ของโซนที่ 1 แบบเต็ม ๆ อีกด้านก็จะเห็นเมือง Wengen, Lauterbrunen และเทือกเขา Schilthorn ของโซนที่ 3 อย่างเต็มตา และอีกด้านยังมองทะลุไปเห็นเมือง Interlaken และเห็นบางส่วนของทะเลสาบ Thun เลยด้วยซ้ำ… อลังการ ส ส ส ส๋ามมมมมร้อยหกสิบองศาที่แท้ทรู
Jungfrau — ยุ้งเฟรา (โดยออกคำว่ายุ้งแบบ กึ่งยุ้งกึ่งจุ๊ง ครับ เสียง ย นิด ๆ จ หน่อย ๆ) ยอดนี้เป็นไฮไลท์ของบริเวณนี้ ใคร ๆ ก็ต้องมา เพราะเป็นยอดที่สูงที่สุดของที่นี่ที่ความสูง 4,158 เมตร เป็นยอดที่สูงเป็นอันดับ 16 ของเทือกเขาแอลป์ในสวิส เป็นบริเวณแหล่งมรดกโลกยูเนสโก และมีสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปที่ยอดนี้ โดยบริเวณอาคารและสถานีรถไฟที่สูงที่สุดนั้นจะอยู่ตรงที่เรียกว่า Jungfraujoch (ยุ้งเฟราจ๊อค) ซึ่งมีความสูง 3,454 เมตร นั่นก็คือ เราไม่สามารถขึ้นไปยอดยุ้งเฟราได้ แต่เราขึ้นไปที่ยุ้งเฟราจ๊อค เพื่อไปดูยอดยุ้งเฟรา ซึ่งบนนั้นเหมือนเป็นอีกโลกนึง มีหิมะปกคลุมตลอดปี มีเทือกเขาสีขาวสุดลูกหูลูกตา มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่เป็นทางพาดผ่านหุบเขา เหมือนสวรรค์ครับ ตัวอาคารที่สถานีรถไฟจะมีร้านอาหาร ร้านขายของ พิพิธภัณฑ์ ถ้ำน้ำแข็ง มีโน่นนี่นั่นให้ดูเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว
แต่ที่ถูกใจผมที่สุดคือ เราสามารถออกไปเดินข้างนอกได้ 🤩🤩🤩 เดินไปได้หลายกิโล ทนหนาวทนหิวได้แค่ไหนก็ไปเดิน ไปวิ่ง ไปปาหิมะ คลุกหิมะ ถ่ายรูปให้เต็มที่ไปเลยครับ ทางเดินข้างนอกเป็นทางเรียบ ๆ ไม่มีความชันใด ๆ เดินได้สบายมากเลย ชอบมากจริง ๆ ถ้าเดินออกมาไกล ๆ หน่อย จะเงียบ เงียบสนิท เวิ้งว้าง ยิ่งใหญ่ เหมือนอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นที่ไม่ใช่โลก เหมือนโลกใบนี้มีเราคนเดียว เข้าใจความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติเลย
ผมชอบการเดินทางมาเองโดยไม่ได้มากับทัวร์ก็ตรงนี้นี่แหละ ถ้ามากับทัวร์ ผมเห็นเค้าให้เวลาชะโงกดูยอดยุ้งเฟราอยู่บนหอคอย ถ่ายรูป ๆ ๆ ๆ แล้วก็เดินวน ๆ อยู่ในอาคาร รวมทั้งหมดแล้วครึ่งชั่วโมง ก็ต้องลงแล้ว ไม่สาแก่ใจด้วยประการทั้งปวง. ผมน่ะเหรอออ วิ่งคลุกหิมะอยู่ข้างนอกเกือบ ๆ 3 ชั่วโมง เมื่อสาแก่ใจแล้วก็ค่อยกลับครับ
Wengen — เว็นเก้น เป็นเมืองที่อยู่บนไหล่เขาทางด้านขวาของ Kleiner Schiedegg ที่ความสูง 1,274 เมตร เมืองนี้เป็นเมืองที่พักค้างแรมได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแทนที่จะพักที่ Grindelwald ครับ ข้อดีมาก ๆ คือเป็นเมืองที่ไม่ได้อยู่ในหุบเขา แต่ยกระดับขึ้นมาขั้นหนึ่ง ทำให้ได้วิวฝั่ง Schilthorn และ Jungfrau ได้เต็มที่ และแตกต่างจากวิวของ Grindelwald อย่างสิ้นเชิง
โซนที่ 3 : ยอด Schilthorn
โซนที่ 3 เป็นภูเขาอีกด้านหนึ่ง ร่องเขาของด้านนี้จะมองเห็น Jungfrau อยู่ด้านซ้ายและยอด Schilthorn อยู่ด้านขวา ทำให้เห็นวิวอีกด้านของยอดยุ้งเฟรา สวยงามมากไม่แพ้ด้าน Grindelwald เลย มีสถานที่หลัก ๆ คือ เมือง Lauterbrunen และ Murren และยอด Schilthorn
Lauterbrunen — เลาเท่อ-บรูเน่น เป็นเมืองในหุบเขาเหมือน Grindelwald แต่อยู่ต่ำกว่าที่ความสูง 785 เมตร มีขนาดเล็กกว่า เงียบสงบกว่า มีความสวยงามไม่แพ้ Grindelwald เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถหาที่พักในระหว่างการท่องเที่ยวบริเวณนี้ได้
Murren — มูเร่น เป็นเมืองไหล่เขาที่ยกระดับความสูงขึ้นมาจากเมือง Lauterbrunen ที่ความสูง 1,638 เมตร ดังนั้นวิวที่ได้จากเมืองนี้จะสวยมาก มองออกไปจะเห็นที่ราบสูง Kleiner Schiedegg และ Mannlichen รวมทั้งยอด Eiger Monch Jungfrau ที่สวยงาม ถ้าใครได้ห้องพักที่มีวิวเป็นยอด 3 ขุนเขานี้ รับรองว่าสวยเว่อวังประทับใจไม่รู้ลืม
Schilthorn — ชิลทอน เป็นยอดเขาที่สูง 2,971 เมตร สูงกว่า Faulhorn ของฝั่งโซนที่ 1 เสียอีก เป็นจุดท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนเหมือนกับยอดยุ้งเฟรา ที่นี่มีจุดเด่นอยู่ 3 อย่าง 1) เป็นยอดเขาแหลมที่มีวิว 360 องศาอย่างแท้จริง มองเห็นยอดเขารอบ ๆ ได้มากที่สุด 2) มองเห็นยอดสามสหาย Eiger Monch Jungfrau ได้อย่างเต็มตา และ 3) มีร้านอาหารวงกลมที่รับวิว 360 องศาชื่อ Piz Gloria ซึ่งจะหมุนไปอย่างช้า ๆ นั่นคือเมื่อเข้าไปกินอาหารที่ร้านนี้ ขอให้ได้นั่งติดหน้าต่างก็พอ ด้านไหนก็ได้ ตัวร้านจะหมุนไปรอบ ๆ ให้เราได้ดูวิวทุกด้านเอง จุดขายของยอด Schilthorn อีกอย่างคือเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ James Bond 007 ชื่อตอน On Her Majesty’s Secret Service ในปี 1969 (คือนานมากแล้ว แต่เค้ายังใช้โปรโมตอยู่ถึงทุกวันนี้) ขึ้นไปยอดนี้ อิ่มวิวสุด ๆ ครับ
โซนที่ 4 : Interlaken
โซนที่ 4 เป็นเมือง Interlaken ซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่ 2 แห่งคือ Brienze และ Thun และยังมีเทือกเขา Schynige Platte ด้วย โซนนี้เหมือนเป็นการปรับอารมณ์จากเทือกเขาอันสูงชัน มาเป็นที่ราบ ๆ และทะเลสาบ เหมือนเปลี่ยนจากเชียงรายไปเที่ยวภูเก็ต เติมเต็มความหลากหลายของการมาเที่ยวบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี
Interlaken — อินเทอ-ลาเค่น เป็นเมืองใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี เป็นที่พื้นที่ค่อนข้างราบเรียบที่ความสูง 567 เมตร การเดินที่เมืองนี้เหมือนเดินในเมืองใหญ่ทั่ว ๆ ไป แต่ถึงแม้ในเมืองจะเรียบแต่มีวิวด้านหลังเป็นเทือกเขาแอลป์อยู่ล้อมรอบสวยงามมาก มีสวนสาธารณะ มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมมากมาย ถ้าเน้นเดินช๊อปปิ้ง เดินเรียบ ๆ ควรมาพักที่นี่ครับ
Lake Brienze (เบรียน)และ Lake Thun (ทูน) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่มากขนาบเมือง Interlaken อยู่ ใหญ่ขนาดไหน ทะเลสาบ Thun มีเนื้อที่ 2,500 ตารางกิโลเมตร ซึ่งผมลองคำนวนคร่าว ๆ แล้วมีขนาดใหญ่กว่าทะเลสาบสงขลา 2.5 เท่า ใหญ่ว่าบึงบอระเพ็ดซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของไทย 11 เท่า ใหญ่กว่ากว๊านพะเยา 120 เท่า และใหญ่กว่าสวนลุมพินีใจกลางกรุงเทพ 4,300 เท่า!! ทะเลสาบมีสีฟ้าเข้มอมเขียวที่สวยมาก ๆ วิวของทะเลสาบจะมีพื้นหลังเป็นเทือกเขาแอลป์อยู่ไกล ๆ สวยงามยิ่งนัก กิจกรรมรอบทะเลสาบนี้มีเยอะแยะมากมาย ตั้งแต่นั่งเรือเล่น ไปจนกระทั่งเล่นพารามอเตอร์ (ที่เอาร่มชูชีพไปติดเครื่องยนต์แล้วก็นั่งบินไปบินมา) พารามอเตอร์นี่เห็นเค้าบินกันให้ว่อน แต่ก็นะ ถ้าขึ้นไปได้วิวนั้น ก็คงจะสวยจริง ๆ นั่นแหละ
Schynige Platte — ชีนี๊กเก่อะ-แพลทเท่อะ เป็นเทือกเขาที่ไม่ใหญ่โตมาก อยู่ที่ความสูง 1,967 เมตร ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่จริง ๆ แล้วมีอะไรมากมาย ความมีอะไรของที่นี่ก็คือ เป็นจุดที่ดูวิวของทั้งสองโลกได้ครับ โลกภูเขากับโลกทะเลสาบ ยอดเขานี่มีสถานีรถไฟอยู่ทำให้ขึ้นไปง่ายมาก เมื่อบนนั้นจะมีทางให้เดินเหมือนเป็นอุทยานขนาดย่อม แล้วเดินได้เป็นวงกลม เดินไปด้านหนึ่งจะเห็นวิวของเทือกเขายุ้งเฟรา อีกด้านหนึ่งจะเห็นทะเลสาบและเมือง Interlaken ไม่ธรรมดาจริง ๆ
อนึ่ง . ว่าด้วยเรื่องของการออกเสียงคำ
เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นอยู่ตรงกลางระหว่าง 3 ประเทศใหญ่คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี ทำให้ภาษาทั้ง 3 มีผลกับการอ่านคำต่าง ๆ ของเค้า ทำให้คำ ๆ เดียวกันมีเสียงการอ่านได้หลายเสียง ซึ่งผมเข้าใจว่าคงจะถูกทั้งหมด ดังนั้นเสียงที่ผมอ่านคำต่าง ๆ ที่สะกดให้ฟังนั้น จึงเป็นแค่แนวทางคร่าว ๆ ว่าน่าจะอ่านประมาณนี้ ซึ่งก็มักจะได้จากการถามคนท้องถิ่นว่าคำนั้นอ่านว่าอย่างไร เค้าตอบว่ายังไง ได้ยินประมาณไหนผมก็จำ ๆ มาอย่างนั้น ซึ่งเท่าที่ผมสังเกตดู ภาษาที่ใช้บริเวณยุ้งเฟรานี้ ออกเสียงไปทางเยอรมันเป็นส่วนมาก แต่ก็จะสามารถออกเสียงเป็นอย่างอื่นได้อีกครับ
ส่งท้าย
ผมเชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากไปสวิตเซอร์แลนด์ แต่หลายคนรู้สึกว่ามันยาก มันไกล ไปไม่ได้หรอก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี อ่านบทความนี้แล้วน่าจะช่วยให้เข้าใจได้มากขึ้น ได้เห็นภาพมากขึ้น วางแผนการท่องเที่ยวในแบบที่แต่ละคนต้องการได้ง่ายขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจให้รู้สึกได้ว่าการไปเที่ยวสวิสไม่ใช่ความฝันที่ไกลเกินจริงอีกต่อไป สู้ ๆ ครับทุกคนนน 😇😇😇
ขอขอบคุณ คุณลลิต คุณกิ๊ก คุณมุกกิ และคุณมาดามคิม สำหรับ feedback ในการปรับปรุงครับ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
