[Technology] พาองค์กรก้าวสู่การเป็น The Fully Automated Enterprise

ในยุคที่เทคโนโลยีมากมายเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันหรือว่าชีวิตการทำงาน หลายๆคนเคยได้ยินคำว่า Automation กันมาบ้าง ซึ่งถือว่าเป็น Trend ของเทคโนโลยีในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยี Automation เข้าไปใช้ในการทำงานร่วมกับมนุษย์มากมาย โดยในบทความนี้จะมาพูดถึงหนึ่งในเทคโนโลยี Automation ที่น่าสนใจนั่นคือ RPA หรือ Robotic Process Automation (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ “RPA” เทคโนโลยีดี ๆ ที่จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น)

RPA สำคัญยังไง?

ลองคิดภาพตาม ถ้าเราต้องทำงานในแต่ละวัน ประมาณวันละ 8 ชั่วโมง โดยมีงาน Routine ที่จำเป็นต้องทำทุกวันประมาณ 2–3 ชั่วโมง และเรายังต้องทำงานอย่างอื่นอีกในช่วงเวลาที่เหลือ พอมาคิดดูดีๆเราเสียเวลากับงานตรงนี้ไปเกือบ 30-40% ของวันแล้ว ซึ่งงานเหล่านี้สร้างความเหนื่อยล้าให้เราได้และอาจทำให้เกิด Human Error ในงานที่ทำ

มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเกิดมีใครมาช่วยทำงานนี้เพื่อที่เราจะลดเวลาของการทำงาน เพิ่ม Productivity และช่วยลด Human Error ให้การทำงานของเราได้ ถ้าอย่างนั้น RPA คงเป็นคำตอบของเรา

สมมติว่าถ้าเราลดเวลาได้ 2 ชั่วโมงต่อวัน เท่ากับเราจะลดเวลาทำงานได้เกือบ 500 ชั่วโมงต่อปี พอมองเป็นภาพใหญ่ระดับองค์กร ยกตัวอย่างองค์กรหนึ่งที่มีพนักงาน 100 คนที่สามารถลดเวลาทำงานได้ 2 ชั่วโมงต่อวัน เท่ากับว่า องค์กรนั้นลดเวลาทำงานได้ประมาณ 50,000 ชั่วโมงต่อปี ทำให้องค์กรนี้ก็สามารถหยิบเวลาตรงนี้ไปใช้สร้างมูลค่าในด้านอื่นๆได้ เช่นการพัฒนาคน พัฒนาการทำงาน หรือเพิ่มความสามารถของการทำงาน เพื่อให้ทำงานได้มากขึ้น เพิ่มรายได้ให้กับองค์กร

เท่านี้ก็น่าจะมองเห็นภาพประโยชน์ของการนำ Automation มาใช้งานในองค์กรแล้ว

The Fully Automated Enterprise

สมัยก่อนการทำ Automation เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จะลงทุนสร้าง WorkFlow แต่ละครั้งต้องใช้ Developer และเลือกได้แค่บางงานที่มีความสำคัญ เพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน การใช้งานของ Robot ก็อาจจะเป็นแบบที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ ทำให้ยากต่อการ Monitor และจัดการการทำงานของตัว Robot ภาระงานตรงนี้ก็จะไปตกอยู่กับทีม IT

ในมุมของการทำให้องค์กรเป็นแบบ The Fully Automated Enterprise เมื่อองค์กรของเรานำ RPA ของ Uipath มาใช้งาน คือ นำ Robot เข้ามาทำงานที่เป็น Routine แทนคน เพื่อที่จะได้นำคนตรงนี้ไปทำในส่วนอื่นที่เป็นประโยชน์มากขึ้นได้

ในกรณีที่ Robot ทำงานแทนคนไม่ได้ทั้งหมด ก็ให้ทุกคนมี Robot ที่เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัว เข้ามาช่วยทำงานบางส่วน ทำให้คนสามารถทำงานได้ง่าย และ สะดวกมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการทำงานให้กับคนได้

ด้วย Platform ของ UiPath ที่ใช้งานง่าย ทำให้คนทั่วไปสามารถสร้าง WorkFlow การทำงานให้กับ Robot ของตัวเองได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Developer ในการสร้าง WorkFlow ของการทำงาน หรือในเรื่องของการจัดการ การ Monitor ตัว Robot ที่ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าใจ ใช้งานได้ด้วยตัวเอง สามารถที่จะ Monitor ตัว Robot และวัดผลการทำงานได้จาก Dashboard

UiPath ผู้นำของเทคโนโลยีในกลุ่มของ RPA ที่มีเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยตั้งแต่เริ่มกระบวนการ จนจบกระบวนการของการทำ Automation โดยเริ่มจาก

1. Discover — เครื่องมีอที่มีการนำ AI เข้ามาใช้ในฆการวิเคราะห์ Task และ Process การทำงาน ทำให้เรามองเห็นได้ว่า มีงานตรงไหนที่สามารถที่จะเอามาทำให้เป็นแบบ Automation ได้ รวมถึงหา ROI เมื่อนำ RPA เข้ามาใช้งาน
2. Build — เครื่องมือที่ช่วยในการสร้าWorkFlow ให้ Robot เข้ามาทำงานแบบ Automate ข้อดีคือ มีเครื่องมือที่ไม่ต้องใช้การ Coding ผู้ใช้ทั่วไปสามาถสร้าง WorkElow การทำงานให้กับ Robot ของตัวเองได้
3. RUN — คือการให้ Robotทำงานตาม WorkFlow ที่สร้างไว้ โดย Robot จะมี2แบบคือ Attended Robot (Robotที่ทำงานร่วมกับมนุษย์) และ Unattended Robot (Robot ที่ทำงานแบบไม่ต้องใช้มนุษย์)
4. Manage — ส่วนที่ช่วยให้เราสามารถจัดการและบริหารการใช้งานRobotได้ สามารถดู Status การทำงาน และ ตั้งค่า Trigger การทำงาน หรือ ตั้ง Schedule ให้ Robot ทำงานได้
5. Engage — เครื่องมีอที่ช่วยให้เราสามารถทำงานร่วมกับ Robot ได้ง่ายขึ้น เช่นมี LaunchPad ของ Process ช่วยให้ Robot ทำงานตามคำสั่งของ Process งานนั้นๆได้

ด้วยความเป็นผู้นำด้าน RPA ของ UiPath ใน Platform ได้เพิ่มความสามารถของ Machine Learning เข้ามาด้วย ทำให้ Robot ทำงานเก่งขึ้นและฉลาดขึ้นได้ กลายเป็น AI Robot ที่ช่วยให้เราทำงานได้มากกว่าที่เคยทำ เช่นงานที่ต้องอ่านเอกสารเดิมๆซ้ำๆเป็นร้อยเป็นพันหน้า หรือ งานง่ายๆที่ต้องตัดสินใจเบื้องต้น โดยที่เราไม่ต้องมาเสียเวลาดูตรงนี้

ตอนนี้หลายๆคนคงพอจะมองภาพออกแล้ว เกี่ยวกับวิธีการทำให้องค์กร Transform ไปเป็น The Fully Automated Enterprise และสิ่งที่ได้กลับมาไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเวลาที่นำไปใช้ในการพัฒนาคน หรือ สร้าง valueในด้านอื่นๆ ซึ่งโดยรวมถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ เพราะนอกจากจะได้เรื่องพวกนี้กลับมา ยังถือว่าเป็นพื้นฐานในการพัฒนาองค์กรต่อไปในอนาคตอีกด้วย