Ai Boonyapon M.
odds.team
Published in
3 min readJun 30, 2024

--

การสร้างทีม Tech แบบ Diversity ที่แท้ทรู ? #AsiaTechxSG2024

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2024 ไอได้มีโอกาสไปร่วมงาน Conference ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย AsiaTech X Singapore 2024 ที่จัด ณ ประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 29–31 พฤษภาคม 2024 ร่วมกับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ชาว ODDS (ขอขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กน้อยคนนี้ด้วยค๊าบ)

โดยงานนี้จะจัดในลักษณะของ Exhibitions ที่จะมี hall ต่าง ๆ ที่จัดแสดงบูธของบริษัทต่าง ๆ รวมถึง Showcase สำหรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ชวนให้คิดถึงงาน NSC ของบ้านเราเล็ก ๆ แล้วในแต่ละ hall จะมี highlights stage ที่จะจัดเป็น session หรือ panel discussion ตลอดระยะเวลา 3 วัน

สำหรับ session ที่ไอจะขอเอามาเล่าในบทความนี้ คือ Empowering Innovation: Woman’s Role in Driving Tech Advancements

เหตุผลของความประทับใจ Session นี้ ? สำหรับไอเองเป็น Session ที่ Empowering Women in Tech สมชื่อค่ะ การได้เห็นเหล่าสาว ๆ ได้อยู่บนตำแหน่ง C-level สำหรับไอเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก ๆ และเป็นอะไรที่วันหนึ่งไออยากจะไปให้ถึงเหมือนกัน

Panelists ของเวทีนี้ก็ไม่ธรรมดา ประกอบด้วยสาว ๆ ที่อยู่ในระดับ Chief ของบริษัทใหญ่ ๆ ในเอเชีย Anna Green Dr. Geraldine Wong Helen Lam Nhu Le และ Moderator Carolyn Chin-Parry ค่ะ ภาพรวมของ Panel นี้จะเป็นการพูดถึงบทบาทของผู้หญิงในทีมและบริษัทเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากแล้วเป็น male-dominance และอยู่ในรูปแบบของ traditional การขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร รวมถึงการสร้างทีมให้เกิดความหลากหลาย หรือ Diversity

Oxford Dictionary ได้ให้ความหมายของคำว่า Diversity ไว้ว่า “The practice or quality of including or involving people from a range of different social and ethnic backgrounds and of different genders, sexual orientations, etc.” แปลง่าย ๆ เป็นภาษาไทย กิจวัตรหรือคุณลักษณะที่รวบรวมกลุ่มคนที่มีพื้นฐาน อายุ ภูมิหลัง ทักษะ ความรู้ รสนิยมที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Diversity ไม่ได้หมายถึงแค่เพศเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงทุก ๆ อย่าง เลยนะ !

ทำไมต้องทำทีม Tech แบบ Diversity ?
ใน Session นี้มีคำพูดหนึ่งจาก Panelist ว่า “Diversity fuels innovation” หรือก็คือ ทีมที่มีความหลากหลายจะทำให้เกิดนวัตกรรมและสิ่งใหม่ ๆ นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้ไออยากที่จะเขียนบทความนี้ขึ้นมาเลยค่ะ เป็นสิ่งที่ไอได้พบเจอมาโดยตรงและได้มีประสบการณ์รับฟังจากคนอื่น ๆ
ลองยกตัวอย่างทีม Tech ที่มีกลุ่มคนคล้าย ๆ กัน เพศเดียวกัน Skillset ใกล้ ๆ กัน มีสภาพทางสังคมและความเป็นอยู่ใกล้ ๆ กัน มีความคิดและทัศนคติใกล้เคียงกัน แล้วมาทำงานด้วยกัน แรก ๆ ก็คงจะมีความสุขดีที่เราได้อยู่ใกล้กับคนคล้าย ๆ กับตัวเอง (รึเปล่า ?) และแน่นอนว่าทีมนี้จะต้องเก่ง Stack อย่างใดอย่างหนึ่งมาก ๆ จนถึงขั้น Expert วันหนึ่งทีมนี้จำเป็นที่จะต้องไปแก้ไขปัญหาที่ทั้งทีมไม่เคยเจอมาก่อน โอกาสที่จะมีแนวคิดใหม่ หรือแนวทางการแก้ปัญหาใหม่จากทีมนี้ก็เป็นไปได้ยาก เพราะกลุ่มคนในทีมนี้อยู่กับแนวคิดเดิม บรรยากาศเดิม และกระจกสะท้อนแบบเดิมเป็นเวลานาน เรียกง่าย ๆ ก็คือ การอยู่ในโอ่ง หรือ Echo chamber
ในขณะเดียวกัน ทีมที่มีสมาชิกที่แตกต่างกัน มีความหลากหลายทางรสนิยม Skillset มาจากสภาพสังคมที่แตกต่างกัน พื้นเพแตกต่างกัน ช่วงวัยต่างกัน เมื่อเวลาเจอปัญหาในสถานการณ์เดียวกันกับทีมแรก จะมีแนวโน้มที่จะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ และมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าทีมแรก
สิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับ Session นี้คือการพูดถึงเรื่องของการทำงานกับคนต่างช่วงอายุ หรือ Cross-Generational Collaboration ว่านี่ก็เป็นหนึ่งในความหลากหลายเหมือนกันนะ และเป็นข้อที่สำคัญที่คนมักจะมองข้าม และคิดว่าความหลากหลายมีแค่เพศ แต่จริง ๆ แล้วคนต่างช่วงอายุกัน ประสบการณ์ที่มีก็จะไม่เหมือนกัน ทำให้กระบวนการทำงานและวิธีการแก้ไขปัญหาก็จะมีความแตกต่างกันด้วย

Key Takeaway สำหรับเรื่องของการปิดช่องว่างของการทำงานระหว่างช่วงวัย หรือ Generation Gap และรวมถึงทีมที่เต็มไปต้วยความหลากหลายที่ทาง Panelist ได้สรุปให้ผู้ฟังสั้น ๆ และไอเห็นด้วยมาก ๆ เลย

1. Avoid leaving someone’s behind ระวังอย่าทิ้งใครในทีมไว้ข้างหลัง โดยที่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่มนุษย์จะอยากมี interaction กับคนที่พูดภาษาคล้าย ๆ กันอยู่แล้ว และมักจะมีคนที่เราหลีกเลี่ยงที่จะคุยด้วย หรือคุยด้วยน้อย ดังนั้นแล้วการทำให้ทุกคนรู้สึกว่าไม่มีใครถูกทิ้งหรือทำให้ทุกคนรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้
2. Do not underestimate power of communication มนุษย์นั้นมีการสื่อสารกันไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เกิดปัญหาขึ้น การสื่อสารนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดค่ะ เราไม่ควรปล่อยให้ใครคิดไปเอง หรือปล่อยให้เขาไปจินตนาการเพิ่มเอง เพราะสารของเราอาจจะเพื้ยนได้ ทำให้เข้าใจผิดกันอีก
3. Unite people together with vision การรวมกลุ่มของคนที่มีความหลากหลายมาก ๆ นั้นส่วนใหญ่จะรวมกันโดยมีวิสัยทัศน์ (Vision) ชัดเจน เหตุผลที่ทุกคนมารวมตัวกัน เป้าหมายของทีม ต่อให้เราทุกคนจะแตกต่างแต่พวกเราก็มีดาวเหนือที่เดียวกันนะ !
4. Consistently share the vision : Why are we team up together ? ต่อเนื่องจากข้อก่อนเลยค่ะ พยายามทำให้เป้าหมายชัดเจนเสมอ และย้ำเตือนให้ทุกคนได้ตระหนักและเข้าใจถึงเป้าหมายนั้นบ่อย ๆ เพราะเวลาผ่านไป คนก็มักจะลืม
5. Domain expert and experience still matter แน่นอนเราไม่สามารถขับเคลื่อนทีมไปได้ถ้าขาดความรู้และประสบการณ์ ซึ่งเราจะไม่สามารถพาทีมไปได้ไกลเลยถ้าขาดความรู้และความสามารถ และประสบการณ์ของทุกคนไม่ว่าจะอายุน้อยหรืออายุมากล้วนมีค่าทั้งหมด

https://taxprof.typepad.com/.a/6a00d8341c4eab53ef01bb0835680b970d-popup

อยากทำทีมที่ Diversity บ้าง ?
Factors ที่ทาง Panelist ได้ให้ความเห็นว่าสำคัญต่อการสร้างทีม Diversity คือ Empathy, Respect และ Creating safe space โดยทาง Panelist ได้มีความเห็นเพิ่มเติมกันด้วยว่า ถ้ามองในมุมผู้หญิงนั้นจะสามารถสร้างทีมที่มีความ Diversity ได้ดีกว่าผู้ชาย เนื่องจากมี Empathy ที่มากกว่า มีความละเอียดอ่อนมากกว่า แต่ส่วนตัวของไอ เคยได้เห็นผู้ชายที่มี Empathy สูงมาก ๆ และสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยได้มากจริง ๆ ดังนั้นไอมองว่าความสามารถในการสร้างทีม Diversity นั้นเป็นสกิลส่วนบุคคล และทุกคนสามารถฝึกกันได้
ส่วนตัวเรื่องนี้เองก็เป็นสิ่งที่ไอต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอีกมาก ดังนั้นขอแนะนำบทความดี ๆ ของพี่ ๆ ชาว ODDS ที่พูดถึงเรื่อง Empathy ความเข้าอกเข้าใจกับความเห็นอกเห็นใจต่างกันยังไง? และเรื่องของ Safe Space พื้นที่ปลอดภัย ความมั่นคงทางใจ : กุญแจสำคัญของ -> TEAM

“Everybody Is Unique and Special in Their Own Way” — Yasmeen Smadi

ปล. นี่เป็นส่วนหนึ่งจากงาน AsiaTech X Singapore 2024 เท่านั้น เดี๋ยวจะมี Content จากน้อง ๆ เพื่อน ๆ ตามมาอีกเพียบเลย รอติดตามพวกเรากันนะคะ ❤

--

--

Ai Boonyapon M.
odds.team

the pathfinder who can do a little bit of anything, still on progress of finding the right place.