บทสรุป Meetup #0 Closed Beta Event, Embark on Opsian DesignOps Community Journey

“Glad! There’s This Community!!” หนึ่งใน Feedback ถึง Opsian, DesignOps Community

ย้อนกลับไป ณ วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2023 เราได้ชิมลาง unofficial introduce Opsian, designOps practitioner community ที่มุ่งหวังจะผลักดันให้ Design community ของไทยขยับไปสู่ The next maturity level เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดไม่ว่าจะแบบทีมหรือแบบ individual โดยเรา focus ไปที่ designOps, researchOps, และ productOps

เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก Skooldio partner แห่งการเรียนรู้สุด strong ที่เปิดบ้านต้อนรับเราอย่างอบอุ่น หากใครสนใจคอร์สเรียนออนไลน์เพื่อเพิ่มทักษะและอัปสกิลในยุคดิจิทัล ที่ Skooldio ก็ตอบโจทย์ได้ในหลายรูปแบบและหลายระดับอย่างมีคุณภาพ

เราตั้งใจที่จะมุ่งเน้นไปทาง Collaborative meetup ที่ทุกคนได้มีร่วมกิจกรรม ไม่ใช่แค่มานั่งฟังเฉยๆ และในครั้งแรกนี้เราได้ชวนผู้เข้าร่วมไปสำรวจความเข้าใจกับ DesignOps 101 ผ่านการ Illustrate problem space, Self-assessment with Maturity Model และผ่านบทสนทนาที่พาเราไปพบกับหลายแง่มุมของที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของผู้เข้าร่วม

นอกจากได้พบเรื่องราวที่น่าสนใจแล้วเรายังได้ validate design community landscape ของเราผ่าน framework maturity model ทำให้เข้าใจว่ามีความเป็นไปได้ที่ความเชื่อของเราจะไม่ผิดไปจากความเป็นจริงมากนัก

เราจึงอยากชวนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ✏️ Survey, Initial maturity landscape of research & design survey by Opsian ช่วยผลักดันให้คุณและเราได้เข้าใจถึงภาพรวมของ Thai design community มากขึ้น เพื่อนำมาซึ่งการก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ

3 Highlights ที่เราอยากเน้นจาก Meetup #0: Closed Beta Event

Initial Illustration Of Design Community Landscape

เราจะเห็นได้ว่าสัดส่วนของ Problem space และ Maturity levels (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Maturity Models ได้ที่นี่ Eng | ไทย) นั้นมีความเชื่อมโยงกันอยู่มาก สัดส่วนของ level 1 Ad-hoc — 2 Organize ที่เป็น majority กับการพบปัญหาที่มากแทบจะเท่าตัวยืนยันว่าเราน่าจะอยู่ตรงนั้นจริงๆ เราจึงบอกปัญหาออกมาได้เยอะเป็นพิเศษ ต่างกับ Level 3 Integrate — 4 Scale ที่มีการ define ตนเองว่าเราอยู่ตรงนั้น แต่กลับพบปัญหาค่อนข้างน้อย เราจึงพึ่งเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เป็นไปได้ว่า Design community ของเราพึ่งไปแตะโซนนั้นก็เป็นได้

หากลองมองอีกมุมของปัญหา จะพบว่าเราส่วนใหญ่นั้นเทไปทาง Discovery & Delivery ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังไปกองกันอยู่ในแกนของ Product & Design Process ด้วย โดยปัญหาหลักๆ ที่เราพบนั้นเป็นเรื่องของ

• Design alignment ในการตัดสินใจ การเลือกใช้งาน, Design file management การจัดระเบียบต่างๆ เมื่อ designer ต่างใช้งาน materials ชุดเดียวกัน, และ People management ที่คนไม่พอกับงานจนเกิดเป็นคอขวด
• Vision & strategy ที่เราพบ Classic problem ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Alignment ระหว่าง business x research & design, ความเข้าใจและการให้คุณค่าของ research & design และ การลงทุน (investment) กับคนและเครื่องมือการทำงาน
• การขาดโอกาสในการเข้าถึง Go live & metrics measurement ที่ research & design ถูกจัดให้คล้ายทีมงานหลังบ้าน ก่อให้เกิดช่องว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการเติบโต และการให้ความสำคัญ

The Change In Issues Types

หากเรานำ data จากงาน UX Conference 2020 Reflection มาเทียบกับ Opsian Meetup Closed Beta Event แล้วเราจะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี แต่ก็ยังถือว่าเป็นก้าวสั้นๆ ในช่วงเวลา 2.5 ปีที่ยาวนาน

จากที่ปี 2020 เราพบปัญหาหมวดของ Value & culture, Decision making, Alignment เป็นอันดับต้นๆ เราพบว่าลำดับได้เปลี่ยนไปจากการทำความเข้าใจถึงคุณค่าเป็น focus ในเรื่องการทำงานมากขึ้น และเรื่องที่เข้ามาเบียดแน่นอนว่าเป็นหมวดของ Process, Practices and Management โดยถูกพูดถึงในแง่มุมของ Project management, Design system, research & design practice, tools, และ disciplinary แต่ก็ยังไม่วายตามมาด้วย 3 อันดับเจ้าเก่าอยู่ดี

ความน่าสนใจนี้บอกเราถึงการยอมรับ ความเข้าใจ และการเริ่มลงทุนของฝั่ง business แต่คำถามที่น่าสนใจคือ “ความเร่งเท่านี้เป็นที่น่าพอใจหรือไม่” หากเปรียบเทียบกับระยะเวลาของ Global research จากหลายๆ ที่จะพบว่าส่วนมาก Level 1–2 และ 2–3 นั้นใช้เวลาราวๆ 1–2 ปี แต่เรากลับใช้เวลากว่า 2.5 ปี ดังนั้นเพื่อให้ Design community และ talents ของประเทศเราสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกแล้ว คงไม่ใช่ความท้าทายที่เราก้าวข้ามได้ง่ายๆ

Key Maturity Leaping, The Demand Of Engineering

Design จำเป็นต้อง Code ไหม?

จุดเปลี่ยนของการกระโดดข้ามจาก Level 2–4 ปฏิเสธไม่ได้ว่า Coding เป็น 1 Skill ที่จำเป็น ไม่ว่าคุณจะ code เองหรือ recruit engineer มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมก็ตาม

เมื่อ 5–6 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องยากมากที่เราจะพยายามให้ Business จ้าง Engineer มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม Research & Design จากประสบการณ์แล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทำให้เราต้องสร้าง relationship และขอแบ่ง resource จากทางเขามากกว่าที่จะมีอิสระในการพัฒนากระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

วันนี้เรามีตัวอย่างมากมายของการที่มี Engineer มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม Research & Design แล้วสามารถสร้าง impact ได้อย่างไม่คาดคิดในการสร้าง tools ใช้ในองค์กรเพื่อตอบโจทย์ที่ unique และ specific มากๆ ของ business เรา, หรือจะเป็นการ calculate outcome/impact ของการลงทุนใน research & design, การ integrate ecosystem เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของข้อมูล จนไปถึงการทำ automation เพื่อทีมได้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด

ทั้งหมดนั้นเป็นที่มาของชื่อ role UX or UI engineer, Design system developer, Design Technologist ที่เข้ามามีบทบาทในองค์กรใหญ่ๆ ระดับโลก ต้องถามกลับมาว่า “ทำไมเรายังกลัวๆ กล้าๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของ R&D เพื่อการเติบโตของ businessเราอยู่อีก?”

จาก Highlights ทั้ง 3 ข้อนั้นเราได้เห็นภาพร่างคร่าวๆ ของ Design Community Landscape ที่เราพยายามวาดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจ มันบอกเราถึงความน่ากังวล จุดที่ติดขัด และแสงที่ปลายอุโมงค์ เราเชื่อว่าเรายังทัน ยังไม่ตกรถ และยังเห็นโอกาสอีกมากในการพา Design team หรือ Researchers, Designers, และ Product people ไปยัง Maturity levels ถัดๆ ไป

อย่างไรก็ตาม Data นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่ม ถึงจะยังไม่มากแต่พอให้เราได้เห็นภาพ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดและสามารถวิเคราะห์ปัญหาที่แม่นยำขึ้น

เราจึงอยากชวนคุณมาช่วยส่งเสริมและผลักดัน Design community ผ่านการทำ ✏️ Survey, Initial maturity landscape of research & design survey by Opsian

ด้วย Data และ Insights ที่เราจากการตอบ Survey 5–10 นาที นี้จะช่วยให้เราสามารถวาดเส้น Landscape of excellent operation in Thailand ได้ และยังช่วยให้เรา Opsian, designOps practitioner community และ partners ของเรา ได้รับข้อมูลเพื่อนำกลับมาสร้างคุณค่าให้กับพวกเราได้อย่างตรงเป้าหมายขึ้น

“ทุกที่นั้นมี Ops เป็นของตนเองอยู่แล้ว แต่คำถามคือหน้าตาของ Ops คุณนั้นเป็นอย่างไรกันแน่?”

ติดตาม Opsian, designOps community ได้ที่ Facebook page, Opsian เราหวังอย่างยิ่งที่จะผลักดันไม่ใช่แค่วิ่งตามแต่ยืนเคียงไหล่ของเหล่ายักษ์ใน Global design scene