[รีวิว] ประสบการณ์ฝึกงาน Data scientist ที่ ABACUS digital

Khunanon Rattanagoses
ABACUS digital
Published in
3 min readSep 15, 2023
The 2023 internship gang at ABACUS digital

สวัสดีครับ ผมชื่อนนต์ครับ วันนี้ผมจะมารีวิวประสบการณ์จากการฝึกงานที่ ABACUS digital เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังหาที่ฝึกงาน และอยากรู้ว่าฝึกงานที่นี่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง

หลังจากจบโปรแกรมฝึกงานมาสดๆ ร้อนๆ ผมเลยอยากมาเขียนแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อประกอบการตัดสินใจของใครที่กำลังสนใจบริษัท Data tech มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ โดยเนื้อหาจะประกอบไปด้วย

  • มาฝึกที่ ABACUS digital ได้ยังไง?
  • ได้ทำอะไรบ้างในช่วงของการฝึกงาน ABACUS digital
  • สิ่งที่ประทับใจ

โดยก่อนที่เราจะเริ่มกัน ขอผมขอเล่าประวัติส่วนตัวของผมสักหน่อยละกัน ครับ ช่วงฝึกงานผมกำลังศึกษาอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้มีโอกาสฝึกงานที่ ABACUS digital ตำแหน่ง Data scientist ทีม Growth เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่ช่วง ต้นเดือนมิถุนายน จนถึง สิ้นเดือนกรกฏาคม เพื่อไม่เห็นเป็นการเสียเวลา เริ่มกันเลยครับ

มาฝึกที่ ABACUS digital ได้ยังไง?

เหตุผลหลักๆ 3 ข้อ ในช่วงตัดสินใจสำหรับผมคือ

1. บริษัท DataTech

โดยส่วนตัวสนใจงานทางด้าน Data และ AI/ML อยู่แล้ว และ ABACUS digital ก็มีการนิยามตัวเองที่ชัดว่าเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการใช้ AI/ML มาวิเคราะห์ข้อมูลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการทางการเงินเพื่อลดปัญหาทางสังคม ทำให้ผมมองว่า เป็นบริษัทน่าจับตามองโดยตัววิสัยทัศน์อยู่แล้ว เพราะเมื่อให้ความสำคัญกับ Data แล้ว บริษัทน่าจะมีข้อมูลให้ลองจำนวนมาก ข้อมูลที่หลากหลาย รวมทั้งพี่ๆในบริษัทที่มีประสบการณ์และแต่ละคนเก่งมากๆ

2. Working environment

สิ่งที่เราต้องพิจารณาต่อมา คือสภาพแวดล้อมการทำงาน แต่เนื่องจากผมยังไม่ได้เคยทำงานที่ ABACUS มาก่อน จึงต้องหาวิธีทางเลือกเพื่อประเมินทางอ้อม ซึ่งมาจาก 2 ช่องทางคือ

  1. CP Job Fair: ต้องยอมรับว่าที่จริงผมไม่รู้จัก ABACUS digital มาก่อนเลย รู้จักครั้งแรกจากงาน CP Job Fair ที่จัดโดยภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่ถึงแม้จะไม่รู้จักมาก่อน สิ่งแรกที่ผมรู้สึกประทับใจครั้งแรกที่รู้จักบริษัท คือจากบูทของบริษัทที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปคุยและสอบถามเกี่ยวกับตำแหน่งและบริษัท ซึ่งปกติคนที่มาแนะนำ ส่วนมากผมเห็นเป็นคนจากตำแหน่งอื่นๆ เช่น HR มาให้คำตอบ แต่สำหรับ ABACUS digital เป็นพี่ณัฐ ซึ่งเป็น Head of AI/ML ของ ABACUS digital รวมทั้งพี่ๆในทีม Data ที่มาให้คำตอบผมโดยตรง และคลายข้อสงสัย ทำให้ผมรู้สึกถึงความใส่ใจและความเป็นกันเอง ของทั้งบริษัทและทีม
  2. Interview: แน่นอนว่าปกติเราจะเป็นฝ่ายถูกสัมภาษณ์ฝ่ายเดียว แต่ด้วยการสัมภาษณ์นี้แหละที่เป็นโอกาสให้คนถูกสัมภาษณ์ได้มีโอกาสลองถามกลับ ซึ่งการสัมภาษณ์ที่นี่จะให้พี่ๆ ในทีมมาสัมภาษณ์เราโดยตรงเลย ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศการพูดคุย รวมทั้งได้ถามสิ่งต่างๆ ที่สงสัย และงานที่จะได้ทำจริงๆ ซึ่งตอนสัมภาษณ์ บรรยากาศของผมตอนนั้น พี่เขาคุยเป็นกันเองมากๆ ทำให้เรารู้สึกกล้าที่ตอบและถามกลับ ด้วยความรู้สึกนี้เลยมองว่าช่วงฝึกงานจริง น่าจะเข้ากับพี่ๆ ได้ดีเลยแหละ

คำถามการสัมภาษณ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละทีม และตำแหน่งที่สมัคร โดยทีม AI/ML-Growth ที่ผมเข้านั้น พี่ๆในทีมก็จะถามคำถามพื้นฐานในด้านคอมพิวเตอร์ เช่น Data structures, Algorithms รวมถึงถามเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่เราเคยทำมา

3. Challenge 🔥

สิ่งหนึ่งที่อาจจะเป็นปัจจัยของเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงหลายๆคน คงอยากได้โปรเจกต์ที่ท้าทายตัวเอง, หาทำเองได้ยาก (อาจจะเพราะไม่มีข้อมูล) หรือได้ทำโปรเจกต์ที่มีโอกาสได้ขึ้น production จริงๆ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น การที่เรารู้ 2 เหตุผลข้างบนอาจจะยังทำให้ลังเลอยู่ ทำให้ผมหาข้อมูลและพยายามถามเพื่อนที่เคยฝึกที่นี่ ซึ่งสุดท้าย เขาก็ขายผมจนตัดสินใจได้ในวันนั้นเลย เพราะว่าที่นี่มีโจทย์ที่หลากหลายมาก (e.g. Graph ML and Applying deep learning) และสำหรับผมเองก็มองว่า ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ที่อยากจะเรียนรู้หลายๆเรื่อง

สำหรับโจทย์จะเปลี่ยนไปในแต่ละปี สำหรับปีนี้เดี๋ยวจะลงรายละเอียดในส่วนถัดไปครับ

แต่สุดท้ายการที่เราจะได้ฝึกที่นี่หรือไม่นั้น เราก็ต้องได้ผ่านการคัดเลือกจากบริษัทก่อน ซึ่งก็ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคนครับ ที่ให้โอกาสผมเข้ามาฝึกงานที่ ABACUS digital 🥳🎉

ได้ทำอะไรบ้างในช่วงของการฝึกงาน ABACUS digital

สถานที่ทำงานของเราอยู่ที่ SCB Park Plaza ตึก East ชั้น 22 โดยช่วงที่ผมฝึกจะทำงานเป็นแบบ Hybrid คือไป 2 วันต่ออาทิตย์ คือวันอังคารและวันพฤหัสบดี สำหรับการเดินทางไปบริษัท สามารถลงที่ BTS รัชโยธินและเดินผ่าน Major รัชโยธิน ไปที่ตึกได้เลย วันแรกที่เริ่มฝึกงานบริษัทจะมีการ Onboarding เพื่อทำความรู้จักกับบริษัทและเพื่อนๆ ที่เริ่มฝึกงานวันเดียวกัน หลังจาก Onboarding จบลง ก็จะมีการแจกอาวุธสำหรับการฝึกงานครั้งนี้ นั้นก็คือออ เด็กฝึกงานทุกคนจะได้ยืม Macbook มาใช้ตลอดช่วงการฝึกงาน 😝

หลังจากได้ Mac คู่ใจ ช่วงบ่ายของวันแรก เราจะได้เจอกับพี่ๆ ในทีมและพูดคุยกันสักพักเพื่อละลายพฤติกรรมกันก่อน โดยบรรยากาศของการพูดคุยไม่อึดอัดเลย เพราะพี่ๆ พยายามชวนคุยตลอด จากนั้นช่วงเย็นก็ได้เริ่มคุยเรื่องเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่เราจะได้ทำ แต่เดี๋ยวผมจะแนะนำทีมของผมให้รู้จักก่อนนะครับ ทีมของผมทำในส่วนการนำเทคโนโลยี AI/ML มาใช้กับโจทย์ต่างๆ ในบริษัท ทำให้ส่วนของเด็กฝึกงานปีนี้ จะให้โปรเจกต์ที่จะเป็นเชิง experiment ก่อน หากได้ผลดีก็มีขั้นตอนของการทำไปใช้ใน production จริง ตัวอย่างโจทย์ที่ได้รับก็ท้าทายเลยทีเดียว อย่างเช่น Graph-ML, Create representation features หรือ Generative AI ซึ่งเราจะได้ทำโจทย์พวกนี้กับ Data ที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้งานจริงๆ และอย่างที่บอก ที่นี่ไม่ได้กำหนดว่าจะให้โปรเจกต์เด็กฝึกงานจบแค่ทดลอง ถ้าเราสามารถทำได้ทัน พี่ๆเขาก็พร้อมจะช่วยเอาโปรเจกต์ของเราไปขึ้นบน Production ได้ (แต่การทดสอบกับผู้ใช้จริงๆ มีกระบวนการที่ยาวนาน แต่ถ้าโปรเจกต์ที่เราทำมีประสิทธิภาพจริงๆ พี่ๆในทีมจะเอาโปรเจกต์ไปทดสอบให้) ซึ่งต้องขอบอกว่าถ้าใครอยากได้โปรเจกต์ที่ได้ทำอะไรที่ท้าทายๆ ใหม่ๆ และเล่นกับ Data จริงๆ ทีมนี้ตอบโจทย์แน่นอนนน โดยสำหรับโปรเจกต์ของผม คือ การแปลง Unstructure data (เช่น ข้อความ) ให้อยู่ในรูปแบบชุดตัวเลขที่แทนข้อมูลนั้นๆ (Embedding features) โดยใช้เทคนิค Deep learning เพื่อนำไปใช้เป็น features ให้กับ Model ต่างๆ ต่อไป แต่ผมจะขอไม่ได้ลงรายละเอียดตรงส่วนนี้ เดี๋ยวจะเล่าบรรยากาศการทำงานแทนนะครับ

โดยทีมที่ผมอยู่จะเป็นทีมทีมีสมาชิกเพียง 6 คน ไม่รวมเด็กฝึกงาน ได้แก่ พี่ณัฐ (Head of AI/ML) พี่เอก(พี่เลี้ยงผมที่คอยสอนและดูแลผมตลอดฝึกงาน) พี่ปก พี่พลเอก พี่นัทโส และพี่ทาโร่ โดยช่วงฝึกงานก็จะได้อยู่กับพี่ๆ ซึ่งบรรยากาศการทำงานที่นี่จะเปิดโอกาสให้เราสามารถที่จะปรึกษาพี่ๆ ทั้งในทีมและนอกทีมตัวเองได้ตลอดเลย และพี่ๆ ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อให้เราทำงานต่อได้ โดยในช่วงทำโปรเจกต์หลังจากให้โจทย์แล้ว พี่ๆจะแนะนำ keyword และแนวทางคร่าวๆ ให้เราไปศึกษาและลงมือทำก่อน โดยถ้าติดอะไรสามารถที่จะมาถามได้ แล้วพี่ๆจะคอยช่วยเหลือ แต่ที่ผมชอบมากๆ ในการทำงานที่นี่คือ พี่เขาจะให้โจทย์กว้างๆ มา แต่ไม่ได้จำกัดวิธีว่าต้องทำตามคำแนะนำ ทำให้เราสามารถที่จะหาวิธีต่างๆ ที่อาจจะเป็น state of the art แล้วมาลองปรึกษาเพื่อใช้กับโจทย์ที่ได้รับได้ ซึ่งพี่ๆ เปิดรับความคิดเห็นมากๆ เลยยย

นอกจากนี้ทีม Growth ของที่ ABACUS digital ช่วงที่ผมฝึกจะมีกิจกรรมที่ชื่อว่า AI playground เพื่อให้คนที่มีความรู้เกี่ยวกับ AI มาแชร์อะไรก็ได้เกี่ยวกับ AI/ML เป็นเหมือน small talk คุยกันในทีมเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ตัวอย่างช่วงที่ผมฝึกก็ เช่น Large Language Model เป็นต้น ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า AI playground นี้ทำให้เราได้อัพเดตความรู้ใหม่ๆ พร้อมกันในทีมอีกด้วย

เรื่องการฝึกงานของที่นี่ไม่ได้แค่การฝึกงานในตำแหน่งที่สมัครมาอย่างเดียว เรายังได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น

  • Innovation quest: ที่เป็นโปรเจกต์ทำร่วมกับเพื่อนฝึกงาน การแก้ปัญหาที่บริษัทพยายามจะแก้อยู่ ซึ่งทำให้เด็กฝึกงานแต่ละคนได้ลองทำงานด้านอื่นๆ นอกจากงานตัวเอง เช่น Product design หรือ User research เป็นต้น อีกทั้งโปรเจกต์นี้ยังเปิดโอกาสให้เราได้ลองไปถามพี่ๆ คนอื่นในบริษัท เพราะเราต้องหาข้อมูลมาทำโปรเจกต์ด้วย ทำให้ได้ทั้งความรู้และรู้จักพี่ๆ มากยิ่งขึ้น
  • Hump Day Game day: คิดเกมที่สามารถเล่นออนไลน์ได้ มาจัดให้พี่ๆ ในบริษัทได้เล่นกัน

ขอเสริมสุดท้ายว่าที่นี่ยังมีกิจกรรมนอกจากเรื่องงาน ให้เราได้เข้าร่วม เช่น

  • Extra Activities: เป็นกิจกรรมที่เกิดจาก community ของพี่ๆ ที่ทำหลังเลิกงาน เช่น การไปตีแบด หรือ การไปปีนผา เป็นต้น และปัจจุบันที่ผมเข้าใจ บริษัทกำลังหากิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้พนักงานในบริษัทได้มีกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
  • Career Talk: เป็นกิจกรรมที่ผมชอบมากๆ โดยกิจกรรมจะเป็น session ที่เอาพี่ๆในแต่ละสายอาชีพมานั่งเล่าว่า ตัวเองทำอะไรบ้างและเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ถามสิ่งที่สงสัย ทำให้เราเข้าใจแต่ละอาชีพมากขึ้น และเห็นความสำคัญของตำแหน่งต่างๆ
  • 1-on-1: กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ได้คุยกับพี่เลี้ยงของตัวเอง สามารถปรึกษาได้ทุกเรื่องไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเรื่องงานก็ได้

จะเห็นว่าที่ ABACUS digital มีอะไรให้ทำเยอะแยะเลย ทั้งกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายหลังการทำงาน หรือกิจกรรมเพื่อให้เราได้พัฒนาตัวเองขึ้น ไม่ได้มีแค่การฝึกงานเพียงอย่างเดียว ถ้าใครเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว ลองมาอ่าน “สิ่งที่ประทับใจ” จากการฝึกงานครั้งนี้ของผมกัน

กิจกรรมกลุ่มที่ให้รู้จักกันมากขึ้นในวันแรก

สิ่งที่ประทับใจ

ตลอดการฝึกงานช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ผมได้รับอะไรมากมายจริงๆ จากทั้งบริษัท ABACUS digital และทีม Growth ที่ผมอยู่

  1. Working environment: บรรยากาศในบริษัทค่อนข้างเป็นกันเอง ทำให้แต่ละคนในบริษัทสามารถที่จะคุยกันได้ ปรึกษาได้ทุกเรื่อง พี่ๆในบริษัทเวลาเราไปขอความช่วยเหลือ พี่ๆจะพยายามหาวิธีช่วยเหลือ และให้คำแนะนำ ไม่จำเป็นว่าต้องคุยเฉพาะแต่ในทีมตัวเอง โดยต้องยกเครดิตให้พี่เลี้ยงผม(พี่เอก) ที่คอยช่วยแนะนำ ช่วยหาทางออกเวลาติดปัญหา และคอยชวนคุยเรื่องต่างๆ เพื่อให้ผมไม่ต้องกังวลหรือกดดันเรื่องงานจนมากเกินไป
  2. Career Aspiration: ผมโชคดีที่ได้เข้าที่นี่ เพราะเดิมผมก็เป็นคนหนึ่งที่ยังสงสัยว่าชีวิต เมื่อจบไป เราจะทำอะไรได้บ้าง? จะเติบโตไปเป็นอะไร? ซึ่งที่นี่ให้ความสำคัญกับเด็กฝึกงานที่สงสัยแบบผมมากๆ โดยการเปิดให้มีโอกาสได้ฟังและสอบถามกับตำแหน่งต่างๆ ในบริษัทผ่าน Career Talk เพื่อจะได้เข้าใจและรู้ว่าตำแหน่งต่างๆ เป็นยังไง เช่น มีหน้าที่อะไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรถึงจะเข้าไปทำตำแหน่งนั้นได้ หรือชีวิตในการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เป็นต้น และถ้าเรายังสงสัยอยู่ดี(อีกล่ะ!!) ก็มี session 1-on-1 ที่เราสามารถขอคุยกับพี่เขาเป็นการส่วนตัวได้แบบ exclusive มากๆเลย ทำให้สุดท้ายถึงแม้เรายังไม่ได้ทำอาชีพนั้นๆ เอง แต่อย่างน้อยเราก็เข้าใจ และรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนได้ เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆเลยครับ
  3. Snacks: บริษัทจะมีขนม ลูกอมและน้ำดืมเตรียมไว้ให้กินเล่นระหว่างทำงานได้ ซึ่งจะไม่ได้มีกำหนดตายตัว ขึ้นกับแต่ละวัน ช่วงที่ผมฝึกงานก็จะมีป๊อปคอร์นที่ติดฮิตเจอประจำ และช่วงบ่ายๆ ของบางวันก็จะมีขนมที่เป็นการสั่งเข้ามา เช่น เค้ก, นักเก็ตไก่, โดนัท เป็นต้น
มีน้ำดื่มให้กินระหว่างทำงานด้วยย ^^
บรรยากาศเหล่า intern ที่ได้กินเกี๊ยวซ่ากัน

สุดท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆ และเพื่อนทุกคนที่คอยสนับสนุนและสร้างประสบการณ์การฝึกงานที่มีค่านี้กับผม หวังว่าผู้อ่านจะได้เห็นภาพว่าฝึกงานที่นี่เป็นอย่างไร และได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ ^^

--

--