วัฒนธรรมองค์กรแย่ๆมันเปลี่ยนยาก

Or impossible to change?

Piyorot
Inthentic Inc

--

ก่อนหน้าความพยายามในการพลิกโฉมวัฒนธรรมองค์กร อายุงานเฉลี่ยของพนักงานในเวลานั้นอยู่ที่ 10 ปี

หลังความพยายามในการพลิกโฉมวัฒนธรรมองค์กร อายุงานเฉลี่ยของพนักงานกลุ่มใหม่ที่รับเข้ามาอยู่ที่ 1.5 ปี

ผมไม่ได้เก็บสถิติอะไรจริงจัง ตัวเลขนี้ได้จากความรู้สึกล้วนๆ แต่เหตุการณ์มันชัดเจนสำหรับผมว่าความพยายามในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรที่มันฝังรากลึกนั้นเป็นเรื่องที่ยากจนถึงขึ้นเป็นไปไม่ได้ … คนเลือดเก่าที่อยู่มานานก็ยังอยู่ต่อไป คนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาพร้อมพลังขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่กลับต้านกระแสคลื่นไม่ไหวต้องกระโดดลงน้ำไป

ความพยายามในการพลิกโฉมวัฒนธรรมองค์กรนั้นต้องการอะไรหลายๆอย่าง หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องการคนเลือดใหม่เข้ามาปรับเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ดีและเติมเต็มในสิ่งที่ยังขาด เราไม่สามารถพึ่งพาคนเลือดเก่าให้ทำแบบนี้ได้เพราะ … อืมม ถ้าพวกเค้าสามารถ องค์กรนี้คงเจริญรุ่งเรืองทะลุฟ้าไปนานแล้ว

อย่างที่เคยบอกไปว่าการรับพนักงานใหม่เป็นเรื่องไม่ยากแต่การจะรักษาเค้าไว้เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย* และเมื่อมองให้ลึกลงไปกลุ่มคนที่สละเรือไปก่อนเวลาอันควรนั้นเป็นคนที่มีศักยภาพ เป็นคนหัวใหม่ เป็นคนมีแนวคิด และเป็นคนที่สามารถนำพาองค์กรไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้ … เราไม่สามารถเก็บรักษาคนแบบนี้ไว้ได้ เพราะอะไร?

คำตอบเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือวัฒนธรรมองค์กรที่ถูกสร้างและฝังรากลึกมานานนับ 10 ปีเป็นกำแพงที่สูงเกินจะปีนข้าม ด้วยแนวคิดแบบเก่า การทำงานแบบเก่า และความไม่จริงจังทุ่มเทเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรของผู้บริหารสูงสุดมีผลต่อการตัดสินใจสละเรือของคนเลือดใหม่กลุ่มนี้ เพราะพวกเค้าเป็นคนที่มีศักยภาพ … พวกเค้าจะไม่คิดมากหรือกังวลใจอะไรเลยในการกระโดดลงน้ำครั้งนี้ เพราะเค้ามีทางเลือกในชีวิตอีกมากมาย เค้ามองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นโอกาสไม่ใช่ความล้มเหลว

ถึงตอนนี้ผมเข้าใจมากขึ้นอย่างที่ดาเมช ชาห์ ผู้ก่อตั้ง Hubspot กล่าวไว้ว่า

“At HubSpot, we’ve found that the number one thing that attracts amazing people is other amazing people.” — Dharmesh Shah

“ที่ฮับสปอต เราค้นพบว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ดึงดูดคนเก่งคือคนเก่งด้วยกัน” — ดาเมช ชาห์

สำทับด้วยแนวคิดคมๆของแอนโทนี่ ชาน (Anthony K. Tjan) ที่ว่า

“A’s will always attract other A’s — but B’s will attract C’s.” — Anthony K. Tjan

“คนเกรดเอจะดึงดูดคนเกรดเอด้วยกัน — แต่คนเกรดบีจะดึงดูดเฉพาะคนเกรดซี” — แอนโทนี่ ชาน

เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเก่งย่อมอยากทำงานกับคนเก่ง อยากเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจากคนเก่งด้วยกัน … การทำงานร่วมกับคนไม่เอาถ่านหรือคนหัวดื้อมันเป็นความรู้สึกที่กัดกร่อนจิตวิญญาณพอสมควร — โชคดีที่คนเก่งไม่จำเป็นต้องอดทนนาน

กลับกันคนที่ทำงานเช้าชามเย็นชามมักไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย และมีความสุขเมื่อได้ทำงานกับคนประเภทเดียวกันหรือแย่กว่า โลกนี้ช่างโหดร้ายที่คนกลุ่มนี้มีจำนวนมากมายกระจายตัวอยู่ในองค์กรทุกหัวระแหง … มันเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเกรดบี ซี ดี ที่เป็นคนเลือดเก่าจะสร้างกำแพงที่สูงและแข็งแรงจนคนเกรดเอข้ามไม่ได้โค่นไม่ลง

ทั้งหมดนี้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องยากถึงขึ้นเป็นไปไม่ได้ วัฒนธรรมองค์กรถูกสร้างขึ้นอย่างช้าๆจากพนักงานทุกคน ถ้ามันดี มันจะดีเพราะพนักงาน ถ้ามันแย่ มันก็จะแย่เพราะคนสร้าง เมื่อมันแย่แล้วอยากให้กลับมาดี คงจะจริงที่เราต้องเปลี่ยนคนสร้างเป็นคนใหม่ทั้งหมด หลายครั้งนั่นรวมถึงผู้บริหารระดับสูงสุดด้วย

ป.ล.1 *อย่างที่เคยบอกไปว่าการรับพนักงานใหม่เป็นเรื่องไม่ยากแต่การจะรักษาเค้าไว้เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย — นี่เป็นประโยคที่ผิดที่ถูกต้องคือตรงข้าม

การรับพนักงานใหม่ควรเป็นเรื่องยากและการรักษาเค้าไว้ควรเป็นเรื่องง่าย

นั่นจะเป็นไปได้เพราะการมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและแข็งแรงเท่านั้น

ป.ล.2 “คนเลือดเก่า” ไม่ได้หมายถึงคนอายุมาก คนทำงานมานาน และไม่เกี่ยวว่าจะตำแหน่งเล็กหรือใหญ่ ผมหมายถึงคนที่ยึดติดแต่อะไรเดิมๆ คนที่ไม่ยอมไม่พร้อมปรับปรุงเปลี่ยนแปลง คนที่พอใจกับแค่คำว่า “ดีอยู่แล้ว”

ผมเขียนบทความนี้เพราะอยากเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตซอฟท์แวร์ให้ดีขึ้นตามความเชื่อและประสบการณ์ของผม ถ้าเพื่อนๆเชื่อในแนวทางเดียวกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือทำให้สังคมของเราดีขึ้นครับ จะแชร์บทความนี้ผ่าน Social Network หรือจะแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้คนที่นั่งข้างๆฟังบ้างก็ได้

The Future Has Arrived — It’s Just Not Evenly Distributed Yet, William Gibson

อนาคตอยู่ตรงนี้แล้ว เรามีหน้าที่ต้องถ่ายทอดมันออกไปให้คนอื่นได้สัมผัสสิ่งดีๆร่วมกันครับ

--

--

Piyorot
Inthentic Inc

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com