การเชื่อมโยง Ethereum, EOS และ Tron: เนรมิตให้ Blockchain ทำงานแบบ Interoperability ได้

Loom Network Thai
Loom Network Thai
Published in
5 min readApr 2, 2019

บทความนี้แปลมาจากบทความที่เขียนโดย James Martin Duffyถ้ามีส่วนไหนในบทความที่แปลผิด ขอความกรุณาแจ้งให้เราทราบได้ตลอดผ่านทาง Private Note ขอบคุณค่ะ❤

ก่อนที่จะเริ่ม ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…

บทความนี้จะพาทุกคนมาตื่นตากับหลายฟีเจอร์ใหม่ๆ แน่นอน 😜

ผมเชื่อว่าหลายท่านที่กำลังอ่านอยู่ในที่นี้ก็คงมี Blockchain หนึ่งเดียวในดวงใจกันอยู่แล้วและอาจจะคิดว่าอีก 2 Chain ที่กำลังพูดถึงนั้นถูกรันโดย [idiots/scammers/แล้วแต่คุณจะให้คำจำกัดความ]

แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เราจะไม่ว่ากันอยู่แล้ว

แต่วันนี้ผมมาในจุดประสงค์เพื่อมาขายไอเดียทุกท่านว่าการเชื่อม chain เหล่านี้เข้าด้วยกันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงนอกจากจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว — — ก็ยังนับว่าเป็นการวิวัฒนาการตามธรรมชาติของ Blockchain Ecosystem โดยรวมอีกด้วย — การทำเช่นนี้ยังมีประโยชน์มหาศาลต่อนักพัฒนาและผู้ใช้ของทั้ง 3 Chain นี้อีกต่างหาก

กล่าวคือแม้ว่าเราจะไม่ได้ตั้งใจจะเลือกหรืออยากจะมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับ Blockchain อื่นเลยก็ตาม — การเปลี่ยนแปลงนี้แหละที่จะทำให้ Chain’s ecosystem ของทุกคนร่ำรวยขึ้นอย่างแน่นอน

ก่อนที่เราจะไปถึงส่วนนั้น กระผมขอกล่าวย้อนความไปสักเล็กน้อย

ว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันนะ?

ช่วงสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทาง Loom network มีแผนที่จะสร้างวงจรรวมหรือ Integration สำหรับ Tron และ EOS มายัง PlasmaChain — จะสามารถทำให้นักพัฒนา DApp สามารถเสนอ DApp ของพวกเขาให้กับผู้ใช้บน Chain ทั้ง 3 ได้อย่างทันที

มีคำถามเข้ามาเช่นกัน — ไม่ครับ เราไม่ได้รับเงินสักสลึงเดียวจากการลงทุนเสร้างวงจรรวมของ chain เหล่านี้แต่อย่างใด เราตัดสินใจที่จะสร้าง Integration นี้ในเพื่อการเดินหน้าต่อของบริษัท Loom (รวมถึง DApp ecosystem ในองค์รวมด้วย) เท่านั้น และเหตุผลต่างๆ ของไอเดียที่เกิดขึ้น ผมจะมาเล่าให้ทุกคนทราบอย่างหมดเปลือกในบทความนี้เลยครับ

อันดับแรกผมจะมาบอกเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องมีการสร้าง integrate นี้ขึ้นด้วย ประกอบการเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการคิดค้น — พร้อมกันกับตัวอย่างของหลายฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่จะตามมาแน่นอน

ต่อมาก็คือเหตุผลว่ามันสุดยอดและโคตรจะมีประโยชน์ สำหรับทุกคนในทุกมิติอย่างไร ปิดท้ายด้วยแนวคิดเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาของตลาดที่จะเปลี่ยนไป

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันได้เลยครับ…

เบื้องหลัง: ทำไมเราถึงเลือกสร้างสิ่งนี้?

Loom นั้นเพ่งโฟกัสไปที่นักพัฒนาเป็นหลักอยู่แล้วแต่แรก

การเดินทางของเราเริ่มขึ้นจากการสร้างเครื่องมือการพัฒนา เช่น EthFiddle, ตามมาด้วย Blockchain code school ที่ชื่อว่า CryptoZombies ซึ่งได้รับความนิยมสูงบนเว็บไซต์ และมี Loom SDK(ที่ให้นักพัฒนาทุกคนได้ปล่อย Blockchain ของตัวเองที่สร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดายเพื่อกลายเป็น high-scale DApp) และสุดท้ายก็คือ PlasmaChain ที่เป็น Shared Ethereum sidechain ที่ทำงานอยู่บน DPos ครับผม

พวกเราชอบใส่วิดิโอที่ดีของ Steve Ballmer พูดบนเวทีในบทความ Medium ของพวกเรา เพื่อที่จะเน้นความรักของเราที่มีต่อเหล่า developers ครับ😉

จนกระทั่งตอนนี้ สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดของเราล้วนแล้วแต่เพ่งความสนใจไปที่ Ethereumเนื่องจาก Ethereum นั้นเคยมี (และปัจจุบันก็ยังคงมี) จำนวนนักพัฒนาที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้เยอะที่สุดนั่นเองครับ

ซึ่งก็ยังคงไม่เปลี่ยน — เรายังคิดเสมอว่า Ethereum มีความสุดยอด (จริงๆ แล้วเราก็มีบทความที่เขียนเอาไว้เพื่อสนับสนุนอีกว่าทำไมจึงเลือกแพลตฟอร์มนี้ในการสร้าง Loom)

การเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาก็คือเราพบว่ามีจำนวนของนักพัฒนา DApp ขึ้นบนทั้ง EOS และ Tron เพิ่มขึ้นมาจากบน Ethereum อย่างน่าสนใจ — และจำนวนของผู้ใช้ users using EOS และ Tron DApps ก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

จริงๆ แล้วเราจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวพวกนี้ก็ได้

แต่จะไม่มีทางเป็นแบบนั้นครับ

เราได้พูดคุยกับ Devs หลายท่านที่กำลังสร้างสิ่งต่างๆ บน Loom/Ethereum นั้พบว่าพวกเขาเหล่านี้ก็กำลังตั้งใจมองหาแพลตฟอร์มอื่นไปด้วยเนื่องจากพวกเขามีจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

(นักพัฒนาได้ลงทุนในเรื่องของเวลาและเงินจำนวนมหาศาลในการสร้างแอพพลิเคชั่นของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องแปลกเลยที่พวกเขาเหล่านี้จะมองหาแพลตฟอร์มใดก็ตามที่มีลูกค้าเยอะๆ เพื่อที่จะเอาผลประโยชน์คืนมาให้ได้มากที่สุด็)

ผู้ใช้ Ethereum ส่วนมากก็ไม่ได้สนใจแพลตฟอร์มอื่นๆ เหล่านี้เท่าไหร่ — ส่วนมากก็เนื่องมาจากความแตกต่างทางเรื่องของ Consensus Algorithm, Glockchain goverenances หรือเพราะไม่เหมือนกับแนวทางการทำการตลาด หรือแนวทางการดูแล token sale ของพวกเขานั่นเอง

แต่ที่ผมอยากจะขีดเส้นใต้ก็คือ นักพัฒนา DApp นั้นต้องการที่จะเพิ่มจำนวนของผู้ที่มีความต้องการใช้ DApp ของพวกเขา และพร้อมที่จะจ่ายให้กับ Service ของพวกเขาให้ได้มากที่สุด มีโอกาสที่พวกเขาจะเอนเอียงเข้าหาแพลตฟอร์มใดๆ ก็ตามที่ได้เสนอในเรื่องนี้ขึ้นมาให้กับพวกเขาเป็นพิเศษ

ที่ Loom Network เราโฟกัสไปที่การมอบสิ่งที่ Dev ต้องการอยู่แล้ว

และเรามองไปถึงว่าจะดีแค่ไหนหากนักพัฒนาจะได้มีโอกาสไม่ต้องเลือกแค่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งและฐานลูกค้าเดียวไปตลอด

จะเป็นอย่างไรหากเราสามารถเสนอตัวเลือกในการเข้าถึงผู้ใช้ทุกคนผ่าน chain หลักทั้งหมดในเวลาเดียวกันได้?

Integration หรือการเชื่อมวงจรนี้แท้จริงแล้วหมายความว่าอย่างไร? (และทำไมทุกคนจึงกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่ามันโคตรเทพ)

สัปดาห์ที่แล้วเราได้ประกาศเกี่ยวกับ Integration ของ Top 100 ของ ERC20 tokens ภายใน PlasmaChain

การเชื่อมวงจรนี้รวมเกี่ยวกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ค่อนข้างสำคัญบางส่วนด้วยครับ:

1. ผู้ใช้สามารถสร้าง Purchase Transaction บน Ethereum Level 1 และสามารถรับไอเท็มที่ซื้อแล้วในเกม (หรือ Digital Asset) บน Layer2 ได้ (ลองเล่นเองได้ที่ Binance promotion เพื่อทดสอบ User Experience ได้เลย)

2. ผู้ใช้สามารถ Sign Layer 2 Transaction โดยใช้เพียงแค่ Ethereum market เท่านั้น (ตัวอย่าง เช่น MataMask นั่นเอง)

ตรงนี้เนี่ยแหละก็คือการเชื่อมวงจรเข้ากับ Ethereum แบบแนบเนียน

แปลว่านักพัฒนาที่กำลังสร้าง DApp ของตัวเองบน PlasmaChain อยู่นั้นไม่เพียงแต่ได้รับประโยชน์จากtransaction finality เพียง 1–3 วินาที, free transaction และการมี Transaction Throughput ที่สูงเท่านั้น — พวกเขายังสามารถได้รับประโยชน์แบบอัตโนมัติจากทุกๆ ครั้งที่ผู้ใช้ Ethereum เล่น DApp ของพวกเขาและมีการซื้อ Digital Asset อย่างไร้อุปสรรค

ถ้าจะพูดไป PlasmaChain ก็ทำหน้าที่เป็นเหมือน Ethereum Account ที่มีอยู่ของผู้ใช้ ซึ่งจะอนุญาตให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึง pool ทั้งหมดของผู้ใช้ Ethereum ที่มีอยู่ได้ และยังสามารถสร้าง DApp ที่มีความ Scalable สูงและ Frictionless อีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วไม่สามารถถูกสร้างได้บน Ethereum เพียงอย่างเดียว

การเชื่อมวงจร EOS และ Tron มีขั้นตอนเพิ่มเติม — นักพัฒนาจะสามารถเสนอ DApp เดิม (และขาย Digital Asset เดิม) ไปยังผู้ใช้ของ Tron และ EOS ได้เช่นกัน

เช่นเดียวกันกับฟีเจอร์อันเก่าที่ได้ปล่อยออกมาเพื่อเพิ่ม Seamless PlasmaChain Integration สำหรับผู้ถือ Ethereum Account ทั้งหมด เรากำลังสร้างการทำงานในรูปแบบเดียวกันสำหรับผู้ใช้ Tron และ EOS ด้วย

แปลว่าผู้ใช้ Tron และ EOS สามารถ:

· ซื้อไอเทมต่างๆ จาก PlasmaChain DApps/games โดยใช้ EOS และ TRX token ของตัวเอง — ทำให้นักพัฒนาเข้าถึง pool ที่ใหญ่มากขึ้นของของลูกค้าที่มีคุณภาพนั่นเอง

· ลงทะเบียนสำหรับการ Transaction บน PlasmaChain โดยใช้เพียงแค่ EOS และ Tron wallet เท่านั้น (เช่นเดียวกันกับ Scatter หรือ TronLink ที่เปรียบเสมือน MetaMask บนแพลตฟอร์มนั้นๆ ) มีการเชื่อมหรือ Integrate อย่างแนบเนียนเข้ากับ PlasmaChain บน Layer 1

หรือกล่าวอีกอย่างก็คือผู้ใช้งาน Ethereum,EOS และ Tron จะสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับ PlasmaChain DApp แบบเนียนๆ ได้เลยเหมือนกับว่ามันเป็น native DApp ของแพลตฟอร์มนั้นๆ

เห็นได้ชัดว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักพัฒนา DApp เพราะได้ให้โอกาสพวกเขาในการเข้าถึง pool ที่ใหญ่ที่สุดของผู้ใช้ crypto อย่างมี Friction เกิดน้อยที่สุดระหว่างกระบวนการ

นักพัฒนาทั้งหลายยังสามารถที่จะสร้าง DApp ของพวกเขาเพียงครั้งเดียวและ export ออกไปยังทุกแพลตฟอร์มทันทีเลย — เหมือนกับเวลาที่นักพัฒนาเกมมือถือสร้างเกมของพวกเขาขึ้นครั้งเดียวบน Unity แล้วแค่ export ออกไปยังแพลตฟอร์ม Android, iOS, Nintendo Switch และอื่นๆ

ผู้ใช้สามารถใช้งาน DApp เหล่านี้โดยไม่ต้องออกจาก DApp ecosystem เดิมของตัวเองที่พวกเขาคุ้นเคย และสามารถจ่ายเงินให้กับ Dev ในสกุลเงินใดๆ ก็ได้ที่พวกเขาต้องการ — ETH, EOS, TRX หรือจะเป็น ERC20 token ก็ได้ ตามใจเลยครับผม

เห็นได้ชัดว่าหากมีแพลตฟอร์มที่พูดไปนี้อยู่จริงก็จะมีความง่ายเกิดขึ้นอย่างมาก คงหาได้ยากที่จะมีคนมองข้ามช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมหาศาลขนาดนี้

เป้าหมายของ Loom Network ก็คือการมอบแพลตฟอร์มอย่างว่าให้กับนักพัฒนาทุกท่านเนี่ยแหละครับ

… และไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อ Devs เท่านั้น มันยังให้คุณค่ามหาศาลแก่ผู้ใช้บนทุก chain อีกด้วย

การให้ประโยชน์กับ End User (บนทั้ง 3 chain นี้)

ชัดเจนแล้วว่าการทำงานแบบ Interoperability สามารถช่วยให้นักพัฒนาได้เงินมากขึ้นจากการเข้าถึงผู้ใช้เป็นวงที่กว้างขึ้น

ตอนนี้ผมต้องการที่จะกล่าวถึงอีกแง่มุมนอกจากการเพิ่มรายได้ให้กับนักพัฒนา — การ Intergrate DApp โปรดของเราเข้ากับแพลตฟอร์มอื่นๆ ยังให้ประโยชน์แก่เราในฐานะผู้ใช้งานอีกด้วย

ขอเริ่มตรงที่โปรดักจะได้รับการพัฒนามากขึ้น หากนักพัฒนาที่ผลิต DApp สามารถทำเงินได้มากเพราะเขาจะมีเวลาและ resource ที่มากขึ้นในการลงทุน

การปรับปรุงโปรดักส่งผลต่อเราในฐานะผู้ใช้ที่จะได้รับมูลค่าพิ่มขึ้นแบบฟรีๆ

เราจะได้รับสินค้าและบริการที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายของการการปรับปรุงก็จะได้รับความสนับสนุนจากผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นนี่เอง

ถูกต้องแล้วครับแม้ว่าเราจะเกลี่ยดแพลตฟอร์มอื่นขนาดไหนแต่จริงๆ แล้วเรากลับต้องการให้นักพัฒนาสามารถทำเงินจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอื่นนั้นๆ อยู่ดี

เรายังจะได้เข้าถึง DApp มากขึ้นอีกด้วย — เพราะว่าหากนักพัฒนาต้องเลือกเพียงแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้นในการสร้าง ก็มีโอกาสที่สูงว่านักพัฒนาอาจจะเลือกแพลตฟอร์มที่คุณไม่ได้ใช้อยู่ก็เป็นได้

ไม่รู้ว่าทุกคนจะเคยเจอแบบผมมั้ย คือตอนเด็กผมครอบครอง gaming console เดียว — แต่เกมที่ผมอยากจะเล่นมากๆ มันดันอยู่บนแพลตฟอร์มอื่นเนี่ยสิ โห โคตรเซ็ง 🤯🤬😭

และยิ่งไปกว่านั้น เราจะได้รับ Network Effect และ Metcalfe’s law อีกด้วยดังเช่นกรณีของ DApp หลายๆ ประเภทที่ยิ่งมีจำนวนผู้ใช้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีปะระโยชน์ต่อผู้ใช้แต่ละคนมากขึ้นเท่านั้น

ยกตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือเกมออนไลน์เลยครับ ถ้าหากว่าเกมนั้นๆ ไม่ได้มีจำนวนคนเข้ามาเล่นเยอะ แน่นอนว่าปัญหาเกิดแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องของการหาคู่ต่อสู้เพื่อทำการจับคู่ต่อสู้กันเวลาเราจะเล่นเกม

และโดยเฉพาะบนเกม Blockchain-based ที่ไว้ให้เราขาย Asset บน P2P Marketplace ได้ — เรายิ่งต้องการให้มีคนที่อยากจะซื้อ Asset ของเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะแปลว่าเราก็จะสามารถปั่นราคาให้สูงขึ้นได้นั่นเองครับ

ในขณะที่เรากำลังเล่นเกมบนมือถืออยู่นั้น เราไม่ได้สนใจว่าคู่แข่งจะกำลังใช้ Android หรือ iPhone หรือ Nintendo Switch กันอยู่แล้วนี่นา — เรื่องพวกนี้มันไม่ได้มีผลต่อความสนุกในการเล่นแต่อย่างใด

เพราะเราก็ยังสามารถเล่นเกมจาก Device เราแบบชิลๆ เราสนใจแค่ว่าจะมีคู่ต่อสู้ให้เลือกแค่ไหนต่างหาก

ถ้ามองในแง่ของ Address network-specific เรามาดูตรงนี้กันดีกว่าว่า…

จะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ Ethereum อย่างไรได้บ้าง

Ethereum นับว่ามีจำนวนนักพัฒนาที่ใช้ทำงานอยู่จำนวนมากที่สุด เช่นเดียวกันจำนวนผู้ใช้ครับ

ล่าสุดแพลตฟอร์มอื่นเช่น Tron และ EOS ก็ได้เข้ามาในฐานะ “ภัย” ของ Ethereum Ecosystem –นักพัฒนาที่ได้สร้าง DApp ไว้บน Ethereum อาจจะโดนล่อลวงให้ไปเลือกTron และ EOS แทน เนื่องด้วยอาจจะมีจำนวนผู้ใช้และ transaction volume ที่เพิ่มมากขึ้นoyjogv’

เมื่อแพลตฟอร์มคู่แข่งเหล่านี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้มีนักพัฒนาจำนวนมากเอียงเอนไปเลือกแพลตฟอร์มใหม่มากขึ้น

อย่างไรก็ตามหากนักพัฒนาได้รับโอกาสในการสร้างแอพฯ บน EOS เพื่อเข้าถึงปริมาณผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น, มีตัวเลือกในการเข้าถึงผู้ใช้ทั้งบน EOS รวมไปถึง Ethereum และ Tron ในเวลาพร้อมๆ กันเลย — ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่เลือกอย่างหลังจริงไหมครับ

PlasmaChain คือ Ethereum Platform level 2 ที่ใช้รัน Solidity contract ตั้งแต่ที่เราได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์เหล่านี้เข้าไปและสามารถที่จะมอบความสามารถให้กับนักพัฒนาในการเข้าถึง pool ของผู้ใช้ที่เพิ่มเข้ามานี้จากภายใน Ethereum Ecosystem ได้เลย ทำให้เราสามารถรักษานักพัฒนาเหล่านี้ไม่ให้พวกเขาหนีไปที่อื่นได้

หากเราไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์พวกนี้เข้าไป — แน่นอนว่ามีคนอื่นที่รอทำอยู่แน่ และมันอาจจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยเน้น Ethereum เป็นหลักก็ได้

หากว่าผู้ใช้ EOS และ Tron ได้รับ Ethereum-based cryptoasset อาจทำให้พวกเขาเลือกที่จะส่งมันต่อไปยัง Ethereum เพื่อใช้บนตลาดและบริการบน Ethereum เท่านั้นก็เป็นได้ (Ethereum-only marketplaces and service) จากการที่มันเป็นเพียงแค่ตัวเลือก

ดังนั้นถ้าไม่สนใจมุมมองว่าเราคิดกับ Chain อื่นๆ นี้อย่างไรมันจะเป็นเรื่องดีอยู่แล้วสำหรับ Ethereum และ Ethereum Ecosystem ก็จะสามารถเติบโตไปได้อีก

ความดีงามต่อผู้ใช้ Tron และ EOS

การเชื่อมวงจรนี้เข้ามาจะทำให้เราสามารถเล่นกัน EOS หรือ TRX token ได้มากขึ้นซึ่งจะเพิ่ม Token Utility ของพวกเขาด้วยนี้เอง

มีเกมมากขึ้น มี DApp มากขึ้นก็จะมีความสนุก และมีลูกเล่นที่มากขึ้นครับ

แม้ว่า EOS และ Tron กำลังโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ขอบอกเลยว่ายังไง Ethereum ก็ยังคงมีจำนวนนักพัฒนาที่ต้องการสร้างบนแพลตฟอร์มนี้ที่เยอะมากๆ และมี Infrastructure ของนักพัฒนาที่ดคตรจะใหญ่ — นอกจากนี้การเชื่อมวงจรหรือ Integration จะมอบโอกาสในการเขข้าถึง DApp ทั้งที่มีอยู่ และที่จะเกิดในอนาคตที่สร้างขึ้นโดยนักพัฒนาเหล่านั้นอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถเข้าถึง DApp ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องออกนอก Tron และ EOS ecosystem แต่อย่างใด เราจะสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้เลยเพียงแค่ใช้ Scatter หรือ Tronlink พียงเท่านั้น — ง่ายราวกับว่าเป็น native ของ DApp ของ Tron หรือ EOS เลยก็ว่าได้

การ Integration นี้จะนำมาซึ่งจำนวน DApp ที่มากขึ้น, Token Utility, ผู้ใช้ที่มากขึ้นเพื่อเล่นเกมด้วยความที่มี Liquidity ของการ trade — มันเข้ามาหาคุณ ไม่ใช่ว่าคุณต้องเข้าหามันโดยการไปใช้แพลตฟอร์มอื่น

ทำไมจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ — บทเรียนจากวงการอื่นๆ

Network effect นั้นเป็นเรื่องที่เรียลมากๆ ครับ

เป็นไปได้ยากที่ผู้เล่นหนึ่งคนจะได้รับ Market Share ทั้งหมดในอุตสาหกรรม เพราะโดยปกติแล้วส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่จะถูกแบ่งกันระหว่าง Key players เท่านั้น

แม้แต่ Amazon ที่ก็เป็นกรณียกเว้นหนึ่ง ที่เป็นยักษ์ใหญ่ของวงการ e-commerce ก็ยังได้รับแค่ 50% ของการตลาดเท่านั้น โดย “minor players” หรือผู้เล่นกลุ่มเล็ก เช่น eBay และ Walmart ยังได้รับรายได้หลักสิบล้านและมีผู้ใช้จำนวนเกือบร้อยล้านอีกต่างหาก

ก่อนเข้ามาที่ Loom Network ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับ e-commerce อย่างมากและผมก็จำได้ว่าผู้สอนของท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ลูกค้าของ Amazon ก็คือลูกค้า Amazon ส่วนลูกค้าของ eBay ก็คือลูกค้าของ eBay”

สิ่งที่เขาท่านนี้ต้องการสื่อผมว่าน่าจะหมายถึง ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีที่โปรดของเขาเพียงที่เดียวในการช็อปปิ้งแบบออนไลน์และมีเปอร์เซ็นที่สูงมากที่พวกเขาจะไม่เปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มอื่นเลย เช่นเดียวกันกับผู้ใช้ของ Blockchain

ในฐานะของพ่อค้าที่ขายของออนไลน์ ผมมี take-home message มาให้ครับนั่นคือ:การที่คุณไม่ได้ขายสินค้าของคุณลงบนทุกแพลตฟอร์ม นั่นเท่ากับว่าคุณได้สละลูกค้าและรายได้มูลค่ามหาศาลไปจากการกระทำเช่นนั้นเป็นที่เรียบร้อย

Blockchain มีความแตกต่างออกไป — เพียงแค่แพลตฟอร์มเดียวเท่านั้นก็สามารถทำให้เรารวบหัวรวบหางได้เกือบ 99% ของส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมดและแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็จะเลือนหายไป

แต่ก็อาจจะไม่เป็นไปตามประวัติศาสตร์การตลาดของสมัยก่อนเสมอไป เพราะมีความเป็นไปได้ว่าหลาย Blockchain platform จะสามารถเติบโตจากการที่มีแฟนคลับและผู้ใช้ที่เหนียวแน่นได้ครับ

ในฐานะผู้ใช้ มีแนวโน้มว่าเราจะใช้เพียงแค่แพลตฟอร์มเดียวเป็นพิเศษเช่นกัน ผู้ใช้ Ethereum ก็คือผู้ใช้ Ethereum, ผู้ใช้ EOS คือผู้ใช้ EOS และผู้ใช้ Tron ก็คือผู้ใช้ Tron

แต่สำหรับนักพัฒนาที่กำลังสร้างสักโปรดักอยู่ เรื่องของการเสนอแอพพลิเคชั่นและการขายบริการของพวกเขาให้กับผู้ใช้ทุกคนบนทุกแพลตฟอร์มเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่นอน

เข้าสู่เรื่องของ Interoperability ระหว่าง chain หลักทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ — และที่ Loom แห่งนี้เราก็ตั้งใจที่จะเก็บตลาดเหล่านั้นให้เรียบด้วย PlasmaChain

จำที่ผมกล่าวเรื่องที่ผมมี Gaming console ในตอนเด็กได้มั้ยครับ คงน่าเซ็งมากๆ ถ้าเกมที่เราโคตรจะอยากเล่นเลยดันไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์มที่เรากำลังใช้อยู่

ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของนักพัฒนาแต่อย่างใด –เพราะมันอาจจะเป็นงานที่หนักเอาเรื่องในการสร้างเกมสักเกมบนหลายๆ แพลตฟอร์มที่แยกออกจากกัน เนื่องจากยังไม่มีเครื่องมือที่สามารถต่อ console หนึ่งเข้ากับอีก console หนึ่งได้

โชคดีที่ในปัจจุบัน เรามีเครื่องมือที่ดีอย่างเช่น Unity — ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างเกมเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วสามารถ export ไปยังทุกๆ device และ console ใดก็ตามที่เราต้องการ

สำหรับเกมมือถือ นักพัฒนาจะมีแพลตฟอร์มที่พวกเขาสามารถใช้ในการมอบการเข้าถึงทุกแพลตฟอร์มสู่เกมของพวกเขาให้กับทุกผู้ใช้

สำหรับ DApps และเกม ของ Blockchain — นักพัฒนาก็มี Loom Network นี่ไงครับ อิอิ

และในฐานะผู้ใช้ เราก็จะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดเลย — เพราะในตอนท้ายที่สุดแล้วเราจะได้รับ Utility มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นไปยังแพลตฟอร์มของเรานั่นเอง

อนาคตของ PlasmaChain — The Universal Layer2

ในเดือนมกราคมเราได้ประกาศการ Integration with Cosmos Hub ซึ่งเป็นก้าวแรกในการทำให้ PlasmaChain กลายเป็น multi-chain network

การ Integrate กับ EOS และ Tron ป็นหนึ่งในก้าวใหญ่ในเรื่องนี้ และเพื่อไปต่อ

เราได้วางแผนไว้ว่าจะ Integrate เข้ากับ chain อื่นใดๆ ก็ตามทั้งหมดที่มีอยู่ และนำผลประโยชน์กลับสู่นักพัฒนาและผู้ใช้ทุกท่ายอง PlasmaChain DApp

ในที่นี้ PlasmaChain ได้กลายเป็น Universal Layer 2 นั่นเอง

FULL DISCLOSURE: Loom Network ไม่ได้รับการสนับสนุนจาก EOS, Tron หรือ Ethereum แต่อย่างใดในการ integration นี้

Loom Network เป็นแพลตฟอร์มที่มีไว้สำหรับการสร้าง highly scalable DPoS sidechains เข้าสู่ Ethereum โดยที่มีจุดโฟกัสไปที่การเสกลเกมส์และโซเชียล แอพฯ ขนาดใหญ่

อยากรู้เรื่องราวไปมากกว่านี้? เริ่มอ่านจากที่นี่เลยครับ

คุณเป็นแฟนเกมส์ blockchainหรือเปล่าครับ ? ลองมาเช็ค Zombie Battlegroundเกมส์การ์ดแรกของโลกในระบบ PC & mobileที่รันระบบทั้งหมดบน blockchain

ถ้าคุณอ่านบทความนี้แล้วชื่นชอบ และอยากรู้ข่าวสารอัพเดทของเรา มาสมัครรับ private mailing list ของเราได้เลยครับ

https://loomx.io

ติดตามข่าวสารและพูดคุยกับทีมงาน Loom Network เป็นภาษาไทยได้ทางนี้ค่ะ!
ห้องแช็ท Telegram
แฟนเพจ Facebook

--

--