Enterprise Agile Coach Bootcamp: Day 2 — Coaching and START with NOW 2

3 min readJun 9, 2023

How can change be achieved without resorting to pushing or selling?

เปิดคลาสด้วยคำถามทรงพลังที่น่าสนใจอีกแล้วว่าจะนำการเปลี่ยนแปลงอย่างไรโดยที่ไม่ต้องผลักหรือขายแรงเกินไป อันนี้เป็นศิลปะและหัวใจของการเป็น Enterprise Agile Coach ลองมาดูเทคนิคที่แชร์กันในคลาส

1. Agile Coach Competency

พอพูดถึงทักษะหรือหมวกของ Agile Coach แบ่งออกเป็น 3 ส่วน

1 พื้นฐานความรู้คือ Agile-Lean
4 ทักษะหลัก คือ Teaching, Mentoring, Professional Coaching, Facilitating
3 ความเชี่ยวชาญ คือ Technical Mastery, Business or Product Mastery, Transformation Mastery

ถ้าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ผลัก สิ่งสำคัญคือ ต้องใช้ทักษะ Facilitating และ Professional Coaching นำพาทีมหรือองค์กรที่มีประเด็นที่อยากเปลี่ยนแปลงนำมาพูดคุยร่วมกัน โดยที่ Enterprise Agile Coach เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการ

2. Green words หรือ Red words

ในคลาสมีการ brainstorm คำที่ใช้แล้วเป็น GREEN words คือคำเหมาะสมในการใช้ Coaching และ RED words คือ คำที่ควรหลีกเลี่ยง ใช้กรณี Consulting ส่วนตัวมีคำที่ใช้ประจำที่ได้ผลดี ไปดูตัวอย่างของคำพวกนี้กันค่ะ

Green words:

Invite (ชวนมอง, ชวนคิด)
Consider (ลองพิจารณา)
Yes, and
Try (Experiment)
How might we
Share (ขออนุญาติแชร์)
What do you think?

Red words:

Should, Must, Have to
I think
Don’t
Why?
Do it / Follow
Yes, but
Sell, Push, Drive, Ensure

3. Levels of Listening

การเป็นโค้ชที่ดี เริ่มจากการฟัง ในคลาสจะมีการฝึกฟัง การฟังแบบโค้ชคือการฟังที่มุ่งเน้นสร้างบรรยากาศที่ทำให้โค้ชชี่อยากเล่าเรื่องให้โค้ชฟัง โดยให้จับคู่ผลัดกันเล่าเรื่อง อีกฝั่งให้ตั้งใจฟังและสำรวจความคิดของตัวเองว่าเป็นอย่างไร

4. History card game

กิจกรรมถัดไปให้จัดเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะได้รับการ์ด 1 ชุด ให้อ่านและคุยกันว่าเห็น Pattern อะไรบ้าง กิจกรรมนี้จริงๆ เพื่อให้เราเข้าใจพัฒนาการในด้วยความเชื่อ ความคิด โครงสร้าง วิธีการบริหารจัดการองค์กร ตั้งแต่ปี คศ 16xx — ปัจจุบัน แบ่งได้ประมาณ 3 ยุค

Age of Dependent ยุคนี้ยังมีทาส ใช้อำนาจควบคุม ความเชื่อ ศาสนา ผู้บริหารสามารถเป็นทหารและนักการเมือง
Age of Independent เริ่มมีวิทยาศาสตร์ เชื่อในปัจเจกบุคคล เริ่มมีนิติบุคคล องค์กร เลิกทาสในยุคนี้ แล้วก็มีแนวความคิดเรื่อง Taylorism เห็นคนเป็นวัตถุ เครื่องจักร
Age of Interdependent คนมีอิสระในการทำอะไรตามที่ต้องการ แต่ก็ยังขึ้นกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย เป็นยุค Internet เกิดขึ้น Higher Complexity มีข้อมูลมากมาย

สรุปคือ Agility ขององค์กรจะเกิดขึ้นได้ องค์กรต้องมีการปรับตัวและโครงสร้างให้สอดคล้องกับโลกที่ Complex เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้

5. START with NOW 2: Emotional Intelligence and Lego Serious Play

กิจกรรมช่วงบ่ายน่าสนใจมาก เป็นกิจกรรมที่ใช้ Lego Serious Play เข้ามาเพื่อหามุมมองร่วมของ Current State

เริ่มจากให้แต่ละคนลองสร้าง model จาก Lego เพื่อแทนคำว่า Emotional Intelligence
ทำเสร็จก็ให้แต่ละคนแชร์กันในกลุ่ม
จากนั้นก็ให้เราร่วมกันสร้าง 1 model จากชิ้นส่วนของ model ของเพื่อนๆ ในกลุ่ม
เสร็จแล้ว ให้แต่กลุ่ม present ให้ทุกคนฟัง

เป็นวิธีการที่ทำให้เกิด Generative Image/Creation หรือ 3rd Entity ของกลุ่ม

จบรอบ Emotional Intelligence ไปต่อทันที รอบนี้ทำวนขั้นตอนเดิม แต่เปลี่ยนหัวข้อเป็น Current State ขององค์กร ได้ออกมาเป็น model แบบนี้ เรื่องน่าแปลกคือทุกกลุ่มนึกถึงโครงสร้างขององค์กรที่โดยมากมี hierarchy อำนาจการสั่งการแบบ top-down และการสื่อสารกับคนในองค์กรที่ยังคงเป็นปัญหา แต่เป็นภาพที่เกิดขึ้นจากทุกๆ คน ถ้ามีเวลาสามารถร่วมกันทุกกลุ่มเพื่อเห็น Current State โดยรวมได้ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและสามารถเอาไปใช้ได้หลากหลาย

คำถามคือ ทำไมต้องเริ่มด้วย Emotional Intelligence

Simon ตอบว่า Emotional Intelligence ทำให้คนนึกถึง Self + Connections ช่วยแตกความเป็นตัวเราให้เป็นพวกเรา (I -> We) และมันก็ Abstract เพียงพอที่จะให้คนจินตนาการได้

ช่วง Debrief: คำถามที่ใช้คือ What, So What, Now What เพื่อให้พวกเราสำรวจสิ่งที่เราได้เรียนรู้ แล้วตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป

6. Coaching Range

สุดท้ายคือเรื่องของ Coaching range หลักๆ คือ เราต้องเข้าใจว่าโค้ช Focus ได้หลายระดับ เช่น Vision (purpose, why), Strategy (How), Operations (What) เราแค่ต้องทำความเข้าใจว่า เราได้ทำหน้าที่ครบทุกระดับหรือยัง ถ้ายังก็ตกลงกันว่าใครจะทำนั่นแหละ