ตามรอย Love Live! Sunshine!! ที่เมืองนุมะซุ (ตอนที่ 2) : ตลาดปลานุมะซุ + View-O

Kasidis Arunruangsirilert
3 min readApr 22, 2017

--

“View-O” จุดสังเกตุการณ์ประตูกั้นน้ำ Numazu

สวัสดีครับทุกท่าน! มากันต่อนะครับสำหรับการพาชมเมืองนุมะซุ ก่อนเราจะมาเริ่มกันในตอนที่ 2 ข้างล่างคือลิงค์ไปยังบล็อกในซีรี่ย์นี้ทั้งหมดครับ

ภาษาอังกฤษ

Part 1 : Numazu Downtown
Part 2 : Numazu Fish Market + View-O
Part 3 : Awashima Island
Part 4 : Uchiura (Mito Beach)
Part 5 : Uchiuranagahama

ภาษาไทย

ตอนที่ 1 : ตัวเมืองนุมะซุ
ตอนที่ 2 : ตลาดปลานุมะซุ + View-O
ตอนที่ 3 : เกาะอะวาชิมะ
ตอนที่ 4 : หาดทรายมิโตะ
ตอนที่ 5 : อุจิอุระ

ตลาดปลานุมะซุ

ในบล็อกที่ผ่านมา เราทิ้งท้ายกันไว้ที่บ้านของโยจัง ริมแม่น้ำคาโน ดังนั้นเราจะเริ่มที่นั่นละกัน การจะไปตลาดปลานุมะซุซึ่งอยู่ทางใต้ของตัวเมืองจะใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาทีจากสถานี โดยจากจุดที่เราอยู่ จะใช้เวลา 6 นาทีโดยประมาณ พูดแล้วคงไม่เห็นภาพกันใช่ไหมครับ? แปะวีดีโอกับแผนที่เลยดีกว่า รอบนี้อัพเกรดเป็น 1440p ตามสเป็คของกล้อง

และเราก็มาถึงที่ตลาดปลานุมะซุ พอลงจากรถมาผมก็รู้สึกได้ถึงปริมาณคนซึ่งมีมากกว่าที่สถานีรถไฟเสียอีก สงสัยตลาดปลาจะเป็นสถานที่ชุมนุมของคนในเมืองนี้…

มีร้านขายปลาเต็มไปหมดอย่างที่คิดเอาไว้ โดยรวมบรรยากาศครึกครื้นมาก มีคนเดินไปมาซึ้อขายของกันตลอด ระหว่างที่เดินถ่ายรูป คุณแม่ผมได้เดินไปซื้อปลาซาบะ ซึ่งผมได้ปิ้งกินในวันรุ่งขึ้น ขอบอกเลย สุโค่ยยยย อร่อยมากกก สดมากกกด้วย ถ้าใครมาเมืองนี้แล้วไม่ซื้อปลาหรืออาหารทะเล ถือว่าพลาดมากๆ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองริมทะเล ของทะเลจึงสดมากๆ นั่นเอง

ปลาซาบะกับซุปมิโซะตอนเช้าๆ

กลางตลาดปลาจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Numazukoshinkai ซึ่งเป็นจุดที่พวกปีสองพูดถึงในรายการวิทยุนั่นเอง

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Numazukoshinkai

ระหว่างทางไป View-O เราก็จะพบกับท่าเรือซึ่งคิดว่าเอาไว้สำหรับขนปลาจากเรือประมงขึ้นฝั่งในตอนเช้าเพื่อจะนำมาขายในตลาด

ท่าเรือสำหรับขนปลา

จากท่าเรือ เราสามารถมองเห็น View-O ได้อย่างชัดเจน

ภาพวิวจากท่าเรือ

ขับรถเข้าไปประมาณ 700 เมตร แล้วเราก็จะมาถึงที่จอดรถข้างๆ View-O

ลานจอดรถข้างๆ View-O

ก่อนที่ผมจะพาขึ้นไปชมวิวบน View-O ผมตัดสินใจเดินขึ้นชั้น 2 ของท่าเรืออีกท่าที่อยู่ข้างๆ View-O เพราะว่ามันคือจุดที่โยชิโกะจังถ่ายแบบขึ้นปก Blu-ray LL:SS แผ่นที่ 4 นั่นเอง

เทียบให้ดูเห็นๆ

จากท่าเรือ เราจะเห็นวิวประมาณนี้ ถ้าวันไหนไม่มีเมฆ เราจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดนี้

วิวจากบนท่าเรือ

โอเค คราวนี้ก็มาถึงพระเอกของเรา View-O นั่นเอง ตัวอาคารจะพาดบนแม่น้ำ กั้นระหว่างแม่น้ำกับทะเล ความสูงประมาณตึก 7 ชั้น

“View-O” จุดสังเกตุการณ์ประตูกั้นน้ำ Numazu

จะขึ้นไปจะต้องจ่ายค่าบัตรเสียก่อน! บัตรผู้ใหญ่ราคา 100 เยน บัตรเด็กราคา 50 เยน

ลิฟท์สำหรับขึ้นไปบนหอสังเกตุการณ์ด้านบนกับตั๋วผู้ใหญ่และเด็ก

พอขึ้นไปถึงภาพที่เห็นทำให้ผมนึกถึงฉากนี้ทันที…

ของจริงเทียบกับตอนที่ 11

ใช่เลย นี่มันคือจุดที่มาริจังกับโยจังนั่งคุยกันในตอนที่ 11 ซึ่งโยจังได้ระบายความรู้สึกที่มีต่อจิกะจังและริโกะจังให้มาริจังฟัง ไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว ผมได้ถ่ายภาพวิวของทั้งสองฝั่งมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ

ซ้าย — ฝั่งที่ติดทะเล ขวา-ฝั่งที่ติดตลาดปลา

เนื่องจากวันนั้นมีเมฆมาก ทำให้ภูเขาไฟฟูจิโดนเมฆครอบหัวอย่างที่เห็น

ภูเขาไฟฟูจิใส่หมวก

เนื่องจากตัวอาคารมีลิฟท์ทั้งสองฝั่ง ผมตัดสินใจลงอีกฝั่งเพื่อมาเก็บภาพ โดยฉากแรกที่เราจะเห็นคือฉากที่โยชิโกะจังยอมมอบตัวแต่โดยดีในตอนที่ 5 หลังจากวิ่งรอบเมืองมา

เทียบกับตอนที่ 5

ด้านขวาของ View-O จะติดกับสวนสาธารณะ Minatoguchi ซึ่งร่มรื่นและสงบมากกกก

สวนสาธารณะ Minatoguchi

ตรงข้ามห้องขายตั๋วของ View-O จะมีตู้ขายน้ำอยู่ ถ้าใครไปวิ่งแบบโยชิโกะจังมา ก็สามารถมาซื้อน้ำดื่มแก้กระหายได้ที่นี่ครับ

ตู้กดน้ำในตัวอาคาร View-O

ถ่ายรูปตัวเองบ้างดีกว่า ไหนๆในลิฟท์ก็มีกระจกให้แล้ว

ถ่ายรูปตัวเอง

เราพักกันตรงนี้ดีกว่า ในบล็อกถัดไป ผมจะพาทุกท่านไปชมเกาะอะวาชิมะ ซึ่งบ้านมาริจังกับคานันจังก็อยู่ที่นั่นแหละ และเราก็จะเข้าไปในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอะวาชิมะเพื่อไปชมปลากันอีกด้วย รวมทั้งวิ่งขึ้นไปบนศาลเจ้าอะวาชิมะเหมือนที่สาวๆวง Aqours วิ่งกันเพื่อออกกำลังกาย ดังนั้นอย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับผม

--

--

Kasidis Arunruangsirilert

A kid who is passionate in programming. Mentioned on Bangkok Post as “Youngest software developer”