Kashmir 8
New Year in Yusmarg
1 มกราคม 2559
ความเดิมตอนที่แล้ว…
ส่งท้ายปีเก่ากับโบราณสถานที่ Awantipura และสุดชิคแอนด์คูล สโลว์ไลฟ์กับการนั่งเรือ Shikara แบบมหาราชาไปตามลำน้ำของศรีนาการ์… [อ่านตอนเดิม]
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ตื่นมาฉลองปีใหม่ 2016 ที่อุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียส แต่ทำไมรู้สึกหนาวมากไม่ทราบ ต้องมานั่งอยู่ข้างๆ Bukhari ตลอดเวลา วันนี้เราเลยย้ายมากินอาหารเช้ากันที่โต๊ะข้างๆฮีทเตอร์นั่นเอง
วันนี้ราซูลบอกว่า จะให้ไปเที่ยวที่ ”Yusmarg” ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวบนยอดเขาไม่ไกลจากศรีนาการ์นักแห่งหนึ่ง แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปไม่ค่อยไปกัน และขากลับให้แวะเมืองๆหนึ่งด้วยนะ ยูต้องชอบมาก โอเค จัดไปตามป๋าสั่ง
สิบโมงครึ่ง เราออกไปขึ้นรถ อะชาร์ดรอเราอยู่แล้ว (สงสารเขาเหมือนกัน ไม่ได้หยุดวันปีใหม่ต้องมาแกร่วอยู่กับพวกเรา) รถแล่นไปตามถนนสาย 444 มุ่งหน้าทิศใต้ ก่อนจะเบี่ยงออกทางตะวันตกที่เมือง Chadoora เมืองนี้สับสนวุ่นวายมาก คนเยอะ รถเยอะ แต่ถนนแคบมากกกกก เราต้องขับรถ (“เรา” น่ะคือ อะชาร์ด) ข้ามแม่น้ำบนสะพานคอนกรีตแคบๆ แม่น้ำน้ำแห้งมาก จึงเห็นคนขับบางคันข้ามแม่น้ำโดยไม่ใช้สะพานก็มี
จากเมือง Chadoora เราเข้าสู่ถนนสาย Srinagar-Charar-i-Sharief (“Charar-i-Sharief” เป็นชื่อเมืองที่เราจะแวะขากลับ) ถนนแคบและค่อยๆไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้านหนึ่งเป็นเขาลักษณะคล้ายดินลูกรัง ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นหุบ (Valley) มีหมู่บ้าน สวนแอปเปิ้ลเป็นระยะ
ทางสูงขึ้นเรื่อยๆและพับไปพับมาเลียบเขาขึ้นไป ระยะทางจากศรีนาการ์ไป Yusmarg คือ 47 กม. แต่ใช้เวลาพอควรเนื่องจากทางแคบและมีหลายพับโค้ง ใช้ความเร็วไม่ได้มาก วันนี้ดูอะชาร์ดอารมณ์ไม่ค่อยดี ขับรถเกรียนมาก จนเด็กๆเกิดอาการเมารถเล็กๆ บนเขาเราผ่านค่ายทหารขนาดค่อนข้างใหญ่ มีเสาสัญญาญพร้อมจานดาวเทียมขนาดยักษ์ ดูไกลตอนแรกคิดว่าฐานส่งจรวดของอินเดีย (ฮา)
สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มมีต้นสน ก็เป็นสัญญลักษณ์ว่าจะเจอหิมะอีกแว้ววว..
จนขึ้นไปถึงยอดเขาก็เริ่มเป็นที่ราบกว้าง ของทุ่งหญ้าและสนอัลไพน์ Yusmarg นี้ถ้าหิมะลงหนักจะไม่สามารถไปถึงได้เพราะถนนจะถูกตัดขาด
”Yusmarg” (ฉันออกเสียงไม่เป็น คนท้องถิ่นจะออกเสียงคล้ายๆ -ยูส-มา-รึ-กึ- คือสำเนียงแบบลูกคอแขกตอนท้าย) เอกสารบางแหล่งใช้คำว่า “Yousmarg” ในภาษาแคชมีรี่แปลว่า ทุ่งหญ้าของพระเยซู (The Meadow of Jesus) โดยมีตำนานว่าพื้นที่แห่งนี้ เป็นที่พำนักของพระเยซูตอนเสด็จมาพักแรมที่แคชเมียร์ Yusmarg เป็นทุ่งหญ้าบนเขา Pir Panjal ซึ่งเป็นส่วนย่อยของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเขา Pir Panjal นี้จะมียอดเขาอยู่สองยอดคือ Tatakooti Peak กับ SUnset Peak มีแม่น้ำไหลผ่าน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของแคชเมียร์ สำหรับคนที่นิยมการเดินป่า (Trekking) [ดูข้อมูลเพิ่มเติม]
อันที่จริง ตอนไปแดดแรงมาก แต่มีหมอก และจุดที่ถ่ายรูปเป็นด้านย้อนแสง รูปที่ได้จึงไม่สวยเท่ากับที่เห็นด้วยตา (ออกตัวแรงมาก)
อะชาร์ดจอดรถหน้า ศูนย์นักท่องเที่ยว ซึ่งมีรั้วล้อมพื้นที่อยู่ เราต้องเข้าไปในพื้นที่ของการท่องเที่ยวฯนี้เพื่อเดินเล่น ชมทิวทัศน์ อากาศหนาวมากกกก นอกจากเราแล้ว มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียอีกหนึ่งครอบครัวเท่านั้น
พื้นที่ที่เราเข้ามาเดินเล่นกันนี้ เป็นทุ่งหญ้าเหนืออ่างเก็บน้ำ (ในรูปจะอยู่ต่ำลงไปทางด้านซ้ายมือของภาพ) มีบังกะโลแบบเคบินให้เช่าพักอยู่ 5–6 หลัง สีสันสวยงามน่ารัก เราเดินไปตามทางที่หิมะละลายมากแล้ว ส่วนในจุดที่ยังมีหิมะขาวๆฟูน่ารับประทานนั้น หิมะจะลึกประมาณน่อง หรือเข่าในบางจุดได้
กิจกรรมอีกอย่าง (แทบจะทุกสถานที่ท่องเที่ยว) ก็คือการขี่ม้า ที่นี่คนจูงม้าเดินมาตื้อเราอีกเช่นกัน แต่ทุกคนไม่นึกอยากขี่ สักพักชองซอนฮีมาบอกว่า จะขี่ม้าละ ไม่ใช่เพราะการตื้อ แต่นางสงสารทั้งม้าทั้งคนจูง เพราะราคาแค่ 100 รูปีเท่านั้น
เราใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปอยู่บนนี้สักสองชั่วโมงเห็นจะได้ ก็กลับ จุดหมายต่อไปคือการไปแวะเมือง Charar-i-Sharief ที่เราผ่านตอนขามา เมืองนี้น่าสนใจมากในเชิงกายภาพ
นั่งรถย้อนกลับทางเดิม คราวนี้ภูเขาไปอยู่ทางด้านขวา เห็นภูเขาตรงนี้แล้ว สงสัยว่าตอนฝนตกจะเป็นยังไง
Charar-i-Sharief อยู่เบื้องล่างข้างหน้า เราขออะชาร์ดจอดรถ ก่อนลงไปเก็บภาพมุมสูงของชุมชน (อันที่จริงหมายถึงหลังคาบ้าน)
อะชาร์ดจอดรถที่ลานคนเมือง หรือจตุรัสกลางเมือง ถ้าเป็นยุโรปก็แบบ กรองปลาซ นั่นเอง ด้านหนึ่งเป็นมัสยิดขนาดใหญ่ อีกสองด้านเป็นร้านค้า และอีกด้านหนึ่งเป็นทางเข้า-ออกลาน
มัสยิดแห่งนี้มีชื่อเสียงมาก เป็นที่ฝังศพของชีคชื่อ Shiekh Noor ud-Din ผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่นี้ โดยสอนศาสนาผ่านทางบทกวี คนแคชเมียร์นับถือและศรัทธาในตัวชีคคนนี้มาก ทุกๆปีจะมีงานเทศกาล ชาวแคชเมียร์นับพันจะมาฉลองเพื่อระลึกถึงชีคที่มัสยิดแห่งนี้
เราลงมาถ่ายรูปที่นี่กันอย่างสนุกสนาน ผู้คนและกิจกรรมในชีวิตประจำวันของชาวเมืองดูน่าสนุก บางคนก็จับกลุ่มกันสรวลเสเฮฮา บางคนก็ประกอบภารกิจของตนไป ที่น่าสังเกตคือ ร้านขายโรตีและของทอดมีเยอะจริงๆ รอบๆจตุรัสขนาดประมาณไม่เกิน 1,000 ตร.ม.นี้มีร้านขายโรตีถึง 4–5 ร้านเลยทีเดียว และไม่ใช่โรตีธรรมดาๆนะคะ มันคือโรตียักษ์!
เห็นเวลาคนมาซื้อ เขาไม่ได้ซื้อทั้งแผ่น แต่คนขายจะฉีกวางบนตาชั่ง แล้วตัก “ไส้” สีเหลืองๆในถาดข้างๆโปะลงไปเต็มทัพพี (เข้าใจว่าเป็นมันเทศบด) แล้วขยุ้มจากตาชั่งใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ แล้วหย่อนใส่ถุงก๊อบแก๊บก่อนจะยื่นให้ลูกค้า
นอกจากโรตีและไส้ ก็เป็นของทอดอื่นๆเช่น ข้าวโพดทอด ฟักทองทอด (สองอย่างนี้ลองซื้อมากิน เขาจะโรยผงๆคล้ายปาปริก้ามาให้ด้วย อร่อยดีค่ะ) มันทอด ทุกอย่างชุบแป้งหมด ซื้อมาถุงนึง 30 รูปี ได้เยอะกว่ากล้วยแขกผ้ากันเปื้อนหลากสีที่กรุงเทพนะคะ
ข้างทางเข้าด้านหน้ามัสยิด เป็นสถานีดับเพลิงที่มีรถดับเพลิงประจำการอยู่ 1 คัน ที่เห็นโผล่ออกมาครึ่งคันนั่นไม่ใช่ยากจนอะไร หรือสร้างเล็กไปนะฮะ มันคือการเตรียมพร้อม Alert ตลอดเวลา อิอิ
หลังจากถ่ายอาคารหมด พี่แมกซ์ก็เริ่มต้นการถ่ายรูปเด็ก โดยมีพี่พายน้องแพร์คอยแจกช็อคโกแลตเป็นรางวัล จากหนึ่งเป็นสอง สาม สี่ … มาเป็นพรวนเลย
แจกขนมจนหมด รวมไปถึงบุหรี่ให้พวกผู้ชายที่เดินเข้ามาขอด้วย แล้วเราก็จาก Charar-i-Sharief มา เดินทางกลับทางเดิม
ผ่านเข้าไปในเมือง Chadoora คราวนี้ตอนข้ามสะพานขากลับ ฉันถ่ายรูปสะพานที่เราข้ามตอนขาไปไว้ด้วย ในใจนึกขอบคุณพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราปลอดภัย ก็ดูสะพานสิคะ ตอม่อคอสะพานหักจนเทไปขนาดนั้น
ตอนเราผ่านเมือง ห้าโมงกว่าแล้วชาวบ้านก็กำลังทยอยปิดร้าน เราถ่ายรูปผ่านจากในรถ
กลับมาถึงบ้านเรือตอนทุ่มนิดหน่อยแล้ว ในสภาพรอบข้างมืดมิดและท้องร้องจ๊อกทีเดียว พุ่งเข้าใส่ข้าวแกงกะหรี่ไก่สิคะ จะรออะไร 555
เป็นการฉลองวันแรกของปีด้วยประสบการณ์แปลกใหม่ น่าประทับใจจริงๆ
.
.
.
ย้อนตอนเก่า
Kashmir 1: Planning
Kashmir 2: Unexpected Delhi
Kashmir 3: Assalām ‘alaikum Kashmir
Kashmir 4: “Gulmarg” Life is fun, Enjoy every minute
Kashmir 5: Being Kashmiri
Kashmir 6: Pahalgam “Valley of paradise”
Kashmir 7: Slow Life on New Year’s Eve
Kashmir 8: New year in Yusmarg
Kashmir 9: “Srinagar” City of Prosperity
Kashmir 10: khuda hāfiz Kashmir